RAIMON ปล่อยเงินกู้ช่วย "ไรมอน ทาวเวอร" ซึ่งเป็นบริษัทลูก ด้วยการให้ยืมเงิน
115.8 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อที่ดินมาพัฒนา พร้อมตัดขายที่ดินนำเงินใช้หนี้ บสท.
350 ล้านบาท และยังนำหน่วยลงทุนกองทุนอสังหาริมทรัพย์จำนำกับ DTDB ค้ำประกันเงินกู้
500 ล้านบาท มาพัฒนาโครงการเดอะ เลคส์ หวังเป็นตัวทำเงินในยามธุรกิจเฟื่อง
นายไนเจิล จอห์น คอร์นิค กรรมการผู้มีอำนาจ ในฐานะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ
ของ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด(มหาชน) (RAIMON) เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่
3/2546 ของบริษัท ไรมอน ทาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ RAIMON ได้มีมติ
อนุมัติการซื้อที่ดิน ซึ่งตั้งอยู่ ณ ซอยอมร ตำบลช่องนนทรี เขตยานนาวา (พระโขนง)
กรุงเทพมหานคร รวม 11 แปลง ซื้อที่ดินจาก นายธีรชัย จิวัฒน์ธนากุล และนางทิพวรรณ
จิวัฒน์ธนากุล คิดเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 115,805,000 บาท (ราคาตารางวาละ 95,000บาท)
โดยไรมอน ทาวเวอร์ แบ่งการชำระราคาที่ดินออกเป็นดังนี้ คือ เงินค่ามัดจำจำนวน
20,000,000 บาท ซึ่งจะชำระให้แก่ผู้ขายก่อนหรือภายในวันทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน
และเงินค่า ที่ดินส่วนที่เหลือจำนวน 95,805,000 บาท ซึ่งจะชำระให้แก่ผู้จะขายในวันจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน
สำหรับผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับบริษัทภายหลังการซื้อที่ดินดังกล่าว ไรมอน
ทาวเวอร์ จะพัฒนาและก่อสร้างโครงการที่พักอาศัย บนที่ดินดังกล่าว โดย RAIMON จะได้รับประโยชน์หรือกำไรในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน
ไรมอน ทาวเวอร์ ส่วนแหล่ง เงินทุนที่ใช้ในการซื้อสินทรัพย์จะกู้ยืมเงินจาก RAIMON
ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นราย ใหญ่ของ ไรมอน ทาวเวอร์ ส่วนหนึ่งและกู้ยืมจากสถาบันการเงินอีกส่วนหนึ่งเพื่อนำมาชำระราคาที่ดิน
นอกจากนั้นได้อนุมัติการขายที่ดินและอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการไรมอน
ทาวเวอร์ ให้แก่ ALMONA INVESTMENTS LIMITED เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2546 คิดเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน
350,000,000 บาท ทั้งนี้ มูลค่าของที่ดิน และอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการไรมอน
ทาวเวอร์ มีราคาประเมิน ซึ่งประเมินโดยผู้ประเมินราคาอิสระหลายรายซึ่งระหว่าง 224,000,000
บาท ถึง 413,360,000 บาท
ทั้งนี้ ไรมอน ทาวเวอร์ ได้จำนอง ที่ดินและอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ ไรมอน
ทาวเวอร์ เป็นประกันหนี้ที่มีต่อบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย และ ไรมอน ทาวเวอร์ มีความจำเป็นต้องใช้
เงินสดเพื่อการชำระหนี้ให้แก่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ขณะเดียวกันก็ต้องการพัฒนาโครงการ
ไรมอน ทาวเวอร์ต่อไป โดยการร่วมทุนกับนักลงทุนอื่น
โดยการจัดตั้งกองทุนรวม อสังหาริมทรพัย์และสิทธิเรียกร้อง (กองทุนรวม) โดย RAIMON
แลนด์จะเข้าถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าว คิดเป็นร้อยละ 27.5 ของหน่วย ลงทุนทั้งหมด
ดังนั้น ไรมอน ทาวเวอร์ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขายโครงการ ไรมอน ทาวเวอร์ ออกไปให้แก่
ALMONA INVESTMENTS LIMITED ซึ่งราคา ซื้อขายโครงการไรมอน ทาวเวอร์ เป็นราคาที่ตกลงกันระหว่างไรมอน
ทาวเวอร์ และ ALMONA INVESTMENTS LIMITED
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับคือ ไรมอน ทาวเวอร์ จะนำเงินที่ได้รับจากการขายโครงการ
ไรมอน ทาวเวอร์ ไปชำระหนี้ให้แก่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย และเงินส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เงิน
ทุนหมุนเวียนของไรมอน ทาวเวอร์ ต่อไป
นอกจากนั้น ที่ประชุมคณะกรรม การครั้งที่ 17/2546 ของบริษัท ไรมอน แลนด์ แพลนเนอร์
จำกัด ได้มีมติอนุมัติการเข้าทำสัญญาจำนำหน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง
ระหว่างธนาคาร ดีบีเอส ไทยทนุ จำกัด และไรมอนแลนด์ คิดเป็นร้อยละ 27.5 ของหน่วยลงทุนทั้งหมดในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์
และสิทธิเรียกร้อง (มูลค่าทั้งสิ้นรวม 275 ล้านบาท) เพื่อเป็นประกันการกู้ยืมเงินจำนวน
500 ล้านบาทจากธนาคาร ดีบีเอส ไทยทน จำกัด (มหาชน) (DBS) ของ Bouygues ThaiDevelopment
Ltd. (BTD)
เนื่องจาก BTD ซึ่งเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนรายหนึ่งในกองทุนรวม ได้กู้ยืมเงินจาก
DBS เพื่อนำเงินดังกล่าว มาซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวม โดย DBS ได้กำหนดเงื่อนไขในการกู้ยืมให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทุกรายต้องจำนำหน่วย
ลงทุนของตนไว้ต่อ DBS เพื่อเป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินของ BTD ดังนั้น เพื่อให้การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ภายใต้กองทุนรวมสามารถดำเนินไปได้
ทำให้ไรมอน แลนด์มีความจำเป็นที่จะต้องนำหน่วยลงทุนที่ไรมอน แลนด์จะถือในกองทุนรวมทั้งหมดจำนำไว้ต่อ
DBS
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง มีทุนจดทะเบียนจำนวน 2,000 ล้านบาท
แบ่งออกเป็นหน่วยลงทุนจำนวน 200 ล้านหน่วยสัดส่วนการลงทุนของผู้ถือหุ้นหน่วยลงทุนในกองทุนรวมตามสัญญาระหว่างผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเป็นดังนี้
คือ IP GROUP 225 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 22.5 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด BTD 500
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 50.0 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด และ RAIMON 275 ล้านบาท
คิดเป็นร้อยละ 27.5 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด (ไรมอนแลนด์ จะลงทุน ในกองทุนรวมในเบื้องต้นเป็นจำนวนเงินประมาณ
137.5 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ยังมีมติให้ RAIMON เข้าทำสัญญาจำนำหน่วยลงทุนในกองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง (Type IV Fund) กับธนาคาร ดีบีเอส ไทยทนุ จำกัด
(มหาชน)(DBS) เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2546
ทั้งนี้ ไรมอน แลนด์จะจำนำหน่วย ลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง
(Type IV Fund) คิดเป็นร้อยละ 27.5 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด (คิดเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน
275 ล้านบาท) เพื่อเป็นประกันการกู้ยืม เงินจำนวน 500 ล้านบาท จาก DBS ของ BTD
ประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับบริษัท ภายหลังการพัฒนาและก่อสร้าง โครงการเดอะ
เลคส์ จนแล้วเสร็จ การ ขายและหรือการให้เช่าห้องชุด ในทรัพย์สินจะก่อให้เกิดรายได้แก่กองทุน
รวม ทั้งนี้ ไรมอน แลนด์ ในฐานะผู้ถือ หน่วยลงทุนในกองทุนรวมก็จะได้รับผลประโยชน์หรือกำไรตามสัดส่วนการลงทุนที่ได้ตกลงกันไว้