ธปท.ปรับเกณฑ์คุณสมบัติผู้มีบัตรเครดิตใหม่ของธนาคารพาณิชย์ และนอนแบงก์ กรณีที่ไม่มีรายได้เดือนละ 15,000 บาทต่อเดือนเป็นประจำ สามารถใช้อนุมัติบัตรเครดิตให้ผู้มีเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ ใดๆไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท ต่อเนื่อง 6 เดือนย้อนหลัง หรือมีเงินลงทุนในตราสารหนี้ และกองทุนรวมใดๆ รวมกันไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท จากเดิมที่อนุมัติบัตรเครดิตให้ไม่ได้ พร้อมทั้งผ่อนให้เบิกเกินบัญชีได้ไม่จำกัดจำนวน

รายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แจ้งว่า นายเกริก วณิกกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธปท.ได้ออกประกาศหนังสือเวียนปรับปรุงขอบเขตของผู้มีคุณสมบัติมีบัตรเครดิตได้กรณีที่ไม่มีเงินเดือน หรือรายได้ประจำหมุนเวียนเดือนละ 15,000 บาทต่อเดือน หรือปีละ 180,000 บาท

โดยในส่วนของผู้ประกอบการบัตรเครดิตที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์) นั้น ธปท.ขยายขอบเขตให้อนุมัติบัตรเครดิตให้ผู้สมัครที่มีเงินฝากประจำในธนาคารพาณิชย์ใดๆ ก็ได้ ไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท เป็นระยะยาวไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือมีเงินฝาก และการลงทุนในตราสารแสดงสิทธิในหนี้ หรือกองทุนใดๆ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกันไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือนได้จากเดิมที่มีไม่มีการกำหนดคุณสมบัติข้อดังกล่าวนี้ ในการพิจารณาคุณสมบัติผู้มีบัตรเครดิตของนอนแบงก์

ส่วนกรณีของผู้ให้บริการบัตรเครดิต ที่เป็นธนาคารพาณิชย์ ธปท.อนุญาตให้ปรับขยายขอบเขตของคุณสมบัติของผู้สมัครขอมีบัตรหลักเพิ่มเติมในลักษณะเดียวกัน โดยอนุญาตให้อนุมัติบัตรเครดิตให้ผู้สมัครที่มีเงินฝากประจำในธนาคารพาณิชย์ใดๆ ก็ได้ ไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท เป็นระยะยาวไม่น้อยกว่า 6 เดือน จากเดิมที่อนุญาตให้เฉพาะผู้สมัครที่มีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำของธนาคารเจ้าของบัตรเท่านั้น นอกจากนั้น ธนาคารพาณิชย์ ยังอนุมัติบัตรเครดิตให้กับผู้มีเงินฝาก และ หรือการลงทุนในตราสารแสดงสิทธิในหนี้ หรือกองทุนใดๆ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกันไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือนได้ด้วย

โดยประกาศดังกล่าวเป็นการเพิ่มขอบเขต และขยายบุคคลที่สามารถมีบัตรเครดิตได้จากเดิมที่ผู้มีเงินฝาก หรือมีการลงทุนในตราสารหนี้ หรือเงินลงทุนในกองทุนต่างธนาคาร จะไม่สามารถมีคุณสมบัตรในการสมัครและได้รับบัตรเครดิตต่างธนาคารที่มีบัญชีเงินฝาก หรือมีการลงทุนได้ แต่ในขณะนี้ไม่มีข้อจำกัด หากมีเงินฝาก หรือการลงทุนจามจำนวนที่ ธปท.กำหนด สามารถที่จะได้รับอนุมัติบัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารใดหรือนอนแบงก์รายใดก็ได้

เบิกเกินบัญชีได้ไม่จำกัดจำนวน

นอกจากนี้สายนโยบายสถาบันการเงินยังได้ออกหนังสือเวียน เรื่องการยกเลิกกำหนดวงเงินเกินบัญชี โดยมีเนื้อหา ปรับเปลี่ยนวงเงินสูงสุดในการเบิกเกินบัญชี (โอดี) ของลูกค้าธนาคารพาณิชย์ จากเดิมที่กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ให้โอดีกับลูกค้าแต่ละรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท เป็นไปจำกัดจำนวน เนื่องจากเห็นว่าธนาคารพาณิชย์สามารถบริการจัดการวงเงินดังกล่าว โดยดูแลจำกัดยอดสูงสุดของเงินโอดีที่จะให้ลูกค้าแต่ละรายเบิกตามความเหมาะสมของลูกค้าได้อยู่แล้ว