|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ราคากระดาษส่อแววขยับขึ้นอีก หลังราคาเศษกระดาษและเยื่อกระดาษพุ่งไม่หยุด แถมต้นทุนพลังงานสูงขึ้น ปูนใหญ่ยอมรับราคากระดาษยังขึ้นไม่ทันต้นทุนที่ขยับเพิ่มไปก่อนหน้านี้ ด้านสมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทยวาดฝัน มูลค่าตลาดลูกฟูกขยับขึ้นเป็น 5หมื่นล้านภายใน2-3ปี พร้อมเรียกร้องรัฐตั้งกองเรือแห่งชาติอุ้มผู้ส่งออก
นายเชาวลิต เอกบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจกระดาษเครือซิเมนต์ไทย เปิดเผยว่า จากราคาเศษกระดาษได้ชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 250-260 เหรียญสหรัฐ/ตันในช่วงนี้ แต่ เชื่อว่าราคาเศษกระดาษคงจะปรับตัวสูงขึ้นอีกในเร็วๆนี้ เนื่องจากจีนยังมีความต้องการใช้เศษกระดาษอีกมาก เนื่องจากมีโรงงานผลิตกระดาษคราฟท์จำนวนมาก รวมทั้งต้นทุนพลังงานได้เพิ่มขึ้นจากเดิมคิดเป็นสัดส่วนเพียง 10% ขยับขึ้นเป็น 20% เป็นตัวผลักดันให้ราคาผลิตภัณฑ์กระดาษในภูมิภาคนี้ต้องทยอยปรับขึ้นราคาตาม
ปัจจุบันราคากระดาษคราฟท์อยู่ที่ตันละ 500 เหรียญสหรัฐ และกระดาษพิมพ์เขียนตันละ 1,000 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ต้นทุนเยื่อกระดาษก็ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ตันละ 750 เหรียญสหรัฐ ทำให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบอยู่ที่ตันละ 250 เหรียญสหรัฐ ซึ่งใกล้เคียงจากปีที่แล้ว แต่เนื่องจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นทำให้ส่วนต่างมาร์จินดังกล่าวแคบลง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเครือซิเมนต์ไทยมีโรงงานผลิตเยื่อกระดาษ ทำให้ได้รับผลดีจากราคาเยื่อกระดาษที่สูงขึ้นด้วย แต่เนื่องจากปีที่แล้วต้นทุนวัตถุดิบได้ปรับราคาสูงขึ้น แต่ผลิตภัณฑ์กระดาษไม่สามารถขยับราคาขึ้นตามได้ ทำให้ปัจจุบันแม้ว่าราคากระดาษจะทยอยขึ้นราคาแต่ขึ้นไม่เท่ากับต้นทุนวัตถุดิบที่ขึ้นไปก่อนหน้านี้
ส่งผลให้ไตรมาสแรกปีนี้ กลุ่มธุรกิจกระดาษเครือซิเมนต์ไทยมียอดขายรวม 1.22 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาและปริมาณขายผลิตภัณฑ์ ขณะที่กำไรสุทธิลดลง 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบและต้นทุนพลังงานที่ยังปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายเชาวลิต กล่าวถึงกรณีเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวลงจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของจีนว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวดังกล่าวเชื่อว่าการส่งออกจากจีนคงได้รับผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจากจีนส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯคิดเป็น 10%ของการผลิตทั้งหมด เนื่องจากสินค้าที่ผลิตส่วนใหญ่บริโภคภายในประเทศ เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯคงไม่ลุกลามไปกระทบเศรษฐกิจจีน
นายสุรชัย โสตถีวรกุล นายกสมาคมบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกไทย กล่าวว่า จากต้นทุนค่าขนส่งและน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้กระดาษลูกฟูกเตรียมปรับขึ้นราคาอีก 5% โดยคาดว่ามูลค่าบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกของไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 3 หมื่นล้านบาทเป็น 5 หมื่นล้านบาทในอีก 2-3ปีข้างหน้า ซึ่งบรรจุภัณฑ์ลูกฟูกประมาณ 30%ส่งออกไปต่างประเทศ จึงอยากให้รัฐช่วยลดต้นทุนผู้ส่งออกโดยเร่งจัดกองเรือแห่งชาติจากเดิมที่ต้องพึ่งพากองเรือต่างประเทศ
นายเกษม แย้มวาทีทอง นายกสมาคมบรรจุภัณฑ์ไทย กล่าวว่า ในปีนี้มูลค่าตลาดบรรจุภัณฑ์ไทยน่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 10-20%จากปีก่อน โดยคู่แข่งสำคัญคือ จีน เนื่องจากโรงงานผลิตสินค้าแบรนด์เนมดังตั้งโรงงานที่จีนทำให้มีการขยายโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ขึ้นมาก ทำให้ต้นทุนต่ำกว่า ดังนั้นไทยจำเป็นต้องปรับปรุงคุณภาพ รูปแบบดีไซน์ให้ทันสมัยรองรับการแข่งขันที่รุนแรง
|
|
|
|
|