บริษัทจดทะเบียนไทยเนื้อหอม ตลาดหุ้นต่างประเทศจีบเข้าจดทะเบียนแบบดูอัลลิสติ้ง ด้าน "ภัทรียา" เผยระยะสั้นยังไม่ได้เห็น เหตุขั้นตอนดำเนินการซับซ้อน พร้อมเร่งหามาตรการจูงใจบจ.คงสถานะบริษัทจดทะเบียน ขณะที่ "วิเชฐ" แจงเบนเข็มดึงบริษัทลาวระดมทุนในตลาดหุ้นไทยแทนเวียดนาม พร้อมหาแนวทางป้องกันเหยื่อหุ้นเก็งกำไร เล็งห้ามเน็ตฯ-มาร์จิ้นหุ้นเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูง และจี้สมาคมนักวิเคราะห์ทำบทวิเคราะห์หุ้นเก็งกำไร

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศหลายแห่งได้เข้ามาชวนบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ไปจดทะเบียนในต่างประเทศในลักษณะจดทะเบียน 2 ตลาด (ดูอัลลิสติ้ง) เพื่อเป็นการเพิ่มบริษัทจดทะเบียนให้มากขึ้น แต่คาดว่าคงไม่เกิดขึ้นในระยะสั้นๆ นี้ เพราะการจดทะเบียนดูอัลลิสติ้งมีขั้นตอนยุ่งยาก และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสูง

ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นสิงคโปร์ ได้เข้าหารือกับผู้บริหารของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เพื่อเข้าไปจดทะเบียนแบบดูอัลลิสติ้ง แต่ผู้บริหารปูนซิเมนต์ไทยยังไม่ให้ความสนใจในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่ตลาดหุ้นไต้หวันออกมาระบุว่า จะดึงบริษัทไต้หวันที่จดทะเบียนอยู่ในและนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นไต้หวันนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ได้กังวลในเรื่องนี้ เพราะบริษัทไต้หวันที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยทั้ง 13 บริษัทนั้น มีผู้ถือหุ้นใหญ่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไต้หวันอยู่แล้ว

"ไม่ใช่เฉพาะสิงคโปร์ที่เข้ามาคุยกับบริษัทจดทะเบียนในไทย แม้แต่แนสแด็กเองหรือมาเลย์เซีย ก็เข้ามาเชิญชวนบจ. ของไทย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของตลาดหุ้นทั่วโลกที่ต้องมีการปรับตัวเพื่อรับการแข่งขันที่สูงขึ้น ซึ่งเราเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เราจึงทบทวนเรื่องการแปรสภาพตลาดหุ้นไทย ปรับโครงสร้างเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น รวมถึงพยายามหามาตรการจูงใจให้บริษัทจดทะเบียนอยู่กับเรานานๆ" นางภัทรียา กล่าว

นายวิเชฐ ตันติวนิช รองผู้จัดการสายงานการตลาดศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเชิญชวนให้บริษัทในประเทศลาวเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย เพราะจะมีการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงาน และโรงไฟฟ้าต่างๆ ที่จำเป็นต้องระดมเงินไปลงทุนก่อสร้างเป็นจำนวนมาก รวมทั้งประเทศลาวยังไม่มีตลาดหลักทรัพย์ฯ

"ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับนักธุรกิจไทยที่ไปทำธุรกิจที่ประเทศลาว เพื่อชักชวนให้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย จากเป้าหมายเดิมตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งใจจะดึงบริษัทในเวียดนามเข้ามาจดทะเบียน แต่มีความเป็นไปได้น้อย"

ทั้งนี้ ส่วนเรื่องเกณฑ์รับหลักทรัพย์ต่างประเทศนั้น ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการสำรวจความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆ โดยคาดว่าในปีหน้าจะเริ่มมีบริษัทต่างประเทศยื่นความจำนงที่จะเข้ามาจดทะเบียน แต่จะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยได้หรือไม่นั้นยังไม่สามารถตอบได้

นางภัทรียา กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแนวคิดที่จะนำมาตรการสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (เน็ตเซ็ตเทิลเม้นท์) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (มาร์จิ้น) และมาตรการอื่นๆ ที่เหมาะสมมาใช้กับหุ้นเก็งกำไรที่ติดเทิร์นโอเวอร์ลิสต์สูง ( Turnover list ) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจเลือกบังคับใช้กับหุ้นที่ผิดปกติใน Turnover list จริงๆ เช่น หุ้นที่ผลการดำเนินงานยังขาดทุนแต่มีปริมาณการหมุนเวียนของหุ้นสูง มีค่า P/E ในการซื้อขายสูง โดยขณะนี้ทาง ก.ล.ต. อยู่ระหว่างทบทวนเกณฑ์การคำนวณ Turnover list และอาจมีการปรับเปลี่ยนในบางเรื่องเพื่อให้เหมาะสม โดยคาดว่าก.ล.ต.น่าจะมีการออกเกณฑ์ที่ชัดเจนในช่วงไตรมาส 2/2551

ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังอยู่ระหว่างหารือกับสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เพื่ออกบทวิเคราะห์หุ้นเก็งกำไรโดยเฉพาะหุ้นที่อยู่ใน Turnover list และมี P/E การซื้อขายสูง เพื่อให้นักลงทุนใช้พิจารณาประกอบการตัดสินใจก่อนเข้าลงทุน

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวถึง กรณีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอความร่วมมือให้จัดทำบทวิเคราะห์หุ้นเก็งกำไร เพื่อให้นักลงทุนใช้ประกอบการลงทุน ว่า ขณะนี้สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้แจ้งให้กรรมการและสมาชิกรับทราบแล้ว โดยกำชับสมาชิกให้คำแนะนำสำหรับนักลงทุนที่สอบข้อมูลเข้ามา ทั้งในเรื่องของปัจจัยพื้นฐาน แนวโน้มธุรกิจ รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็น แต่ต้องเป็นข้อมูลที่นักวิเคราะห์ได้ทำการศึกษาแล้ว