Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2551








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2551
Powerhouse Museum             
โดย น้ำค้าง ไชยพุฒ
 


   
www resources

Powerhouse Museum Home Page

   
search resources

Museum
Powerhouse Museum




ลายผ้าตลอดช่วงอายุ 300 ปีที่ผ่านมา ข้าวของเครื่องใช้ในร้านค้ายุคเก่า รายชื่อหมู่ดาวบนท้องฟ้า และที่มาของรถไฟ ทุกอย่างที่กล่าวมาหาชมได้จากพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในซิดนีย์

อะไรที่ทำให้ผู้คนต้องหยุดยืนอยู่หน้ากระจกแล้วก้มลงอ่านข้อความที่ปรากฏบนแผ่นพลาสติกสีขาวตรงหน้าใจความว่า "หูห่วงอะลูมิเนียมที่ใช้ดึงเปิดฝากระป๋องถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อต้นปี 2503 อีกสิบปีให้หลัง Mike Debenham ก็ทำการคิดค้นหูห่วงแบบใหม่ที่ช่วยเปิดกระป๋องซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "Presto pop-top can" เขาออกแบบให้ผู้ใช้กดปลายหูห่วงลงบนฝากระป๋อง ออกแบบให้ยุบตัวลงเป็นรูตามขนาดที่ต้องการ และปลดปล่อยความดันจากภายในสู่นอกกระป๋องและกลายเป็นสิทธิบัตรกระป๋องติดหูห่วงที่เขาเป็นเจ้าของจนถึงทุกวันนี้" เป็นข้อความที่สื่อให้เห็นถึงการพลิกโฉมหน้าการใช้ชีวิตของคนทั้งโลก เพียงเพราะการคิดค้นหูห่วงบนฝากระป๋องอะลูมิเนียมธรรมดา ทำให้ผู้คนไม่ต้องใช้ที่เปิดฝากระป๋องอีกต่อไป

การนำเสนอความเปลี่ยนแปลงในการดำรงชีวิตทุกรูปแบบถือเป็นเป้าหมายสำคัญในฐานะของการเป็นพิพิธภัณฑ์ของ "Powerhouse Museum" กระทั่งนวัตกรรมการกดน้ำในโถชักโครก เครื่องมือรักษาอาการนอนกรนสำหรับคนอ้วน หัวจักรรถไฟ หรือแม้แต่แนวคิดในการพัฒนาสัญญาณไฟจราจร Powerhouse Museum ก็บอกว่ามันเปลี่ยนโฉมหน้าการใช้ชีวิตของคนทั้งโลกได้อย่างไร

เมื่อพิศจากภายนอกของ Powerhouse Museum ซึ่งเป็นตึกปูนชั้นเดียว ไร้สีฉูดฉาดทาทับ และตั้งโดดเด่นอยู่บนถนนคนละฝั่งกับตลาดนัดขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองซิดนีย์ มิอาจบ่งบอกหรือสื่อความหมายได้เลยว่าสถานที่แห่งนี้พิเศษอะไรมากกว่าการเป็นตึกที่ออกแบบให้แตกต่างกับตึกที่อยู่รายล้อมเพียงเท่านั้น

แต่เป็นเวลากว่า 129 ปีแล้วที่ตึกสีปูนนี้ทำหน้าที่รับใช้สังคมออสเตรเลียและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกในฐานะของการเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้

Powerhouse Museum ก่อตั้งขึ้นในปี 2422 หลังจากเปลี่ยนชื่อมาหลายครั้ง ก่อนมาลงตัวที่ชื่อ Powerhouse Museum เป็นส่วนหนึ่งของ Museum of Applied Arts and Sciences ในซิดนีย์ แต่คนส่วนใหญ่มักรู้จักและเรียกชื่อ Powerhouse Museum ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว Powerhouse Museum ไม่ได้จำกัดเฉพาะเรื่องราวทางด้านวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังรวมส่วนของการจัดแสดงที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ การสื่อสาร การขนส่ง เครื่องแต่งกาย เฟอร์นิเจอร์ สิ่งพิมพ์ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ อวกาศ ไปจนถึงกลไกทำงานของเครื่องยนต์

แม้ขนาดพื้นที่ของ Powerhouse Museum จะไม่ใหญ่เท่าพิพิธภัณฑ์ดังๆ ในอีกหลายประเทศ แต่ความโดดเด่นและแตกต่างอย่างการเป็นศูนย์กลางขององค์ความรู้ มากกว่าการเป็นสถานที่เก็บรักษาของเก่าก็ทำให้ Powerhouse Museum น่าสนใจขึ้นมาทันที

ที่นี่มีฐานข้อมูลการออกแบบลายผ้าตลอดระยะเวลา 300 ปี ที่เคยเก็บรวบรวมข้อมูล ทั้งๆ ที่อายุของพิพิธภัณฑ์ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของลายผ้าที่เคยคิดค้นขึ้นมาและเปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้ทั้งการสัมผัสด้วยตนเองและให้บริการฐานข้อมูลบนเว็บไซต์

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จัดแสดงแบบถาวรหลากหลายประเภทแล้ว ยังมีนิทรรศการชั่วคราวหมุนเวียนมาใช้พื้นที่ในการนำเสนอความรู้ให้กับผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสตลอดทั้งปี โดยมากแล้วผู้นำชมแนะนำว่าการเดินชมพิพิธภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยข้อมูลและความรู้อย่าง Powerhouse Museum ไม่สามารถทำได้เพียงวันเดียวเท่านั้น แต่อาจจะต้องใช้เวลามากกว่านั้น เพื่อเก็บรายละเอียดที่ต้องการได้อย่างครบถ้วน

ทุกๆ ก้าวใน Powerhouse Museum ผู้คนมักจะได้สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงในการใช้ชีวิตของมนุษยชาติตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และยังเสนอแนวคิดของการใช้ชีวิตในอนาคตด้วยในเวลาเดียวกัน

Powerhouse Museum จึงเป็นมากกว่าสถานที่เก็บรวบรวมของเก่า แต่สถานที่แห่งนี้กำลังทำหน้าที่เป็นแหล่งความรู้ที่สำคัญ อย่างน้อยก็สำหรับคนที่กำลังก้มลงอ่านข้อความหน้าตู้กระจกใส   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us