|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
PHATRA โชว์งบไตรมาสแรกปีนี้กำไรโตเกือบ 26% ผลจากรายได้ทุกสายธุรกิจ โดยเฉพาะรายได้ค่านายหน้าในการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มไปถึง 69% เนื่องจากได้ปรับอัตราค่าธรรมเนียมการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อหรือขายหลักทรัพย์กับเมอร์ริลลินช์เป็นแบบลักษณะคู่ค้า(Exclusive Partner) ตั้งแต่วัน3 ส.ค.50
นายสุวิทย์ มาไพศาลสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) (PHATRA ) แจ้งผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ (ก่อนสอบทาน) ว่าบริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 129.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 26.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.45% จากกำไรสุทธิจำนวน 103.62 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 ของปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ ซึ่งรายได้ค่ารวมไตรมาสแรกมี 389.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.54 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 19.52% จากยอดรายได้รวมจำนวน 325.57 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปี 50 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ทุกสายธุรกิจ
โดยรายได้ค่านายหน้าจาการซื้อขายหลักทรัพย์ มูลค่าเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทได้ปรับอัตราค่าธรรมเนียมการเป็นนายหน้าหรือตัวแทนซื้อหรือขายหลักทรัพย์กับเมอร์ริลลินช์เป็นแบบลักษณะคู่ค้า(Exclusive Partner) ตามที่ตลาดหลักทรัพย์อนุญาตตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 50 การปรับอัตราค่าธรรมเนียมการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ดังกล่าวส่งผลให้สัดส่วนรายได้ค่านายหน้าจากลูกค้าแต่ละประเภทในไตรมาสที่ 1 ของปี 51เปลี่ยนแปลงจากไตรมาสที่แรกปี 50
ขณะที่รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพิ่มขึ้น ผลจากนักลงทุนสถาบัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสถาบันต่างประเทศและ 46.45 %มาจากนักลงทุนบุคคลรายใหญ่ และ มีส่วนแบ่งการตลาดสำหรับตลาดอนุพันธ์ ในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ 4.72% ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ สูงขึ้นจากปีก่อน เพราะรายได้ที่ปรึกษาทางการเงินและการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการเป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุนให้กับบริษัทจัดการกองทุนรวมต่างๆ รวมทั้งกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์และกำไรจากการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ ขยับเพิ่มตามกัน สวนทางกับรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลง
สำหรับค่าใช้จ่ายไตรมาสแรกนี้เพิ่มขึ้น 28.37 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นในอัตรา 15.19 %จากค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 186.77 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 ของปี 50 ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมเงินเพิ่มขึ้นอันเป็นผลจากจำนวนเงินวางประกันเพิ่มขึ้น ค่าธรรมเนียมและบริการจ่ายลดลง เพราะบริษัทไม่มี ภาระผูกพันเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระภายใต้สัญญาการให้บริการทางธุรกิจกับเมอร์ริล ลินช์ ตั้งแต่ 10 กันยายน 50 รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ต่างขยับเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้น และผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับรายได้ของบริษัทที่เพิ่มขึ้นด้วย
|
|
|
|
|