สมคิดเดินหน้าผลักดันยุทธศาสตร์เปิดเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-หยุนหนานประเดิมเปิดศักราชใหม่เซ็นสัญญาเปิดเขตการค้าเสรีระหว่าง
กัน เพื่อปูทางสู่เขตการค้าเสรีเต็มรูปแบบในอนาคต เริ่มโดยการเปิดตลาด ผักผลไม้ไทยกระจายสู่จีนแผ่นดินใหญ่
และให้สินค้าเกษตรทั้ง 2 ชาติ ปรับ เข้าสู่มาตรฐานเดียวกัน รวมถึงความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว
ใช้เป็นเกตเวย์ สู่ภาคใต้ของประเทศที่มีผู้บริโภคมากที่สุดในโลก ขณะที่มลฑลภาคใต้มหา
อำนาจเศรษฐกิจเอเชีย ก็หวังใช้ไทยเป็นเกตเวย์สู่อาเซียน 10 ชาติเช่นกัน
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รอง นายกรัฐมนตรี ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างนำคณะเจ้าหน้าที่ไทยเยือนจีนเป็นทางการ
กล่าวว่าได้เซ็นสัญญากับผู้ว่าการ-รองผู้ว่าการมณฑลหยุนหนาน เพื่อเปิดเขตการค้าเสรี
(FreeTrade Area-FTA) ให้สินค้าและบริการของ ไทย นำเข้ากระจายสู่ภาคใต้ของจีน ประเดิมจากการส่งออกผัก-ผลไม้จากไทยก่อน
เป็นเกตเวย์ระหว่างภูมิภาค
ภายใต้สัญญา FTA ทั้งไทย-หยุนหนานจะใช้แต่ละฝ่ายเป็นประตู (Gateway-เกตเวย์)
ซึ่งกันและกัน โดยไทยหวังใช้หยุนหนานเป็นเกต เวย์สู่ภาคใต้ของจีน ซึ่งมีหลายเมือง
ที่มีศักยภาพสูงที่จะรับสินค้านำ เข้าจากไทย ขณะที่มลฑลหยุนหนาน ก็หวังใช้ไทยเป็นเกตเวย์สู่ภูมิภาคอาเซียนทั้ง
10 ชาติ
เขากล่าวจากปักกิ่งวานนี้ (17 มิ.ย.) ว่ามณฑลหยุนหนานของ จีน ซึ่งใช้เวลาบินจากเชียงราย
สู่มณฑลแห่งนี้เพียง 1 ชั่วโมงมีศักยภาพอย่างมากที่จะทำให้ยุทธศาสตร์ความร่วมมือเขตการ
ค้าไทย-จีนสัมฤทธิผล โดยช่วงแรกคาดว่าผัก-ผลไม้จากไทยจะหลั่งไหลสู่ภาคใต้ของจีน
ขณะที่เจ้าหน้าที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของไทย ก็พบกับตัวแทนระดับสูงด้าน
เดียวกันของหยุนหนาน เพื่อปรึกษาหารือโยงยุทธศาสตร์ไทย-ภาคใต้ของจีนให้เป็นรูปธรรมต่อเนื่อง
รวมถึงตัวแทนสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ของไทยกับเจ้าหน้าที่ CCPIT ซึ่งเป็นสภาด้านการค้า-การลงทุนของหยุนหนาน
เพื่อปรึกษาหารือโยงยุทธศาสตร์ไทย-ภาคใต้ของจีนให้เป็นรูปธรรมต่อเนื่อง และเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
(ททท.) พบเจ้าหน้าที่ด้านการท่องเที่ยวของหยุนหนาน เพื่อจะพยายามดึงนักท่องเที่ยวจากหยุนหนาน
และเสฉวนเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น หลังเหตุการณ์แพร่ระบาดหวัดมรณะ (ซาร์ส) เริ่มเบาบาง
นายสมคิดกล่าวว่า การเซ็นสัญญาเปิดเขตการ ค้าเสรีระหว่างไทยกับมณฑลหยุนหนานวานนี้
ถือเป็น หัวใจสำคัญผลักดันยุทธศาสตร์ความร่วมมือไทย-จีน ที่ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่
ขณะที่ในอดีตประเทศ แถบลุ่มแม่น้ำโขง(Greater Mekhong Sub-Region-GMS) ซึ่งรวมทั้งไทย
ลาว กัมพูชา และพม่า รวมถึงชาติอื่นๆ ในอาเซียน ต่างคนต่างเสาะหาความ ร่วมมือกับจีน
ขณะที่การคมนาคมขนส่งและการติดต่อระหว่างชาติเหล่านี้กับจีนเป็นไปด้วยความไม่สะดวก
อย่างยิ่ง แต่เมื่อเซ็นสัญญาเปิดเขตการค้าที่ไทย ประเดิมกับหยุนหนานวานนี้จะทำให้การคมนาคมขนส่งและการติดต่อสื่อสารทุกๆ
ด้านเป็นไป ด้วยความสะดวกอย่างยิ่ง โดยเฉพาะไทยสามารถเป็นตัวกลางที่จะได้ประโยชน์จากความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้
ทำสินค้าเกษตรไทยเป็นมาตรฐานเดียวกับจีน
ขณะเดียวกัน นายสมคิด ยังสั่งให้ผู้บริหารระดับสูงของกรมศุลกากรของไทย เชื่อมโยงพิธีการทางศุลกากรกับมณฑลหยุนหนานของจีน
เพื่อให้กระบวนการทางศุลกากรระหว่าง 2 ประเทศ เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงให้กระทรวงเกษตร
และสหกรณ์การเกษตรหารือกับเจ้าหน้าที่ด้านการ เกษตรของมณฑลหยุนหนาน เพื่อให้สินค้าเกษตรระหว่าง
2 ชาติ เป็นมาตรฐานเดียวกัน สามารถจะค้าขายระหว่างกันได้สะดวก
"การเซ็นสัญญาครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดมิติ ใหม่ของความร่วมมือระหว่างไทยกับจีนเป็นการเปิดศักราชใหม่ผลักดันยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่าง
2 ประเทศนี้ เพื่อรองรับการเปิดเสรีการค้าระหว่างกัน เต็มรูปแบบในอนาคต" รองนายกรัฐมนตรีกล่าว