|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บู๊ทส์ ชูไทยเป็นฮับภูมิภาคผลิตสินค้าสนองคนเอเชีย งัดกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์แบบ Step Up ภายใต้ราคาเหมาะสม พร้อมเร่งขยายสาขาหวังชิงบัลลังก์ผู้นำ ขณะที่วัตสัน อัดกิจกรรมนอกร้าน รุกเข้าสวนลุมขยายฐานลูกค้า พร้อมเพิ่มช่องทางใหม่ด้วยการเปิดเว็บไซต์เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลสินค้าและโปรโมชั่นได้เร็วขึ้น จูงใจให้มาใช้บริการถี่ขึ้น
บู๊ทส์ ทุ่มงบ 15 ล้านบาท ย้ายสำนักงานจากตึกชาญอิสสระ 2 มาสู่ สำนักงานที่บิ๊กซี ราชดำริ เพื่อยกระดับตลาดเมืองไทยให้เป็น ฮับ ของภูมิภาค โดยจะมีการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของคนเอเชีย ซึ่งจากเดิมเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจากสหราชอาณาจักร และ ประเทศต่างๆในยุโรป
อย่างไรก็ดี บู๊ทส์ ได้เริ่มว่าจ้างบริษัทในเมืองไทยผลิตสินค้าให้มาก่อนหน้านี้ 5-6 ปี และค่อยๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากสินค้าที่ผลิตขึ้นเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคในเอเชียได้อย่างดี จึงส่งผลให้ได้รับการตอบรับมากขึ้น
ทั้งนี้ บู๊ทส์ มีสินค้าเฮาส์แบรนด์ภายใต้ชื่อ บู๊ทส์ กว่า 700 รายการ และมีแผนเพิ่มเป็น 1,500 รายการภายใน 18 เดือน โดยสินค้าเฮาส์แบรนด์เหล่านี้สามารถสร้างสัดส่วนรายได้ให้กับบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 50% ส่วนอีก 50% เป็นอินเตอร์แบรนด์ที่จำหน่ายในร้าน
แม้ว่าภาพลักษณ์ของบู๊ทส์ จะเป็นผู้นำในเรื่องของร้านยา ทว่าทางบริษัทได้วางโพสิชันนิ่งให้เป็น Health & Beauty Store ซึ่งเท่ากับว่าบู๊ทส์ ต้องการที่จะชิงตลาดกับวัตสันโดยตรง โดยกลยุทธ์หลักที่ใช้ในการขยายฐานลูกปค้าใหม่ และเพิ่มความถี่ในการใช้สินค้าให้กับลูกค้ากลุ่มเดิมคือ การพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการและดีกว่าคู่แข่ง ในราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังต้องผลักดันสาขาให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้มากที่สุด เช่น การมีสาขาตามห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เกต คอมมูนิตี้มอลล์ อาคารสำนักงาน หรือแม้แต่ห้องแถวตามชุมชนเช่นย่านเยาวราช และยังขยายสาขาไปถึงต่างจังหวัด
ปัจจุบันบู๊ทส์ มีสาขา 141 แห่ง ขณะที่วัตสันมีสาขา 145 แห่ง ทว่าเป้าหมายของบู๊ทส์คือการขยายสาขาปีละ 20 สาขา ขณะที่ วัตสันมีแผนขยายสาขาปีละ 10 กว่าแห่ง ซึ่งจะทำให้บู๊ทส์มีโอกาสขยายสาขาแซงหน้าวัตสันได้ภายใน 1-2 ปีนี้ โดยบู๊ทส์ มองว่าควรมีสาขาในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 250 แห่งเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วประเทศ
ดังนั้นเพื่อเป็นการปกป้องตลาดมิให้เสียให้กับคู่แข่ง ทางวัตสันจึงมีการชูเรื่อง Customer Insight เพื่อให้ลูกค้าเกิดลอยัลตี้กับร้าน
“ในปีนี้ เราจะต่อยอดในการเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย โดยจะมีการนำเสนอกิจกรรมแบบอินเตอร์แอกทีฟให้ลูกค้ามีส่วนร่วม ซึ่งจะทำให้เราใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น” โทบี้ แอนเดอร์สัน ผู้จัดการทั่วไป เซ็นทรัล วัตสัน กล่าว
ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาวัตสันมีการทำกิจกรรม Watson Good Heart Smart Health โดยจัดกิจกรรมเพื่อสุขภาพให้กับลูกค้า พร้อมบริการตรวจสุขภาพฟรี ณ สวนสาธารณะ 2 แห่งคือที่สวนลุม และสวนรถไฟ ส่วนในปีนี้จะโฟกัสไปที่สวนลุมเท่านั้น ทว่าเพิ่มระยะเวลาการจัดเป็นกิจกรรมที่ให้บริการเกือบตลอดทั้งปี ซึ่งช่วยขยายฐานลูกค้าให้กับวัตสัน เนื่องจากลูกค้าหลักคือ กลุ่มวัยรุ่นและคนเริ่มต้นทำงานอายุ 20-30 ปี ส่วนกลุ่มรองคือกลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไป ในขณะที่กลุ่มคนที่มาใช้บริการในสวนสาธารณะส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นอีกกลุ่มที่ใส่ใจสุขภาพมากกว่าวัยอื่นๆ
นอกจากนี้วัตสันยังเพิ่มช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายด้วยการทำเว็บไซต์ของตัวเอง เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้ทำโครงการ You Awards ซึ่งเป็นการประกวดแบบอินเตอร์แอกทีฟออนไลน์โดยมีการสร้างเว็บไซต์เฉพาะกิจเพื่อให้ผู้บริโภคได้แสดงเอกลักษณ์ของตัวเอง เช่น ผมสวย ใบหน้าเป็นมิตร ริมฝีปากเสน่ห์ รูปร่างดี พร้อมเปิดโอกาสให้มีการโหวตซึ่งได้รับการตอบรับกว่า 190,000 โหวต ทำให้บริษัท ตัดสินใจผลิตเว็บไซต์ของตัวเอง ซึ่งมีทั้งเนื้อหาเกี่ยวกับสุขภาพและผลิตภัณฑ์ โปรโมชั่นใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารับทราบข้อมูลรวดเร็วและเข้ามาใช้บริการถี่ขึ้น
ในขณะที่บู๊ทส์เองก็พยายามจะขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มหลักที่เป็นผู้หญิงระดับปานกลางไปถึงระดับบน มาสู่ตลาดระดับ B+ และ C- เนื่องจากเป็นฐานตลาดที่กว้างขึ้น โดยใช้กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์และราคาเป็นตัวนำ เนื่องจาก บู๊ทส์ มีไลน์ผลิตภัณฑ์หลากหลายระดับ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้น ระดับกลาง ไปถึงระดับบน ซึ่งแต่ละระดับก็จะมีผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ตอบสนอง โดยมีการแนะนำผลิตภัณฑ์แบบ Step Up คือการทำให้ลูกค้าที่เริ่มต้นใช้สินค้าประเภทนั้นๆขยับขึ้นมาใช้สินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าราคาก็ต้องขยับตามขึ้นมา แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้วจะต้องทำให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความคุ้มค่ามากกว่า โดย TRUST เป็นคอนเซ็ปต์แบรนด์ของ บู๊ทส์ ซึ่งย่อมาจาก Trust, Respect, Understanding, Simplicity และTogether
“เภสัชกรของเราไม่ได้แค่แนะนำเรื่องยาและสุขภาพแต่ยังสามารถให้ความรู้เกี่ยวกับความงามแก่ลูกค้าด้วย” เอียน ฮันเตอร์ กรรมการผู้จัดการ บู๊ทส์ รีเทล (ประเทศไทย) กล่าว
|
|
|
|
|