Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน10 เมษายน 2551
ศาลสั่งจำคุก 1ปีอดีตผู้ว่าฯ กฟน.เอื้ออิตาเลียนไทย             
 


   
www resources

โฮมเพจ อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์
โฮมเพจ การไฟฟ้านครหลวง

   
search resources

อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์, บมจ.
การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)
Law




ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 1 ปี ปรับสองหมื่น นายเกษม ใจหงษ์ อดีตผู้ว่าฯ กฟน.ฐานสั่งแก้ราคากลางประกวดวางท่อร้อยสายใต้ดินโครงการจิตรลดา 635 ล้าน เอื้อประโยชน์ อิตาเลียนไทย แต่ไม่เคยต้องโทษมาก่อน ศาลปรานีให้รอลงอาญา 2 ปี สั่งทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ 16 ชม. เจ้าตัวยันบริสุทธิ์จะเดินหน้าขออุทธรณ์หวังศาลยกฟ้อง

วานนี้(9 เม.ย.)เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 609 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลมีคำพิพากษา ในคดีดำที่ อ.2335 /2550 พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเกษม ใจหงษ์ อดีตผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502

ตามฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 28 ก.ค.50 สรุปว่า เมื่อปี 2538 การไฟฟ้านครหลวงดำเนินการจ้างงานก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินโครงการจิตรลดา รวมเป็นเงิน 635 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23-26 เม.ย.39 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง เป็นประธานคณะทำงานเพื่อกลั่นกรองเรื่องการซื้อและการจ้าง เมื่อวันที่ 15 ก.ค.41 มีบุคคลใช้ชื่อว่าผู้บริหารคนหนึ่งร้องเรียนเป็นบัตรสนเท่ห์จากการไฟฟ้านครหลวง ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.) กล่าวโทษจำเลยว่ากระทำความผิด ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 เหตุเกิดที่แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์แล้ว เห็นว่าพยานโจทก์เบิกความสอดคล้องต้องกันเป็นลำดับขั้นตอนว่า ในการซื้อและการจ้างบริษัทเอกชน เพื่อดำเนินการก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินโครงการจิตรลดานั้น มีการประมาณราคากลาง 2 ครั้ง เนื่องจากพบว่าราคาที่ตั้งไว้ต่ำเกินไป ซึ่งการประมาณราคากลางของคณะกรรมการประมาณราคากลาง แก้ไขตัวเลขที่ 616,222,000 บาท เมื่อบวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ราคาจะอยู่ที่ 659,357,540 บาท โดยกำหนดระยะก่อสร้าง 900 วันตามเงื่อนไขการก่อสร้าง แล้วเมื่อวันที่ 25 เม.ย.39 เวลา 19.00 น. จำเลยโทรศัพท์แจ้งให้แก้ไขการประมาณราคากลางใหม่ครั้งที่ 3ให้สูงขึ้น เพราะมีการลดเวลาก่อสร้างจาก 900 วัน เหลือ 780 วัน และมีการใช้เทคโนโลยีชั้นสูง แต่จำเลยไม่ได้แจ้งตัวเลขว่าจะให้ประมาณราคากลางสูงเท่าใด ศาลเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักมั่นคงฟังได้ปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยเป็นรองผู้ว่าฯ กฟน. ส่วนวิชาการและแผนงาน และเป็นประธานคณะทำงานกลั่นกรองเรื่องการซื้อและการจ้าง ตามคำสั่งการไฟฟ้านครหลวงที่ 26/2538 มีอำนาจหน้าที่ กลั่นกรอง การซื้อและการจ้างงาน จำเลยย่อมทราบรายละเอียดแผนงานการก่อสร้าง การออกแบบการก่อสร้าง เป็นอย่างดี ซึ่งมีผลต่อการประมาณราคากลาง ที่เมื่อมีการแก้ไขการประมาณราคากลางแล้วทำให้บริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด (มหาชน) ได้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง

การที่จำเลยทำการแก้ไขการประมาณราคากลางทั้งที่คณะกรรมการการประมาณราคากลาง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเห็นชอบ แล้วต่อมาเมื่อวันที่ 29 เม.ย.39 จำเลยได้เสนอราคาที่มีการแก้ไขครั้งที่ 3 มูลค่า 688,216,050.24 บาท ต่อที่ประชุมผู้บริหารแล้วต่อมาผู้ว่าฯ กฟน.เห็นชอบ ซึ่งได้มีการเสนอราคาดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กฟน. และมีมติอนุมัติการก่อสร้างให้กับ บมจ.อิตาเลียนไทย เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยระเบียบและการปฏิบัติของ กฟน.

ที่จำเลยอ้างว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประมาณราคากลางครั้งที่ 3 โดยการเสนอราคาประมาณกลางต่อที่ประชุมผู้บริหารขณะนั้น ไม่มีการสอบถามรายละเอียดการประมาณราคากลาง ศาลเห็นว่า เมื่อจำเลยรู้อยู่แล้วว่า มีการแก้ไขการประมาณราคากลาง จำเลยในฐานะประธานคณะทำงานกลั่นกรองฯ ต้องเสนอรายละเอียดให้ที่ประชุมทราบว่า มีการแก้ไขราคาครั้งที่ 3 เป็น 688,216,050.24 บาท จากราคาเดิมคือ 659,357,540 บาท โดยมีการลดเวลาก่อสร้างจาก 900 วัน เหลือ 780 วัน และ บมจ.อิตาเลี่ยนไทย เสนอการก่อสร้างในการจัดวางท่อโดยไม่ต้องเปิดทางลึก การกระทำของจำเลยจึงส่งผลให้ กฟน.เกิดความเสียหายที่ต้องจ่ายเงินการจ้างเพื่อดำเนินโครงการในราคาที่สูงขึ้น พยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนัก มั่นคง รับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยปฏิบัติหน้าที่โดยแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้ ทำให้ บมจ.อิตาเลียนไทย ได้รับอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการ

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดพนักงานต่อองค์กรรัฐฯ มาตรา 11 ให้จำคุกเป็นเวลา 1 ปี และปรับ 20,000 บาท แต่จำเลยไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุก จึงให้รอลงอาญาไว้ มีกำหนด 2 ปี และให้จำเลย ทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมตามที่เจ้าพนักงานคุมประพฤติและจำเลยเห็นสมควรเป็นเวลา 16 ชั่วโมง หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้ดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29 และ 30

ภายหลังฟังคำพิพากษานายเกษม อดีตผู้ว่าฯ กฟน.แสดงสีหน้าซึมเศร้า โดยกล่าวว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อไปเพื่อขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้ทำผิด และไม่ได้กระทำการใดๆ ที่ให้ บมจ.อิตาเลียนไทยได้รับประโยชน์   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us