Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์21 เมษายน 2551
จับชีพจรหุ้นกลุ่มผลิตผลเกษตรรับอานิสงค์พลังงานทดแทนแรงไม่แผ่ว             
 


   
search resources

Agriculture




กระแสพลังงานทดแทนร้อนแรงต่อเนื่องทำราคาขึ้นจุดสูงสุดใหม่ไม่หยุดหย่อน หนุนพื้นฐานหุ้นกลุ่มผลิตผลการเกษตรทั้ง ถั่วเหลือง, ปาล์ม และน้ำตาล ได้ประโยชน์ระยะยาว

ราคาพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะกลุ่มพืชพลังงานมีการปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์เกือบทุกชนิดในรอบปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่ได้มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้พืชพลังงานหลากหลายชนิดได้รับความสนใจที่จะนำมาผลิตเป็นพลังงานทดแทนในหลายๆ ประเทศทั่วโลก

บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)โกลเบล็ก ระบุว่า แม้ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวลงในระยะยาว แต่เชื่อว่าราคาพืชพลังงานทดแทนจะยังอยู่ในระดับสูงเนื่องจากรัฐบาลทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนนโยบายการใช้พลังงานทดแทนจากพืชเพื่อลดภาวะโลกร้อน และเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรภายในประเทศ

ฝ่ายวิจัยคาดผลประกอบการของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับพืชพลังงานทดแทนเช่น บมจ.ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม (UVAN), บมจ.น้ำมันพืชไทย (TVO) และ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) จะได้รับประโยชน์จากราคาพืชพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุด จึงเลือกหุ้นกลุ่มดังกล่าวเป็นหุ้น Top Pick

ขณะที่มีทั้งผู้ได้และเสียประโยชน์ในกลุ่มเกษตรและอาหาร โดยหุ้นที่ประกอบธุรกิจปศุสัตว์เช่น บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) จะได้รับผลกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น แต่ยังมีปัจจัยบวกเรื่องการส่งออกสินค้าอาหารที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปีนี้จากข้อตกลงทางการค้าและโอกาสในการขยายฐานลูกค้าในประเทศต่างๆจากการที่สินค้าอาหารจากประเทศจีนมีปัญหาด้านความปลอดภัย จากทั้ง 2 ปัจจัย โดยรวมจึงแนะนำน้ำหนักการลงทุนหุ้นในกลุ่มเกษตรและอาหารเป็น Neutral

บล. โกลเบล็ก แนะให้เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มพืชพลังงาน UVAN , KSL และ TVO โดยKSL ต้องซื้อลงทุนระยะยาว เนื่องจากราคาน้ำตาลโลกในปีนี้มีแนวโน้มที่จะไม่ปรับตัวสูงมากนัก แต่มีโอกาสจะปรับสูงขึ้นในปี 2550 จากการคาดการณ์โดย F.O.Licht ว่าอุปทานน้ำตาลโลกจะขาดดุลประมาณ 1 ล้านตัน และ KSL จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขยายกำลังการผลิตในลาวและกัมพูชา อีกทั้งจะเป็น ผู้ได้รับประโยชน์สูงจากการที่เป็นเจ้าของสัมปทานปลูกอ้อยในประเทศลาวและกัมพูชา

ส่วน UVAN ราคาเฉลี่ยน้ำมันปาล์มดิบปีนี้จะสูงกว่าปีก่อน แม้จะคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันปาล์มจะเพิ่มขึ้นมากในปีนี้ เนื่องจากการขยายกำลังการผลิตจากประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย แต่ยังเชื่อว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบโดยเฉลี่ยทั้งปีจะสูงกว่าปี 2550 ประมาณ 17% อิงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

รวมทั้ง UVAN จะได้ประโยชน์จากการบังคับใช้ไบโอดีเซล (B2) ที่จะทำให้ความต้องการน้ำมันปาล์มดิบทั้งประเทศเพิ่มขึ้น 3 แสนตันต่อปี (คิดเป็นประมาณ 30% ของน้ำมันปาล์มดิบที่ผลิตได้ในประเทศ UVANเป็นผู้ปลูกปาล์มน้ำมันและขายน้ำมันปาล์มดิบจึงได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันปาล์มดิบที่จะพุ่งขึ้นมากที่สุดโดยไม่ต้องรับภาระเรื่องการควบคุมราคาขายน้ำมันปาล์มบรรจุขวด

สำหรับ TVO ราคาถั่วเหลืองปีนี้น่าสนใจ เนื่องจากมีการคาดการณ์โดย USDA ว่าอุปทานถั่วเหลืองปีนี้จะขาดดุลจากปีก่อนประมาณ 25% ส่งผลให้ราคาถั่วเหลืองมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นในปีนี้ โดยเราคาดว่าราคาถั่วเหลืองในปีนี้จะปรับสูงกว่าราคาเฉลี่ยในปี 2550 ประมาณ 19% (อิงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย 90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งTVO จะได้ประโยชน์จากราคาถั่วเหลืองที่สูงขึ้นเนื่องจากนโยบายการซื้อถั่วเหลืองล่วงหน้า และราคากากถั่วเหลืองที่เป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้จากการสกัดน้ำมันก็จะมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วยตลาด

จากการพิจารณาความสัมพันธ์ของราคาหุ้น KSL ,UVAN และ TVO กับราคาน้ำตาล น้ำมันปาล์มดิบ และถั่วเหลือง พบว่ามีความสัมพันธ์กันในระดับที่สูงสรุปได้ว่าราคาหุ้นมีการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาพืชพลังงานที่เกี่ยวข้องในระดับที่สูง ถ้าราคาพืชพลังงานมีการปรับตัวขึ้นราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกัน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us