“พฤกษาฯ”ปรับโครงสร้างองค์กร รับตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัว ดึงลูกหม้อคิวเฮ้าส์-ซิโน-ทัย เสริมความแกร่ง หวังกินรวบตลาดกลาง-ล่าง ตั้งเป้าโกยยอดขายไตรมาสแรกโต 87%

ด้วยสถานการณ์การแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มระดับความรุนแรงตั้งแต่ต้นปี2551 ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องปรับกลยุทธ์ดึงจุดขายสร้างจุดแข็งของตัวเองไม่ว่าจะเป็นราคา ขนาด รูปแบบ เพื่อดึงดูดให้ผู้บริโภคสนใจในสินค้า โดยเฉพาะสงครามราคาที่เริ่มมีการแข่งขันกันรุนแรง และผู้บริโภคเริ่มมองเป็นอันดับแรก ในภาวะเศรษฐกิจที่เครื่องใช้อุปโภคบริโภคมีราคาสูงขึ้น ดังนั้น เพื่อให้สามารถแข่งขันกับตลาดที่อยู่ในภาวะการแข่งขันรุนแรง ผู้ประกอบการต่างหาทางออกด้วยการเร่งปรับตัวและหากลยุทธ์ใหม่มาช่วยในการแข่งขัน เพื่อรักษาระดับฐานลูกค้าและสามารถรับมือกับคู่แข่งได้

ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน) (PS )กล่าวว่า บริษัทฯวางกลยุทธ์ที่จะรองรับการเติบโตขององค์กรในอนาคต โดยหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญ คือ 1. การปรับโครงสร้างธุรกิจในรูปแบบหน่วยธุรกิจ(Strategic Business Unit :sbu) โดยได้ดึงมือดีด้านการบริหารด้านการตลาดและผู้เชี่ยวชาญสถาปัตยกรรมมาเสริมทัพให้กับบริษัทให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นและเพื่อรองรับโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์ พฤกษา วิลเลจ 5 โครงการที่จะพัฒนาในไตรมาสแรกปีนี้ รวมถึงรองรับแบรนด์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย โดยไตรมาสแรกตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 4,480 ล้านบาท สูงกว่าปีที่ผ่านมา 87% หรือ 2,090 ล้านบาท

การปรับแผนธุรกิจดังกล่าวเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐในเรื่องของมาตรการภาษีต่างๆที่รัฐบาลประกาศออกมาไม่ว่าจะเป็นมาตรการด้านภาษี เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ กระตุ้นการลงทุนของภาคธุรกิจ การลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการโอนและค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์และห้องชุด เพื่อให้สามารถโอนบ้านได้ภายใน1 ปี 2. ความพร้อมของทีมงานไม่ว่าจะเป็นทีมงานก่อสร้าง เทคโนโลยีสมัยใหม่ รวมถึงการเซอร์วิสต่างๆจะต้องมีทีมงานที่พร้อมในการดูแลลูกค้าและการปรับรูปแบบ้านให้มีความทันสมัยและโดดเด่น ตั้งแต่การปรับโลโก้ แบบบ้านมาเป็นสไตล์โมเดิอร์เทมโพราลีและนำแนวคิด Feel Big มาเป็นจุดเด่นของโครงการ

ในปีนี้เราจะรุกธุรกิจบ้านระดับกลางมากขึ้น โดยเชื่อว่าจะได้เห็นโครงการใหม่ๆของบริษัทมากกว่า 5 โครงการแน่นอน เพราะว่าธุรกิจนี้สอดรับกับนโยบายของรัฐและความต้องการของตลาดมาก ทั้งนี้ โครงการทั้ง 5 แห่ง ล้วนได้รับอานิสงค์จากนโยบายภาษีที่รัฐประกาศใช้ซึ่งเป็นผลดีทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่ได้รับการลดภาษี ส่วนโครงการตามแผนพัฒนาของบริษัทมี 40โครงการแบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 18 แห่ง บ้านเดี่ยว 14 แห่งและคอนโดมิเนียม 8 แห่ง ”ประเสริฐกล่าว

นอกจากนี้ พฤกษาได้เปิดตัวทีมงานชุดใหม่ที่ดึงมาช่วยงานด้านการตลาด 2 คน คือ ศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ และพรเทพ พิพัฒน์ทั้งสกุล โดยศุภลักษณ์ นั่งเก้าอี้ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานการก่อสร้างบ้านเดี่ยว พฤกษาวิลเลจ 1 ซึ่งศุภลักษณ์ เคยเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารที่บริษัทชิโนไทย ตั้งแต่ปี 2544-2547

ศุภลักษณ์กล่าวว่า เข้ามาร่วมงานกับพฤกษา เพราะรู้จักทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ ประกอบกับต้องการหาประสบการณ์ใหม่ๆให้กับตัวเอง โดยเข้ามาทำในตำแหน่งดังกล่าวประมาณ 3 ปีครึ่งแล้ว มีหน้าที่ดูแลในส่วนของโครงการพฤกษาวิลเลท 9 (รังสิต-คลอง3) พฤกษาวิลเลท 10 (พระราม5 บางใหญ่) พฤกษาวิลเลท 11 (รัตนาธิเบศร์-ราชพฤกษ์)และพฤกษาวิลเลท 12 (รังสิต-คลอง2) และโครงการในอนาคตอีก 3 แห่ง ในทำเลนิมิตรใหม่ ราชพฤกษ์ และเอกชัย-บางบอน ซึ่งเป็น 1 ใน 40โครงการ ที่จะดำเนินการพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวราคา 2 ล้านต้นๆ บนเนื้อที่โครงการไม่เกิน 50 ไร่

ส่วนพรเทพ พิพัฒน์ทั้งสกุล รั้งตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานการก่อสร้างบ้านเดี่ยว พฤกษาวิลเลจ 2 ก่อนหน้านี้ พรเทพเคยร่วมงานกับบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ ในเครือแลนด์ฯในตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการบ้าน คาซ่าวิลล์ โดยพรเทพ รับหน้าที่ดูแลงานด้านการตลาด ดูแลโครงการพฤกษาวิเลจ 14 ในทำเลรังสิต-คลอง 2 และ พฤกษาวิลเลท15 บนทำเลศรีนครินทร์-เทพารักษ์ และโครงการใหม่ภายใต้แบรด์น The Piant บ้านเดียวราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจะเปิดตัว เร็วๆนี้

ทั้งนี้การที่พฤกษาให้พรเทพและศุภลักษณ์เข้ามาดูโครงการดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าทั้งพรเทพและศุภลักษณ์ต่างมีประสบการณ์การขายและงานออกแบบเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพรเทพที่เคยดูแลโครงการคาซ่าวิลล์ บ้านเดียวราคา 3 ล้านบาท ดังนั้นการที่พฤกษาให้มาดูตลาดตั้งแต่1.99-2.2 ล้านบาท เป็นเพราะเชื่อว่าพรเทพเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตลาดกลุ่มนี้เป็นอย่างดี