Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2551








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2551
New kids on the road             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ทาทา มอเตอร์ (ประเทศไทย)

   
search resources

Automotive
ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย), บจก.




แม้ส่วนต่างการขายรถยนต์หนึ่งคันจะลดลงจาก 20% เป็น 5% แต่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยกลับมีผู้เล่นหน้าใหม่เพิ่มขึ้นหลายราย ไม่ว่าจะเป็นทาทา มอเตอร์ส บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่แห่งอินเดีย ซึ่งเข้ามาเปิดสายการผลิตในเมืองไทยผ่านการร่วมทุนกับกลุ่มธนบุรีประกอบรถยนต์ เพื่อหวังใช้ไทยเป็นฐานในการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงาน หรืออีโคคาร์ เพื่อส่งออก ท่ามกลางข่าวคราวการรุกคืบของทาทาไปยังฝั่งยุโรปด้วยการเข้าซื้อกิจการจากัวร์และแลนด์โรเวอร์ของอังกฤษ โดยทาทาเปิดขายซีนอน (Xenon) ปิกอัพขนาด 1 ตัน มีทั้งแบบสเปซแค็บ ตอนครึ่งและดับเบิลแค็บ 4 ประตู เป็นรถ 4X2 ยกสูง ทั้ง 2 โมเดล อย่างเป็นทางการในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2008 เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซีนอนของทาทาเป็นรถปิกอัพที่ชูเรื่องเทคโนโลยีประหยัดน้ำมันเพราะสามารถเติมไบโอดีเซล B5 ได้ ในเวลาเดียวกันยังเป็นโมเดลที่ผลิตสำหรับไทยเพียงเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาทาทาผลิตปิกอัพแบบตอนเดียวส่งขายในตลาดยุโรปเป็นหลัก

ไม่เฉพาะยี่ห้อรถทาทาเท่านั้นที่คนไทยจะเห็นว่ามีวิ่งตามท้องถนนมากขึ้น แต่ยี่ห้อรถยนต์แปลกตาจากเอเชียจะเข้าสู่ตลาดไทย กันมากขึ้น หลังจากที่ไทยมีข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน หรืออาฟตา ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษี นั่นหมายถึงต้นทุนที่ลดลงและราคารถต่อคันที่ต่ำลงด้วยในเวลาเดียวกัน

แม้แต่จีนก็จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของผู้เล่นหน้าใหม่ในการนำรถยนต์เข้ามาขายในเมืองไทยด้วยในไม่ช้านี้ แม้จะช้ากว่ามาเลเซีย ที่นำเข้าโปรตอนมาเปิดขายในไทยตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว และใช้กลยุทธ์ราคาต่ำและให้ระยะเวลาผ่อนนานเป็นหลัก

การนำรถยนต์นาซ่า (NAZA) มาเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ของในเครือยนตรกิจ กรุ๊ป โดยราคาของนาซ่าต่อคันอยู่ที่ 349,000 บาท นาซ่าเป็นแบรนด์รถยนต์จากประเทศมาเลเซียเช่นเดียวกันกับโปรตอน แต่อยู่ภายใต้การผลิตและจำหน่ายของกลุ่มนาซ่า บริษัท เทรดดิ้งรายใหญ่ของมาเลเซีย ที่ไม่เพียงแต่เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ เท่านั้นแต่ยังเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อีกหลายยี่ห้อ อาทิ มาสด้า เกีย และฮาเฟย-โลโบ แบรนด์รถยนต์ของจีน

แม้ยอดจองรถยนต์ตลอด 10 วัน ในงานมอเตอร์โชว์ฯ ที่ผ่านมาจะสูงถึง 18,098 คัน ผู้เล่นหลักในตลาดอย่างโตโยต้าจะยังครองแชมป์ด้วยยอดจองกว่า 5,137 คัน รองลงมาคือ ฮอนด้า ที่มียอดจอง ถึง 2,511 คัน อันดับที่ 3 คือ อีซูซุ มียอดจองประมาณ 2,490 คัน

แต่ทั้งทาทาและโปรตอน หรือนาซ่าก็มียอดจองทะลุเป้าหมาย ที่แต่ละคนตั้งเอาไว้แทบทั้งสิ้น เฉพาะนาซ่าเพียงรายเดียว 10 วัน ยอดจองมากถึง 524 คัน ถึงทาทาจะไม่มีการเปิดเผยยอดจองอย่างแท้จริง แต่ก็เชื่อกันว่างานนี้ทาทาประสบความสำเร็จไม่น้อย อันเป็นผลมาจากการตลาดรถยนต์ส่วนใหญ่ของไทยยังเป็นรถยนต์ปิกอัพนั่นเอง

คาดการณ์กันว่าปี 2551 ตลาดรถยนต์ของไทยจะมียอดขายรวม 700,000 คัน และผู้ซื้อส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับรถประหยัดพลังงานกันมากที่สุด ในขณะที่ผู้ผลิตหน้าเดิมต้องทำงานหนักกว่าเคย นั่นเป็นเพราะผู้เล่นหน้าใหม่กำลังเข้ามาช่วงชิงพื้นที่วิ่งบนท้องถนนของเมืองไทยอย่างเต็มรูปแบบเลยทีเดียว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us