Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 มิถุนายน 2546
"SC ASSET" ยื่นไฟลิ่งก.ล.ต.เทรดต.ค.หลังระดมทุนพันล้าน             
 


   
search resources

เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น, บมจ.
ทศท คอร์ปอเรชั่น
หลักทรัพย์ ไซรัส, บล.
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี, บมจ.
สุรเธียร จักรธรานนท์




เอสซี แอสเซทฯ ประกาศระดมทุนพันล้าน เข้าตลาดฯ เดือน ต.ค.นี้ เพื่อรุกโครงการใหม่เพิ่ม ระบุขณะนี้อยู่ระหว่างปรับโครงสร้าง และเตรียมยื่นไฟลิ่งต่อก.ล.ต.แล้ว ขณะที่ AIT โบรกฯ คาดราคาหุ้นที่เหมาะสม 21-23 บาท โดยกระจาย 7 ล้านหุ้น และเปิดจองกลางเดือนกรกฎาคม ก่อนเข้า เทรดในตลาดหลักทรัพย์ปลายเดือนเดียวกัน

นายสุรเธียร จักรธรานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯมีโครงการที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ประมาณเดือนตุลาคมปีนี้ โดยจะเพิ่มทุน 800-900 ล้านบาท จากปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 1,850 ล้านบาท พาร์ 10 บาท ซึ่งคาดว่าจะระดมทุนประมาณ 1,000 ล้านบาทเพื่อ ใช้ในการลงทุนเพิ่ม โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการปรับโครงสร้างและกำลังจะยื่นไฟลิ่งหรือแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งบล.ธนชาติเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

นายสุรเธียรกล่าวว่าปีนี้ คาดว่า จะมีรายได้ประมาณ 1,400-1,500 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากการให้เช่าสำนักงานประมาณ 80% ในส่วน ที่เหลือเป็นการสร้างบ้าน กับงานวิชา ชีพ ส่วนกำไรยังคาดว่าจะยังโตขึ้นจาก ปีที่แล้วอย่างแน่นอน แต่ยังไม่สามารถ ระบุได้ในขณะนี้ เนื่องจากทางบริษัทจะมีการขยายโครงการเพิ่ม

ทั้งนี้คาดว่า ปีนี้จะมีทั้งหมด 5 โครงการ มูลค่าทั้งหมด 3,000 ล้านบาท โดยจะใช้เงินทุนจากกระแสเงิน สดหมุนเวียน โดย 5 โครงการนั้นจะมีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม ซึ่งจะเป็นบ้านระดับ B หรือจับลูกค้าระดับกลางขึ้นไป

นอกจากนี้ ยังมีหุ้นของ บริษัทแอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ( AIT) เป็นผู้ให้บริการ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยรายได้หลัก 90.0% มาจาก การให้บริการด้านการออกแบบและรับเหมาวางระบบโครงข่ายสารสนเทศ ส่วน 9.4% มาจากค่าบริการบำรุงรักษาและพัฒนาระบบ และ 0.6% มา จากการให้เช่าระบบสารสนเทศ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการยื่นไฟลิ่งก่อนกระจายหุ้นเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

บล.ไซรัส ทำบทวิเคราะห์เกี่ยวกับ AIT ว่า การที่ AIT มีรายได้หลักพึ่งพิงภาครัฐ รายได้หลักของบริษัท 70% มาจากภาครัฐ ซึ่งในกลุ่มนี้ บมจ. ทศท. คอร์ปอเรชั่น และการสื่อสารฯ ถือเป็นลูกค้าหลักของบริษัท โดยในปี 2545 รายได้หลักจากองค์กรทั้งสองมี มูลค่ารวมกันเป็นสัดส่วน 69.4% ของ รายได้ทั้งหมด จากผลงานที่ผ่านมา ผู้ บริหารเชื่อมั่นว่าจะยังคงได้รับความวางใจจากทั้งทศท.และ กสท. อย่างต่อเนื่อง

สำหรับปี 2546 มีการคาดการณ์ กันว่ามูลค่าตลาดรวมจะเติบโต 12% นอกจากนี้ บริษัทวิจัย IDC ยังได้ประมาณการอัตราการขยายตัวของธุรกิจไอทีจนถึงปี 2549 ว่าจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 18% ต่อปี โดยจะมีมูลค่าตลาด รวม 147.0 พันล้านบาทในปี 2549 แต่ การแข่งขันสูงโอกาสในการทำกำไรของ AIT จะเพิ่มสูงมากเป็นไปได้ยาก

บทวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า ราย ได้ปี 2546-2547 เติบโต 26.7% และ 18.2% ส่วนแบ่งตลาดของบริษัท เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้ในปี 2543 คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 0.8% ของมูลค่า ตลาดรวม ส่วนในปี 2544 มูลค่างานที่ประมูลได้มีสัดส่วน 1.3% ของตลาด รวม และเพิ่มขึ้นเป็น 1.6% ในปี 2545 เราคาดว่าส่วนแบ่งตลาดของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.8% ในปี 2546-2547 ซึ่งจะส่งผลต่อรายได้ทำให้โตต่อเนื่อง

การเพิ่มทุนจะทำให้สภาพคล่อง ดีขึ้น การมีขนาดกองทุนที่เล็กและมีเงินทุนหมุนเวียนน้อยเป็นข้อจำกัดใน การรับงานขนาดใหญ่ ซึ่งการเพิ่มทุน IPO ครั้งนี้ จะทำให้สภาพคล่องทาง การเงินดีขึ้น และสามารถเข้าร่วมการประมูลโครงการขนาดใหญ่ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องเป็น Subcontractor ซึ่งอีกไม่นานบริษัทจะมีอัตรากำไร ขั้นต้นกว่า 20% อันจะส่งผลต่อการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นด้วย

เพราะฉะนั้นมูลค่าที่เหมาะสม อยู่ในช่วง 21-23 บาท/หุ้น จากการคำนวณทั้งจาก PE Multiple, PBV, และ DDM ทั้งนี้ AIT อยู่ระหว่างการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยกระจายหุ้นขายให้ประชาชนจำนวน 7 ล้านหุ้น กำหนดระยะการจองซื้อไว้ราวกลางเดือน ก.ค. และคาด ว่าจะเริ่มทำการซื้อขายประมาณปลาย เดือนเดียวกัน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us