TGPRO งัดกลยุทธ์สู้ศึกสินค้าเกรดต่ำ เปิดตัวสแตนเลสดีไซน์ใหม่รุกอสังหาฯ เจาะตลาดตกแต่ง พลิกโฉมรีแบรนด์ครั้งใหญ่ เร่งสร้างการรับรู้ตลาดเรื่องสแตนเลสผ่าน Call Center และทีมตรวจคุณภาพ หวังเปลี่ยนพฤติกรรมตลาดใช้สแตนเลสของแท้

แม้ทิศทางการทำตลาดของ TGPRO หรือไทย-เยอรมัน โปรดักส์แต่เดิมจะเน้นการผลิตท่อสแตนเลสคุณภาพสูงเพื่อใช้ในงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก แต่เมื่อแตกไลน์เข้ามาสู่การผลิตท่อสแตนเลสสำหรับงานตกแต่ง ทำให้ TGPRO พบว่าโอกาสของตลาดสแตนเลสในไทยยังมีอีกมาก เห็นได้จากยอดการใช้สแตนเลสของคนไทยที่ยังต่ำกว่าต่างประเทศอยู่มาก ความรู้ของผู้บริโภคเรื่องสแตนเลสยังมีน้อย พร้อมกับการเข้ามาแย่งแชร์ในตลาดของผู้ผลิตสแตนเลสเกรดต่ำ ทำให้โจทย์สำคัญที่ TGPRO จะต้องเร่งทำ คือ เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องสแตนเลสแท้ให้กับตลาด เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้หันมาใช้สแตนเลสคุณภาพสูง

“ทุกวันนี้ผู้บริโภคเข้าใจเรื่องสแตนเลสน้อยมาก รู้แต่ว่าสแตนเลสใช้แล้วไม่เป็นสนิม แต่ไม่รู้ว่าสแตนเลสคุณภาพสูงเป็นอย่างไร จนถูกหลอกให้ซื้อของเกรดต่ำที่ตั้งราคาใกล้เคียงกับเกรดสูง จึงเข้าใจผิดว่าเป็นเกรดสูง ทั้งๆ ที่ต้นทุนจริงราคาต่ำกว่ามาก แต่ไม่ได้มีคุณสมบัติป้องกันสนิมจริงๆ ซึ่งในความเป็นจริงผู้บริโภคไม่ได้ต้องการใช้ของคุณภาพต่ำ เพียงแต่ไม่มีความรู้ว่าของแท้ต้องดูอย่างไร ต่อไปเราจะเน้นให้ตลาดมีความรู้ว่าสแตนเลสเกรดสูงเป็นอย่างไร ลงทุนซื้อใช้แล้วคุ้มค่ากว่าในระยะยาว” รชต ลีลาประชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย-เยอรมัน โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) กล่าว

แผนการตลาดของ TGPRO เพื่อเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจตลาดเรื่องคุณภาพของสแตนเลสเกรดสูง จะทำผ่าน TGPRO Call Center 02-261-2777 ที่คอยให้คำปรึกษา ให้ความรู้เรื่องสแตนเลสฟรีในทุกแง่มุม และ Miss Spectro ทีมตรวจสอบคุณภาพสแตนเลสโดยเครื่อง Spectrometer จากอเมริกาที่จะให้บริการตรวจสอบคุณภาพของสแตนเลสที่ลูกค้าใช้อยู่ถึงที่ว่าเป็นสแตนเลสแท้หรือไม่ ทำควบคู่ไปกับการรีแบรนด์องค์กรครั้งใหญ่ให้ทันสมัย ใกล้ชิดผู้บริโภคมากขึ้น ใช้ประสบการณ์กว่า 35 ปีของ TGPRO ในฐานะผู้ผลิตสแตนเลสรายใหญ่และรายแรกของไทย รวมทั้งคุณภาพระดับส่งออกเป็นตัวการันตีความมั่นใจให้กับผู้บริโภคไทย

นอกจากนี้ยังเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ ได้แก่ ท่อสแตนเลส “เฟอร์นิเบสท์” ทรงหกเหลี่ยม ท่อแบน และแยกย่อยเป็นท่อขนาดต่างๆ พื้นผิวต่างๆ ทั้งขัดเงาและแบบด้าน เป็นการสร้างความหลากหลายในการเลือกใช้งานของผู้บริโภค จากเดิมในท้องตลาดที่ผลิตแต่ท่อทรงสี่เหลี่ยมและทรงกลม โดยมีจุดเด่นที่ไม่เป็นสนิม เป็นสินค้าผลิตแบบสำเร็จรูปทำให้ติดตั้งง่าย ราคาถูกกว่าการใช้เหล็กตัน ทำให้ต้นทุนลดลงได้ไม่น้อยกว่า 200% โดยตั้งราคาขาย 160 บาทต่อ กก. ขึ้นไป รวมทั้งเปิดตัวแผ่นสแตนเลสลายใหม่ ได้แก่ แผ่น Mirror พื้นผิวเงาเหมือนกระจก และแผ่น Hairline ที่ผ่านกระบวนการเคลือบผิวให้มัน ทำให้พื้นผิวลื่น ป้องกันการเกาะติดของสิ่งสกปรก พื้นผิวดูใหม่ตลอดเวลา โดยสินค้าทั้งหมดตั้งเป้าเจาะตลาดตกแต่งอาคาร ได้แก่ คอนโดมิเนียม ห้างสรรพสินค้า เมกะโปรเจกต์ต่างๆ เช่น สถานีไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งจะเริ่มทยอยประมูลในปีนี้

ยอดการบริโภคสแตนเลสของไทยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ แต่เมื่อมองย้อนหลังพบว่า ยอดการบริโภคสแตนเลสของคนไทยปรับเพิ่มขึ้น จาก 1.7 กก. ต่อคนต่อปีเมื่อ 10 ปีที่แล้วมาเป็น 2.83 กก.ต่อคนต่อปีในปัจจุบัน ถือว่าเติบโตอย่างรวดเร็วมาก ในขณะที่ต่างประเทศ เช่น เกาหลี บริโภค 20 กก.ต่อคนต่อปี ทำให้รชตมั่นใจว่า ตลาดสแตนเลสในไทยยังมีโอกาสที่จะขยายตัวได้อีกมาก ปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากยอดขายในประเทศ 65% ยอดส่งออก 35% ส่วนใหญ่มาจากท่ออุตสาหกรรม คาดว่าสินค้ารุ่นใหม่ที่เปิดตัวปีนี้จะมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 20% ของรายได้รวม โดยตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 2,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 5%