Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 เมษายน 2551
แบงก์รุกตลาดภูมิภาคโละNPA             
 


   
search resources

ธวัชชัย ยงกิตติกุล
Banking and Finance




ชมรมสินทรัพย์รอการขายของธนาคารพาณิชย์เดินหน้าขายเอ็นพีเอ 5,000-6,000 ล้านบาท เน้นลุยตลาดต่างจังหวัด ล่าสุดพร้อมบุกจังหวัดกาญจนบุรีในงานมหกรรมบ้านธนาคาร 25-27 เม.ย.นี้ คาดระบายเอ็นพีเอได้ 500-1,000 ล้านบาท ยันซับไพรม์ไม่กระทบตลาดอสังหาฯในไทย สบช่องแนะช่วงเงินเฟ้อพุ่งสูงหันลงทุนในอสังหาฯ แทนการถือเงินสด

นายธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้ทางชมรมสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ของธนาคารพาณิชย์ จะสามารถระบายเอ็นพีเอจากการจัดงานมหกรรมบ้านธนาคารได้มากกว่า 6,000 ล้านบาท โดยในปีนี้จะจัดงานรวมทั้งสิ้น 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ กาญจนบุรี ขอนแก่น สุราษฎร์ธานีและระยอง ซึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้จัดไปแล้วที่จังหวัดเชียงรายโดยมียอดขายภายในงานและหลังงานประมาณ 500-1,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันเอ็นพีเอของระบบธนาคารพาณิชย์มีอยู่ประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท แต่ยอดเอ็นพีเอของทั้งระบบจะอยู่ที่กว่า 100,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ มองว่าปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์คุณภาพต่ำ (ซับไพรม์) ในประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยแน่นอน ส่วนปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นนั้นอาจจะเป็นปัญจัยเสี่ยงต่อการตัดสินใจซื้อบ้านบ้าง รวมถึงราคาน้ำมันและอัตราเงินเฟ้อด้วย

อย่างไรก็ตาม ในภาวะที่แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวเพิ่มขึ้นนั้นมองว่าน่าจะเป็นช่วงเวลาที่ปรับแผนทางการเงิน โดยน่าจะถือครองเงินสดน้อยลงและหันไปลงทุนในสินทรัพย์อสังหาฯแทน สำหรับการซื้อขายบ้านเก่าและใหม่ในปัจจุบันถือว่ามีการเก็งกำไรที่น้อยลง โดยส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและเพื่อการลงทุนด้วยการปล่อยให้เช่า

"มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯที่รัฐบาลได้ออกมานั้นก็จะมีส่วนช่วยกระตุ้นภาคอสังหาฯ ได้ และน่าจะเป็นส่วนที่ช่วยให้ผู้ที่อยากมีบ้านตัดสินใจได้เร็วขึ้น"

นายธวัชชัย กล่าวว่า วิกฤตการณ์เศรษฐกิจในปีที่ผ่านมา ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ประสบกับภาวะชะลอตัว เนื่องมาจากปัจจัยเศรษฐกิจ ปัญหาการขาดสภาพคล่อง ผนวกกับปัญหาที่สั่งสมมานานของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ทำให้ยิ่งทวีความรุนแรงคือ ปัญหาการผลิตอุปทานออกมามากกว่าอุปสงค์ อาทิ บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมิเนียม ที่ผู้ประกอบการผลิตมากเกินกว่าความต้องการของตลาด ซึ่งวัฏจักรการขึ้นลงของอสังหาฯ นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ ด้านประกอบกัน เช่น การเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศ เสถียรภาพทางการเมือง ทิศทางอัตราดอกเบี้ย และทิศทางของราคาน้ำมัน

อีกทั้งตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อระดับความรุนแรงของการก่อตัวของวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ คือ การเร่งลงทุนจนเกินตัวจนก่อให้เกิดสภาพสินค้าล้นตลาดที่อยู่อาศัยบางประเภท ของทั้งผู้ที่ซื้อไปอยู่อาศัย และประกอบการ ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาหนี้เสีย และทำให้ธนาคารต้องแบกรับภาระหนี้สินเหล่านี้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นการจัดงานของชมรมฯ จึงทำให้เชื่อว่าจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาหนี้เสียได้อย่างแน่นอน

"การจัดงานของชมรมนี้ถือเป็นการจำหน่ายทรัพย์สินที่รอการขาย ในการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา ซึ่งสามารถย้อนกลับไปสู่ระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และสร้างความมั่นคงของสถาบันการเงินด้วยเช่นการ ในการจำหน่ายหนี้เอ็นพีเอ เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นได้ชัดเจนว่าธุรกิจจะมีการฟื้นตัวขึ้น ซึ่งการระบายทรัพย์สินคงค้างในระบบของธนาคารต่าง ๆจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้น ดังนั้นจะเห็นได้ว่าธุรกิจอสังหาฯ ถือเป็นธุรกิจทีส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจไทย หากเยียวยาให้ธุรกินนี้ฟื้นตัวได้ก็จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เช่นเดียวกัน"

นายสิงขร จิรวงศ์สวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการจัดกิจกรรมส่วนภูมิภาค ชมรมสินทรัพย์รอการขายของธนาคารพาณิชย์ กล่าวว่า ทางชมรมฯเตรียมที่จะจัดงานมหกรรมบ้านมหกรรมบ้านธนาคารสัญจร ที่จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน 2551 ณ ห้างกนกกาญจน์ โดยได้นำทรัพย์รอการขายทั้งในจังหวัดกาญนบุรีและจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมงานประมาณ 10,000 ล้านบาท เป็นทั้งที่ดินเปล่า บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารพาณิชย์ และคอนโด โดยคาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 500-1,000 ล้านบาท และคาดว่าทรัพย์ที่จะได้รับความสนใจมากที่สุดจะยังเป็นที่ดินเปล่า

"ทรัพย์ที่นำมาจำหน่ายในงานนั้นจะเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาประเมินตั้งแต่ 20-60% รวมถึงจะมีธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินต่าง ๆ มาร่วมให้คำปรึกษาเรื่องของสินเชื่อต่าง ๆ พร้อมทั้งได้มีการเตรียมสิทธิพิเศษไว้สำหรับลูกค้าหรือผู้ที่สนใจมากมาย เช่น อัตราดอกเบี้ยพิเศษ การให้วงเงินกู้ยืมสูงสุด และส่วนลดต่างๆ"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us