|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ พฤษภาคม 2551
|
|
ท่ามกลางความล้าและความเครียด แค่ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากน้ำมันหอมระเหยกลิ่นสมุนไพรที่โชยมาเตะจมูกพลันก็รู้สึกได้ถึงความผ่อนคลาย แต่เมื่อได้เข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบและอบอวลด้วยรูปรสกลิ่นเสียงแห่งธรรมชาติก็ยิ่งเข้าถึงความสบายทั้งกายและใจ ราวกับความวุ่นวายเข้าไม่ถึงพื้นที่หลบพักใจแห่งนี้ สมกับชื่อ “Thann Sanctuary” จริงๆ
บนชั้น 3 ของเกสรพลาซ่า สปาหรูซ่อนตัวอย่างเงียบๆ ณ มุมหนึ่งที่ปลอดความสับสน พลุกพล่าน ผนังสีขาวของร้าน Thann Native ที่อยู่ติดกัน ยิ่งขับให้โทนสีขรึมของสปาที่ชื่อ Thann Sanctuary โดดเด่นและดูลึกลับน่าค้นหา จนนักช้อปหลายคนหลากสัญชาติอดใจไม่ไหว ต้องเข้าไปแวะชม เพดานท่อนไม้ไผ่ร่วม 12,000 ท่อนถูกจัดวางอย่างประณีต ลดหลั่นไล่ระดับ สร้างอารมณ์เคลื่อนไหวราวลูกคลื่นเข้ากับผนังด้านในสุดที่ใช้โปรเจ็กเตอร์ฉายภาพหมู่ปลาคราฟต์แหวกว่ายในสายน้ำไหล แม้ไอเดียจะมาจากข้อจำกัดของพื้นที่ที่อยู่ในห้างและมีขนาดเล็ก แต่ก็แฝงด้วยความเชื่อของชาวตะวันออกและความมีชีวิตชีวา
ภายใน Thann Sanctuary บนพื้นที่ 160 ตารางเมตร ประกอบด้วยห้องทรีตเมนต์ 6 ห้อง 10 เตียง แต่ละห้องตกแต่งด้วยดีไซน์ที่มาจากแรงบันดาลใจของผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Thann (ธัญ)
Thann เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อความงามที่ต่อยอดมาจากแบรนด์ Harnn (หาญ) ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสมุนไพร โดยเป็นวัตถุดิบธรรมชาติจากไทยและจีนและใช้ศาสตร์ความรู้ทางการแพทย์แผนโบราณมาประกอบ ขณะที่ Thann จะมีการนำเอาศาสตร์ความรู้ทางแพทย์ผิวหนังสมัยใหม่มาผสมผสานกับสารสกัดจากธรรมชาติ
แต่ละห้องทรีตเมนต์ของ Thann Sanctuary ตกแต่งด้วยธรรมชาติซึ่งมาจากวัตถุดิบที่มีส่วนผสมสำคัญของผลิตภัณฑ์ Thann ทั้ง 6 คอลเลกชั่น รวงข้าวสีทองปลิวไสวถูกประดับในห้องที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Rice Collection ขณะที่ดอกลาเวนเดอร์ชูช่อสีม่วงอ่อนโยนคละกับโรสแมรี่ประดับไว้อยู่ในห้องสไตล์ Mediterranean Floral ขณะที่ห้อง Aromatic Wood ที่ประดับประดาด้วยผนังแก่นไม้ แต่โดดเด่นด้วยกลิ่นน้ำมันหอมจาก ส้มจีนและกลิ่นไม้หอมของต้นจันทน์ ส่วนห้อง Sea Foam เคร่งขรึมด้วยสีเขียวและภาพประดับของใบมินต์ โดยมีกลิ่นมินต์และยูคาลิปตัสหอมสดชื่นเตะจมูก ธีราปิสต์ค่อยๆ วางหินแร่ก้อนกลมดำตามจุดจักระทั้ง 7 ซึ่งเป็นจุดควบคุมการทำงานทั้งทางร่างกายและจิตใจ อุณหภูมิอุ่นของหินเมื่อสัมผัสกับผิวกายช่วยให้ผ่อนคลายและทำให้ใจนิ่งสงบได้อย่างไม่น่าเชื่อ ตามศาสตร์แห่ง Crystal Therapy เชื่อว่าหินสีดำช่วยดูดซับพลังงานด้านลบที่ส่งผลให้เกิดอาการตึงเครียดและเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อ รวมถึงความเจ็บปวดในบริเวณ ต่างๆ แล้ว หินแร่สีขาวก็ถูกวางแทน เชื่อว่าเพิ่มพลังบวกและปรับสมดุลให้แก่ร่างกายและจิตใจได้ จากนั้นธีราปิสต์บรรจงนวดกล้ามเนื้อและนวดคลึงเส้นเพื่อปลดปล่อยความตึงเครียดที่ฝังอยู่ในส่วนต่างๆ
นี่เป็นภาพความสบายที่มาจากหนึ่งเมนูที่เป็น Signature ของที่นี่ มีชื่อว่า "Black & White Onyx Stone Massage"
นอกจากนี้ยังมี Nano Shiso Therapy Treatment เป็นอีก Signature Menu ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัด Shiso Nano Particle อนุภาคขนาดเล็กของชิโสะ ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรชั้นสูงในตระกูลมินต์ที่มีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดอนุมูล อิสระและรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณช่วยทำให้สุขภาพผิวดี
"ขณะที่สินค้าโฮมสปาแบรนด์อื่นมีแค่อ่างให้ลูกค้าได้ทดลอง แต่สปาช่วยสร้างประสบการณ์ที่มีต่อแบรนด์สินค้าของเราได้มากกว่า ลูกค้าจะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของเราทั้งหมดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เช่น ผลิตภัณฑ์ทรีตเมนต์ แชมพู โลชั่น ฯลฯ บวกกับฝีมือนวดจากธีราปิสต์คนไทยก็ยิ่งเพิ่มคุณค่าของประสบการณ์ได้มากขึ้น" จารุพรรณ กระฐินทอง กล่าวในฐานะผู้จัดการร้านของทั้งสองแบรนด์
หลังจากนวดเสร็จ ลูกค้าจะได้รับชาสมุนไพรอุ่นๆ เช่น ชาเขียวผสมโสม ชาอัสสัม ชามะลิ ชาเก๊กฮวย ชาตะไคร้ ฯลฯ เสิร์ฟพร้อมผ้าอุ่นและผลไม้เย็นๆ โดยลูกค้าจะเลือกนั่งดื่มชา และดื่มด่ำกับความรู้สึกสงบใจและสบายกายต่อได้ที่ Tea Room อีกธุรกิจที่อยู่ภายใต้แบรนด์ Thann Native ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสปา
กลุ่มลูกค้าของ Tea Room เพื่อให้ลูกค้าสปาที่มารอทำสปา หรือมารอเพื่อนทำสปาได้นั่งเอกเขนกจิบชา ยังมีกลุ่มลูกค้าผู้ชื่นชอบการดื่มชาสมุนไพร โดยที่นี่มีชาสมุนไพรรสชาติและกลิ่นให้เลือกมากกว่า 40 ชนิด เช่น ตะไคร้ผสมมินต์ อัญชัญผสมเชอรี่ ใบหม่อนผสมข้าวคั่ว เป็นต้น อีกทั้งยังมีเบเกอรี่หน้าตาดีที่ทำใหม่สดโดยเชฟของร้านเองให้ได้ทานคู่กัน
คอนเซ็ปต์ของร้านชาแห่งนี้ถือเป็นแนวทางเพิ่มคุณค่าประสบการณ์ต่อผลิตภัณฑ์ของ Thann Native ได้เป็นอย่างดี แทนที่จะทำแค่เพียงชงชิม ...ไม่ต่างจากสปา ไม่ใช่เพียง Thann แบรนด์ Harnn ก็มีสปาที่ตกแต่งมาจากคอนเซ็ปต์ที่แข็งแรงของผลิตภัณฑ์เช่นกัน ร้าน Harnn ที่ชั้น 4 สยามพารากอน โดดเด่นด้วยกรงเหล็กที่เคาน์เตอร์จ่ายเงินเลียนแบบดีไซน์ของโรงรับจำนำ สินค้าที่แฝงดีไซน์และภูมิปัญญาตะวันออกถูกวางเรียงรายบนชั้นไม้
กลิ่นอายความเป็นเอเชียและอารยธรรมตะวันออกเข้าไปแฝงอยู่ในดีไซน์ของทุกห้องนวด ทั้งห้องสปาทรีตเมนต์ที่มีเพียง 2 ห้อง เตียงนวดเท้า 2 เตียงและห้องนวดไทย 1 ห้อง 2 เตียง
ปัจจุบันแบรนด์ Harnn และ Thann มีสปาอยู่ทั้งหมด 18 สาขาในหลายประเทศทั่วโลก โดยมี 15 สาขาอยู่ในต่างประเทศ และมีเพียง 3 แห่งในประเทศไทย โดยที่เกสรพลาซ่าเพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่วนแห่งที่ 4 ที่เซ็นทรัลเวิลด์กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ ขณะที่ Tea Room ปัจจุบันยังมีเพียงเกสรพลาซ่าแห่งเดียว
สำหรับตลาดหลักของ Thann Sanctuary เป็นกลุ่มไฮเอนด์ กว่า 70% เป็นชาวต่างชาติ ที่มาจากประเทศที่มีช้อป Thann และ Harnn อยู่ก่อนแล้ว ขณะที่จำนวนลูกค้าคนไทยกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ด้วยจำนวนห้องที่มีไม่มาก จารุพรรณจึงมักย้ำว่า "ควรโทรมาจองห้องก่อนทุกครั้งจะได้ไม่ผิดหวัง"
ด้วยมาตรฐานบริการและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ รวมถึงความเอาใจใส่ในการดีไซน์บรรยากาศของสปา Thann Sanctuary ได้รับรางวัลจากนิตยสาร Conde Nast Treveler ให้เป็น 1 ใน 55 สปาที่ดีที่สุดในโลกเมื่อปี 2549 และเป็น 1 ใน 5 สปาในประเทศไทยที่ได้ร่วมโปรแกรมรอยัลออร์คิด พลัส อีกทั้งยังได้รับเลือกเข้าร่วมโปรแกรมกับอีกหลากสายการบินในภูมิภาคเอเชีย
นับเป็นแบรนด์สัญชาติไทยที่สามารถพัฒนาภูมิปัญญาไทย เริ่มต้นจากผลิตภัณฑ์สบู่ต่อยอดจนเป็นบริการที่นำความสง่างามของไทยไปประดับบนเวทีโลกได้... แล้วไยคนไทยจะไม่สนับสนุน!!
|
|
|
|
|