Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 เมษายน 2551
3บลจ.บริหารพอร์ตกลต.             
 


   
www resources

โฮมเพจ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

   
search resources

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
Funds




สำนักงาน ก.ล.ต. เลือก 3 บลจ. "กสิกรไทย-ไทยพาณิชย์-ทิสโก้" บริหารพอร์ตมูลค่า 3.3 พันล้านบาท โดยบลจ.กสิกรไทย คว้า 2 กองทุนทั้งมันนี่มาร์เกตฟันด์-บาลานซ์ฟันด์ มูลค่ารวมเกือบ 1.7 พันล้านบาท ด้าน "ประเวช" หวังผลตอบแทน 4-5% พร้อมเปิดทางให้บลจ.แข่งขันวัดฝีมือจากผลตอบแทน

นายประเวช องอาจสิทธิกุล ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สายงานกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า คณะทำงานเพื่อการลงทุนของสำนักงาน ก.ล.ต. ได้มีมติคัดเลือกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จำนวน 3 แห่ง เข้ามาทำหน้าที่บริหารเงินลงทุน (พอร์ต) ของก.ล.ต. มูลค่า 3,300 ล้านบาท

ทั้งนี้ คณะทำงานเพื่อการลงทุนของสำนักงานก.ล.ต. ประกอบด้วยตัวแทนจากก.ล.ต.จำนวน 4 คน ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) 1 คน และผู้แทนจากกองทุนบำเหน็จบำนาญเข้าราชการ (กบข.) 1 คน ซึ่งคณะทำงานชุดดังกล่าวจะเข้ามาทำหน้าที่ในการร่วมกำหนดนโยบายการลงทุนและบริหารความเสี่ยง รวมถึงการจัดตั้งคณะกรรมการจำนวน 5 คน เพื่อทำหน้าที่คัดเลือกผู้บริหารพอร์ตของก.ล.ต.

สำหรับพอร์ตการลงทุนของก.ล.ต.จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก มูลค่า 1,380 ล้านบาท ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ (มันนีมาร์เก็ตฟันด์) โดยมอบหมายให้ บลจ.กสิกรไทย และบลจ.ไทยพาณิชย์ เป็นผู้บริหารพอร์ตรายละ 690 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นการลงทุนในตราสารหนีที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยคาดว่าจะมีผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 4-5%

ส่วนที่สอง มูลค่า 1,980 ล้านบาท ลงทุนในกองทุนผสมระหว่างตราสารหนี้และตราสารทุน(บาลานซ์ฟันด์) มอบให้ บลจ.กสิกรไทย และบลจ.ทิสโก้ เป็นผู้บริหารกองทุน มูลค่าการบริหารรายละ 980 ล้านบาท ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ธนาคารทหารไทย เป็นผู้ดูแลผลประโยชน์การลงทุนครั้งนี้

"กองทุนทั้ง 4 กอง ได้เริ่มบริหารเงินลงทุนมาตั้งแต่ต้นปี 51 ที่ผ่านมา และการเลือกบลจ.หลายๆ แห่งเข้ามาทำหน้าที่บริหารพอร์ตก.ล.ต. สืบเนื่องจากก.ล.ต.ต้องการวัดฝีมือการบริหารในการสร้างผลตอบแทนของบลจ.แต่ละแห่ง โดยมีบลจ.ยื่นความจำนงเข้ามาบริหารพอร์ตของก.ล.ต.จำนวน 20 แห่ง ซึ่งการบริหารของแต่ละบลจ.นั้นทางคณะทำงานเพื่อการลงทุนก.ล.ต.จะเป็นผู้ติดตามในเรื่องผลการลงทุน"

นายประเวช กล่าวว่า เงินลงทุนของก.ล.ต.จำนวน 3,300 ล้านบาทนั้น มาจากเงินลงทุนเริ่มต้นที่กระทรวงการคลังได้ลงทุนไว้จำนวน 1,250 ล้านบาท ส่วนอีก 1,000 ล้านบาท มาจากค่าใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ (ไลเซ่นส์) ของโบรกเกอร์ที่ยังมีใบไลเซ่นส์ยังไม่ครบทั้ง 4 ธุรกิจเข้ามาขอใบไลเซ่นกับก.ล.ต. และ 800-900 ล้านบาท แบ่งเป็น การจัดหาที่ทำการก.ล.ต.ใหม่ จำนวน 300 ล้านบาท จากที่อาคารปัจจุบันกบข.ได้มีการซื้อไว้แล้ว หากอนาคตกบข.มีการปรับค่าเช่าขึ้นก็จะต้องมีการหาที่ทำการใหม่ และที่เหลือ เป็นเงินสำรองค่าใช้จ่ายต่าง

ก่อนหน้านี้ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานก.ล.ต.อยู่ระหว่างการคัดเลือกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)จำนวน 4 แห่ง ที่จะมาบริหารเงินให้กับสำนักงานก.ล.ต.ที่มีอยู่จำนวน 3,200 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาซึ่งมีตัวแทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)เพื่อช่วยในการกำหนดขอบเขตและเป้าหมายการลงทุน

ทั้งนี้ สำนักงานก.ล.ต.ได้กำหนดระยะเวลาในการลงทุน 5 ปี และตั้งเป้าที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ต่ำกว่า อัตราเงินเฟ้อ และจำกัดผลขาดทุนได้ไม่เกิน 4% และสามารถรับความเสี่ยงได้ 4%ต่อปี โดยทางคณะทำงานได้มีการเสนอให้สำนักงานก.ล.ต.มีการบริหารเงินเองจำนวน 200 ล้านบาท และอีก 3,000 ล้านบาทนั้นให้ทางบลจ.เป็นผู้บริหารเงินให้

สำหรับที่ผ่านมาสำนักงานก.ล.ต.ได้มีการจ้างบลจ.ให้มีการบริหารเงินให้อยู่แล้ว แต่ทางสำนักงานก.ล.ต.ได้มีการกำหนดขอบเขตการลงทุนและตัวอ้างอิงที่กว้างและง่ายเกินไป เพียงแค่ขอให้ได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก แต่ไม่ได้มีการกำหนดขอบเขตให้ และก็ไม่ค่อยมีการจัดทำสถิติในเรื่องพอร์ตการลงทุนว่าได้ลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้และฝากธนาคารในสัดส่วนเท่าไรและผลตอบแทนที่ได้เป็นอย่างไร โดยก.ล.ต.มองว่าควรที่จะมีองค์กรขึ้นมาเพื่อจัดอันดับบลจ.ทั้งสมาคม ซึ่งทางสำนักงานก.ล.ต.พร้อมที่จะมีการให้การสนับสนุน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us