Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤษภาคม 2532








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤษภาคม 2532
วันนี้ของ GP GROUP             
 


   
search resources

GP Group
Import-Export
จี เปรม จี




70 ปีก่อนการค้าพืชผลส่งออกส่วนใหญ่จะอยู่ในมือของพ่อค้าจีนจในไทยแทบทั้งนั้น นี่ ไม่นับพ่อค้าฝรั่งอย่าง บอร์เนียวเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ที่ลงหลักปักฐานในเมืองไทยมาเกือบศตวรรษแล้วทั้งนั้น ซึ่งพ่อค้าฝรั่งเหล่านี้ก็ทำมาหากินจากสัมปทานป่าไม้บ้าง สั่งของจากยุโรปพวกสินค้าอุปโภคที่เมืองไทยยังผลิตไม่ได้เข้ามาขายบ้าง ไหนเลยจะมีใครคิดว่าในบรรดาพ่อค้าพืชผลส่งออก ปรากฏมีพ่อค้าอินเดียวอย่าง จี เปรม จี รวมอยู่ด้วย

วงการธุรกิจไทยในสมัยก่อน รู้จักพ่อค้าชาวอินเดียวในฐานะเป็นพ่อค้าผ้าแถวพาหุรัด สำเพ็งเสียเป็นส่วนมาก แต่กลุ่มพ่อค้าจีเปรม จี ไม่เป็นอย่างนั้น กลับทำมาค้าขายพวกข้าว ข้าวโพดอ้อย ถั่วทุกชนิด แข่งกับพ่อค้าจีนได้อย่างสบาย

จากการที่บริษัทรุ่นพ่อได้วางรากฐานมาเป็นอย่างดี จนในปัจจุบันบริษัทรุ่นลูกได้เติบโตแตกกิ่งก้านสาขาไปทั่วโลกกว่า 300 แห่งแล้วมีรายได้อยู่ในระดับพันล้านบาท และที่สำคัญมีสำนักงานใหญ่ และเป็นฐานธุรกิจที่เป็นหัวใจตั้งอยู่ในเมืองไทย

ธุรกิจที่ทำอยู่ในขณะนี้ได้ขยายออกไปในหลายประเภทจากธุรกิจแบบซื้อมาขาย ไป ก็ลงสู่การผลิตเชิงอุตสาหกรรมที่เห็นเด่น ๆ ก็ อุตสาหกรรมยา พวกเคมีภัณฑ์ วิตามิน และซอฟท์แคปซูลในนามบริษัท MEDICAP แล LUPIN CHEMICALS นับว่าเป็นการลงสู่ธุรกิจทางด้านอุตสาหกรรมที่กล้าหาญเอามาก ๆ เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าอุตสาหกรรมยาในเมืองไทยอยู่ในมือของฝรั่งอเมริกัน และญี่ปุ่นเกือบทั้งหมด แต่จี เปรม จี ก็กล้าที่จะทำ โดยการผลิตเป็นสินค้าเพื่อการอุตสาหกรรม พูดอีกนัยหนึ่งก็คือผลิตสนิค้ายาพวกเวชภัณฑ์ประเภทเป็นวัตถุดิบเพื่อป้อนสู่โรงงานยาอีกต่อหนึ่ง เป็นส่วนใหญ่

เมื่อโรคเอดส์ระบาดไปทั่วโลกเมื่อ 4 ปีก่อน และความต้องการถุงมือยางในตลาดโลกยังมีอยู่มากจี เปรม จีก็สามารถจับกระแสได้แม่น การลงสู่อุตสาหกรรมเคมียาง จึงได้เกิดขึ้น ซึ่งไทยก็มีวัตถุดิบยางพาราอยู่มากมายมหาศาลแถวภาคใต้ อำเภอพุนพินสุราษฎ์ธานี นั้นคือที่ตั้งโรงงานทั้ง 6 บริษัทของ จี เปรม จี

บริษัท LATEX PRODUCTS ทำหน้าที่ผลิตน้ำยางข้น โดยรับซื้อน้ำยางสดจากชาวสวนยางบริษัท HITECH POLYMERS ผลิตส่วนผสททางเทคมีเพื่อการผลิตสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางบริษัท UNIGLOVES ผลิตถุงมือยางประเภท EXAMINATION บริษัท UNISTRETCH ผลิตยางยืดสำหรับอุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปบริษัท SURETEX ผลิตถุงยางอนามัยและบริษัท FLEXIBANDS ผลิตยางรัดสิ่งของ กลุ่มโรงงานผลิตภัณฑ์ยางเหล่านี้มีมูลค่าการลงทุนนับพันล้านาบาท ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมาเท่านั้นเอง ซึ่งการผลิตเป็นไปอย่างต่อเนื่องแทบจะไม่เหลือเศษให้ทิ้ง เรียกว่าผลิตครบวงจร

ปรากฏการณ์ลงทุนสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ยางเช่นนั้นสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการทำธุรกิจในรุ่นลูกของจี เปรม จี ได้อย่างดีว่า กลุ่มนี้ได้พลิกโฉมจากธุรกิจซื้อมาขายไปเป็นธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิต ตามกระแสการพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจของไทย ที่เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และแรงงานที่นับวันมีฝีมือมากขึ้น

บริษัท จี เปรม จี จำกัด ในรุ่นพ่อ มาในรุ่นลูกปัจจุบันคือ G.P GOUP OF INDUSTRIES โดยมี กีลิด ชาร์ ผู้เป็นลูกของนายห้างจี เปรม จี ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการของกลุ่มบริษัท และมี D.N.AZAD เป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัททั้ง 8 บริษัทในกลุ่มเป็นหุ้นส่วนของบริษัทรวมทั้งเป็นที่ปรึกษาฝ่ายเทคนิคการผลิตของบริษัทด้วย

D.N.AZAD กล่าวกับผู้จัดการว่า โรงงานผลิตยาและผลิตภัณฑ์ยางทำหน้าที่เป็นผู้ผลิต ป้อนสินค้าให้แก่บริษัท จี เปรม จี จำกัด ซึ่งทำหน้าที่เป็นฝ่ายเทรดดิ้ง สินค้าที่ผลิตส่วนใหญ่จะเป็นการส่งออกประมาณ 80% ของผลผลิตทั้งหมด โดยบริษัทมีออฟฟิศ่ขายอยู่กว่า 300 แห่งในต่างประเทศทั้งในอังกฤษ, สหรัฐ, แคนาดา, ดูไบ, ซาอุดีอาระเบีย, สิงคโปร์และอินเดีย

ยอดขายปีที่แล้ว จี เปรม จี มีจำนวนกว่า 3,000 ล้านบาทมีเครือข่ายธุรกิจอย่างครบวงจรทั้งฐานการผลิต บริษัทส่งออก กองเรือส่งสินค้า บริษัทตัวแทนในต่างประเทศ ในอเมริกาเหนือ เอเชียยุโรปตะวันตก และตะวันออกกลาง

พรุ่งนี้ของ จี เปรม จี ในสายตาของ D.N.AZAD เขาเชื่อมั่นในทิศทางธุรกิจของกลุ่มในการเข้าสู่อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ยาง ที่ตลาดโลกกำลังต้องการ และในฐานะที่เป็นที่ปรึกษาทางด้านเทคนิคการผลิตเขากล่าวว่า "เราเน้นที่การผลิตเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพ ด้วยบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ" และอาจจะด้วยเหตุผลนี้เองการผลิตสินค้าของกลุ่มจึงมีผู้เชี่ยวชาญจากทั้งอินเดียและเยอรมันคอยให้การปรึกษาและการให้อบรม เพื่อสร้างบุคลากรของกลุ่มให้มีประสิทธิภาพและในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญนี้จะมี วิเวก และวินัย ดาวัน ลูกชาย ทั้งสองคนของ D.N.AZAD รวมอยู่ด้วย

วินัย ดาวัน เป็นวิศวกรเคมีคนเดียวของครอบครัว สำเร็จการศึกษาด้าน CHEMICAL ENGINEERING จากสหรัฐอเมริกาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทั่วไปของกลุ่ม บริษัทอุตสาหกรรมเคมียางทั้ง 6 บริษัทที่สุราษฎร์ วิเวกดาวัน สำเร็จการศึกษาทางด้านวิศวกรเครื่องกล จากสหรัฐอเมริกาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัทเคมียางทั้ง 2 บริษัทที่บางปู สมุทรปราการ ทั้งสองร่วมกันประสาน 8 บริษัท เข้าด้วยกัน นับว่าเป็นการสืบทอดสายการบริหารงานของกลุ่มบริษัทได้เป็นอย่างดี

กระแสการเชื่อมโยงอย่างไม่ขาดสายของชุมชนธุรกิจอินเดียวไม่ว่าจะก่อร่างขึ้นในไทยหรือที่อินเดีย ต่างก็ไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก ในรูปลักษณ์ของการทำธุรกิจเบอร์ล่ากรุพในอินเดีย ยิ่งใหญ่ขนาดไหน ก็คงไม่ต่างจาก G.P GROUP OF INDUSTRIES หรือ G P GROUP ในเมืองไทย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us