GRAMMY แผนตัดทิ้งธุรกิจไต้หวันสะดุดโรคซาร์ส การ เจรจายืด เร่งจำกัดขาดทุนหลังไตรมาส
แรกทรุด 35 ล้าน ยันได้ข้อสรุปภายเดือนนี้ ด้านธุรกิจในประเทศดันออกผลงานใหม่ 200
อัลบั้ม
นายสุรเชษฐ์ ตันสุขเกษม ผู้จัดการฝ่ายการเงินกลาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
จำกัด(มหาชน) (GRAMMY) เปิดเผยว่า การลงทุนของ แกรมมี่ในไต้หวันภายในปีนี้คงได้ข้อสรุปว่า
GRAMMY จะดำเนินการอย่างไรกับธุรกิจในไต้หวัน ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทได้จำกัดการขาดทุนของธุรกิจในไต้หวันเอาไว้แล้ว
ด้วยการไม่เพิ่มเงินลงทุน และจำกัดจำนวนผลงานที่ ออกในแต่ละปี ส่วนการขายกิจการดังกล่าว
ให้กับผู้ประกอบการายอื่นในไต้หวันนั้น
ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา ซึ่งการแพร่ระบาดของโรคซาร์ส ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การจัดการกับธุรกิจในไต้หวันค่อนข้างล่าช้ากว่าที่คาด
การณ์กันไว้ ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกที่ผ่าน มา ธุรกิจในไต้หวันมีผลขาดทุนประมาณ 35
ล้านบาท และในไตรมาส 2 นี้ จะยังมีผลขาดทุนเล็กน้อย
สำหรับแผนของธุรกิจเพลงภาย ในประเทศนั้น บริษัทมีแผนเปิดแฟรนไชส์ร้านค้าปลีกจำหน่ายสินค้าเครือแกรมมี่อย่างน้อย
5 สาขาในปีนี้ และออกผลงานเพลงทั้งอัลบั้มใหม่และรวมฮิตในปีนี้ประมาณ 200 อัลบั้ม
ซึ่งในส่วนของอัลบั้มใหม่ ในไตรมาส 2 นี้
บริษัทจะเปิดตัวทั้งหมด 12 อัลบั้ม ส่วนใหญ่จะเน้นหนักในไตรมาสสุดท้าย เพราะถือเป็นฤดูกาลที่จะขายดีที่สุดของ
ธุรกิจเพลง ทั้งนี้ รายได้จากการจำหน่าย สินค้าในธุรกิจเพลงยังเป็นรายได้หลักของบริษัท
โดยในไตรมาสแรกที่ผ่านมา รายได้จากธุรกิจเพลงมีสัดส่วน 50% ของรายได้รวม และคิดเป็น
87% ของกำไรสุทธิ
ส่วนกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ต้องการให้ค่ายเพลงต่างๆ ลดราคาขายซีดี และวีซีดี ลงอีกนั้น
คงต้องรอดูผลการปราบปรามผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือเทปผีซีดีเถื่อนก่อน ว่าจะประสบความสำเร็จและทำให้ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน
แต่ในระยะอันใกล้นี้แกรมมี่คงยังไม่ปรับลดราคาขายซีดี และวีซีดี ลงอีก เพราะได้ปรับลดลงมามากพอสมควรแล้ว
ขณะที่ราคาวีซีดี ซึ่งทางอาร์.เอส. โปรโมชั่น ประกาศปรับลดราคาลงแล้วนั้น แกรมมี่จะยังไม่ปรับเช่นกัน
เนื่องจากยอดขายของดีวีดียังไม่สูงนัก จึงยังไม่เน้นการใช้แผนการตลาดในผลิตภัณฑ์ดังกล่าว