Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 เมษายน 2551
น้ำประปาไทยระดมทุน4.5พันล้าน             
 


   
search resources

Water Supply and Irrigation
น้ำประปาไทย, บมจ.




น้ำประปาไทย เคาะราคาไอพีโอบาท 4-4.50 บาท เปิดจอง 1 พันล้านหุ้น มูลค่าระดมทุนรวมเกือบ 4.5 พันล้านบาท ระหว่าง 12-13 พ.ค.นี้ ก่อนจะเข้าเทรด 22 พ.ค. 50 ผู้บริหาร มั่นใจดันมาร์เกตแคปตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มอีก 1.6-1.8 หมื่นล้านบาท พร้อมเปลี่ยนนโยบายจ่ายปันผลเป็นไม่ต่ำกว่า 50% จากเดิม 10% หวังสร้างความน่าสนใจแก่นักลงทุน ด้านที่ปรึกษาเผยราคาจองให้ส่วนลดนักลงทุน 10% เตรียมดันบริษัทก่อสร้างอีก 1 แห่ง เข้าจดทะเบียนปีนี้ มูลค่าระดมทุน 1 พันล้านบาท

นายสมโพธิ ศรีภูมิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TTW เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ว่า บริษัทกำหนดช่วงราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอไว้ที่หุ้นละ 4-4.50 บาท เปิดจองซื้อในวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2551 โดยจะสรุปราคาไอพีโอในวันที่ 14 พฤษภาคม และคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้

ทั้งนี้ บริษัทจะมีการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) แก่นักลงทุนสถาบันตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน - 6 พฤษภาคม และวันที่ 7 พฤษภาคมจะเป็นการให้ข้อมูลแก่นักลงทุนทั่วไป แต่จะงดการโรดโชว์ในต่างประเทศ จากเดิมมีแผนที่จะโรดโชว์ในแถบเอเชีย เนื่องจากหากบริษัทไปโรดโชว์บริษัทจะต้องใช้ข้อมูลต่างๆ เช่นงบการเงินใน ณ ไตรมาส 1/51 ทำให้ต้องมีการแก้ไขแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ใหม่ และจะต้องเข้าซื้อขายภายในวันที่ 13-14 พฤษภาคม ทำให้บริษัทมีการดำเนินการไม่ทัน

สำหรับนักลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นของบริษัท สามารถจองซื้อผ่านบริษัทหลักทรัพย์ 7 แห่ง คือ บล.กสิกรไทย บล.ทิสโก้ บล.ไทยพาณิชย์ บล.ธนชาต บล.บัวหลวง บล.เคทีบี และบล.นครหลวงไทย โดยนักลงทุนต้องจองในราคาสูงสุดที่หุ้นละ 4.50 บาทก่อน ซึ่งหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเพิ่มเป็น 3,990 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) ประมาณ 15,960-17,955 ล้านบาท

ส่วนรายละเอียดการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้นรวม 1,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 700 ล้านหุ้น และหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิม 5 ราย อีก 300 ล้านหุ้น คือ บมจ.ช.การช่างบริษัท มิตซุย วอเตอร์โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) บมจ. ทางด่วนกรุงเทพ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารทหารไทย ซึ่งกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมจะมีผลกระทบต่อการถือครองหุ้น (ไดลูท) 25% โดยจะเสนอขายแก่ นักลงทุนสถาบันต่างประเทศและในประเทศในสัดส่วน 65%หรือจำนวน 650 ล้านหุ้น เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป 300 ล้านหุ้น และอีก 50ล้านหุ้น เสนอขายแก่ผู้มีอุปการคุณ

นายสมโพธิ กล่าวว่า เงินที่ได้จากการะดมทุนครั้งนี้ประมาณ 4,000-4,500 ล้านบาท บริษัทจะนำไป ชำระหนี้เงินกู้ระยะสั้นจำนวน 3 พันล้านบาท โดยตามกำหนดแล้วบริษัทจะต้องชำระหนี้ให้เสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัทและบริษัทลูกมีหนี้ลดเหลือ 1.1 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนหนี้สินค่อทุน 1.2-1.3 เท่า ลดลงจากเดิมอยู่ที่ 2.6 เท่า รวมทั้ง บริษัทได้มีการแก้ไขเรื่องนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทจากเดิมที่จะปันผลไม่เกิน 10% กำไรสุทธิ เป็นไม่ต่ำกว่า 50%ของกำไรสุทธิ

ทั้งนี้เพื่อสร้างความน่าสนใจให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัท และให้ใกล้เคียงกับบริษัทที่อยู่ในกลุ่มพลังงาน ซึ่งบริษัทจะมีการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2550 จำนวน 0.15 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 60% ของกำไรสุทธิ หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5-6% ซึ่งจะจ่ายในเดือนตุลาคม 2551นี้ และมีการจ่ายเงินปันผลช้า เพราะติดเงื่อนไขของเจ้าหนี้ที่กำหนดให้บริษัทต้องชำระหนี้เงินกู้ระยะสั้น 3 พันล้านบาทให้ครบก่อนจึงจะสามารถจ่ายปันผลได้

"บริษัทมั่นใจว่าการเสนอขายหุ้นครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี เพราะอยู่ในหมวดสาธารณูปโภค และประชาชนทุกคนต้องใช้น้ำในชีวิตประจำวัน และมีอัตราการเติบโตของผลประกอบการที่ดี"

โดยปี 2550 ที่ผ่านมา บริษัทมีอัตรากำไรสุทธิระดับสูงถึง 30% หรือมีกำไรสุทธิ 1,020 ล้านบาท มีรายได้รวม 3,250 ล้านบาท และคาดว่าในปีนี้ทิศทางของผลประกอบการน่าจะดี เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำน่าจะเติบโตจากการเพิ่มกำลังการผลิตในบริษัทลูกคือ บริษัท ประปาปทุมธานี อีก 1 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มเป็น 6 แสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน รวมถึงได้ปรับเพิ่มราคาขายน้ำตามสัญญาสัมปทานไปแล้ว น่าจะทำให้ทิศทางผลประกอบการของบริษัทในปีนี้น่าจะดีขึ้น

นายวรวัจน์ สุวคนธ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ราคาจองน้ำประปาที่ 4-4.50 บาท มีค่า P/E 10-11 เท่า ซึ่งมีส่วนลดให้แก่นักลงทุนประมาณ 10% จากกลุ่มพลังงานที่มีค่า P/E ที่ 12 เท่า

ส่วนบริษัทต่อไปที่จะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปีนี้ อีก 1 บริษัท ซึ่งประกอบธุรกิจก่อสร้าง ซึ่งมีมูลค่าการระดมทุนจำนวน 800-1,000 ล้านบาท โดยจะเข้าจดทะเบียนได้ในไตรมาส 4/51

นอกจากนี้ ในปี 2552 จะนำบริษัทที่ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลเข้าจดทะเบียนเพิ่ม โดยจะมีมูลค่าระดมทุนประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท และบริษัทยังมีงานเกี่ยวกับการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการควบรวมกิจการ (M&A) จำนวน 4-5 ดีล ซึ่งเป็นทั้งบริษัทนอกตลาดและในตลาด โดยเป็นธุรกิจประกันภัย และเช่าซื้อรถยนต์ โดยเป็นบริษัทที่ไม่มีธนาคารเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทำให้ขาดเงินทุนในการทำธุรกิจ เพราะธุรกิจดังกล่าวมีการแข่งขันที่สูง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us