|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"กฤษดามหานคร"โวยปัญหาการเมืองฉุดแผนร่วมทุนต่างชาติ โดนเลื่อน ผู้บริหารยืนยันไม่กระทบต่อการเติบโตของบริษัท หลังไตรมาส 1 ยอดขายพุ่งจากมาตรการภาษีอสังหาฯของภาครัฐ ทำให้พลิกกลับมาเป็นกำไร แต่ตลอดทั้งปีจะเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมเพิ่มความระมัดระวังในการเปิดโครงการ
นายธเนศร์ สิงคาลวณิช กรรมการและ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กฤษดามหานคร (KMC) เปิดเผยว่า ปัญหาทางการเมืองเป็นเหตุให้พันธมิตรรายใหม่ 2 รายของบริษัท ชะลอในการตัดสินใจเข้ามาร่วมทุนออกไป อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวเชื่อจะไม่มีผลกระทบต่อการเติบโตของบริษัทแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นการเติบโตในอัตราที่ไม่มากเท่านั้น ทั้งนี้หากได้พันธมิตรใหม่เข้ามาร่วมทุนด้วยตามแผนจะสามารถช่วยทำให้มีอัตราเติบโตแบบก้าวกระโดดได้
"ในปีนี้บริษัทจึงระมัดระวังในการเปิดโครงการใหม่มากขึ้น โดยการเปิดโครงการส่วนใหญ่เป็นการขยายเฟสใหม่จากโครงการเดิม ซึ่งปีนี้เรามีแผนที่จะเปิด 7-8 โครงการ มูลค่ารวม 2 พันล้านบาท ขณะที่การได้พันธมิตรหรือไม่นั้น ตอนนี้เราไม่รอคอย โดยเราจะพยายามทำตัวเราให้เติบโตให้ได้อย่างมั่นคง หรือค่อยๆก้าวขึ้นบันได" กรรมการผู้จัดการ KMC กล่าว
ส่วนการประชุมผู้ถือหุ้นวานนี้ (16เม.ย.)นายธเนศร์ กล่าวว่า ไม่สามารถเปิดประชุมได้เนื่องจากผู้เข้าประชุมไม่ครบองค์ประชุม จึงต้องเลื่อนวันประชุมออกไป ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 25 เม.ย.นี้
ด้านนายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร กรรมการ KMC กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้จากปีก่อนขาดทุน 656.26 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 1/51 ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไตรมาส 1/51 บริษัทมียอดขาย 300 ล้านบาท ซึ่งได้รับผลดีจากมาตรการภาษีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ผู้บริโภคกล้าตัดสินใจและกลับมาซื้อบ้านมากขึ้น และเชื่อว่าในไตรมาส 2 ยอดขายจะเติบโตต่อเนื่อง จากไตรมาส 1/51
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองด้วย เพราะหากไม่มีการปฏิวัติเกิดขึ้น น่าจะทำให้พันธมิตรเกิดความสนใจในการเข้าร่วมทุน ซึ่งขณะนี้ บริษัทได้ให้ที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นผู้เจรจา โดยเงื่อนไขคาดว่าจะเหมือนเดิม คือจะนำเงินจากพันธมิตรใหม่เข้ามาประมาณ 1.5 พันล้านบาท ขณะเดียวกันในส่วนต้นทุนการก่อสร้างนั้นที่ผ่านมาได้ปรับเพิ่มขึ้น 20% หลังจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้น แต่บริษัทมีสต็อกสินค้าไว้ประมาณ 20 ล้านบาท จึงสามารถช่วยลดภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน KMC มี งานในมือ 500-600 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทได้มีการปรับตัวหลังจากที่ผู้บริโภคหันมาสนใจคอนโดมิเนียมมากขึ้น โดยที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเปิดคอนโดมเนียม 2-3 โครงการ ที่ติดแนวรถไฟฟ้า และยังมีที่ดินอีก 7-8 ไร่ รอสร้างโครงการคอนโดมิเนียมใหม่
|
|
|
|
|