Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2551








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2551
น้ำผึ้งพระจันทร์กลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียน             

 


   
search resources

Architecture




สำหรับ Alice และ Nick แล้ว ทั้งคู่ไม่เคยคิดจะเลิกดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ด้วยกันเลย แม้จะผ่านพิธีสมรสมานานถึง 16 ปีแล้วก็ตาม ในทุกฤดูร้อนของปี คู่สามีภรรยาชาวอเมริกันจะไปอาบแดดรับไอทะเลที่กรีซกันเป็นประจำ เพราะต่างหลงใหลและรักในสถาปัตยกรรม บรรยากาศ รวมทั้งทัศนียภาพ ซึ่งเป็นรูปแบบเฉพาะที่เกิดจากสภาพแวดล้อมของเกาะกลางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่อาจเรียกได้ว่าเป็นเกาะในฝันสำหรับการสร้างบ้านพักตากอากาศก็ไม่ผิด หลังจากแสวงหามานานปี ทั้งคู่ก็สมหวังที่ได้พบทำเลทองสำหรับสร้างบ้านพักตามความใฝ่ฝัน

"เราอยากได้บ้านที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติ เป็นบ้านที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากแหล่ง ท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น แต่ขณะเดียวกันก็ใกล้ชิดกับผืนน้ำมากพอที่จะทำให้เราได้ชื่นชมความงามของดวงอาทิตย์ยามอรุณรุ่งที่ค่อยๆ โผล่พ้นจากผืนน้ำและค่อยๆ อัสดงจมลงไปกับท้องทะเลยามย่ำค่ำ"... หนึ่ง ในเหตุผลที่ Alice เลือกที่นี่และพรรณนาให้ฟังอย่างดื่มด่ำ

Antiparos คือเกาะในฝันของพวกเขา เกาะนี้ตั้งอยู่ในทะเล Aegean ห่างจากกรุงเอเธนส์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 160 กิโลเมตร เมื่อได้ไปเห็นแล้ว Alice ถึงกับตกตะลึงพูดไม่ออก เพราะเป็นทำเลที่มีคุณสมบัติครบทุกอย่างตามที่เธอและสามีแสวงหา

ไม่นานนักบ้านพักตากอากาศ Little Cedar ก็ก่อกำเนิดขึ้น เป็นบ้านที่ตั้งเด่นอยู่บนยอดเนินที่มีทิวทัศน์สวยจับตาจับใจลูกหนึ่ง

Little Cedar ออกแบบ โดยสถาปนิก Tala Mikdashi แห่งลอนดอน เธอร่วมมือกับสถาปนิก Renzo Piano ผู้โด่งดังแห่งปารีส ทันทีที่ได้รับผิดชอบโครงการนี้ Tala สานสายสัมพันธ์กับเจ้าของบ้านอย่างไม่รีรอ ซึ่ง Alice เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า

"เราชอบสไตล์เรียบง่ายแต่ชัดเจน รวมทั้งความสามารถในการตอบสนองต่อความสวยงามของ Tala เรายัง ไว้ใจในวิสัยทัศน์ของเธอด้วย เมื่อเสนอแผนงานมาจึงมีการปรับเปลี่ยนน้อยมาก เป็นการปรับเพื่อให้เหมาะกับสไตล์ของ ครอบครัวเท่านั้นเอง"

โครงการนี้ดำเนินไปอย่างราบรื่นปราศจากข้อขัดแย้งหรืออุปสรรคที่ทำให้ต้องสะดุดลง เพราะทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ธรรมชาติต้องเป็นจุดศูนย์กลาง โดยสร้างตัวบ้านขึ้นรอบๆ และกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว กับสภาพแวดล้อมดังที่ Tala ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า

"เมื่อดิฉันได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานออกแบบสร้างบ้านหลังนี้ ความรู้สึกตอนนั้นแยกเป็นสองด้านโดยสิ้นเชิง ด้านหนึ่ง ก็ตื่นเต้นดีใจที่ได้งาน แต่ความรู้สึกอีกด้านหนึ่งก็เศร้าใจอย่างบอกไม่ถูกที่ต้องปลูกสิ่งก่อสร้างลงบนผืนแผ่นดินของเกาะที่ยังคงความงามบริสุทธิ์ไว้ได้มากที่สุดแห่งหนึ่งนี้"

สถาปนิกสาวยังให้แง่คิดน่าฟังอีกว่า

"มันไม่เหมือนกับเวลาที่คุณซื้อที่ดินในเมืองใหญ่ได้แปลงหนึ่ง บ้านหลังนี้ต้องสร้างบนเนินเขาและมองเห็นได้จากทุกทิศทาง จึงจำเป็นต้องสร้างให้แลดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ไม่ควรจะดูแล้วให้ความรู้สึกเหมือน เอาลูกเชอร์รี่เชื่อมไปแปะลงบนหน้าเค้กก้อนหนึ่งซึ่งมันทั้งโดดเด่นและแปลกแยกออกไปโดยสิ้นเชิง"

จึงต้องยอมรับว่าความสำเร็จของโครงการสร้างบ้าน Little Cedar มาจากความ สามารถในการตอบสนองต่อความงามของสภาพแวดล้อม รวมทั้งไหวพริบและทักษะในการออกแบบได้อย่างน่าทึ่งของ Tala นั่นเอง เธอเล่าเพิ่มเติมว่า

"สถาปัตยกรรมที่ถือว่ามีอิทธิพลและเป็นแรงบันดาลใจหลักต่อโครงการนี้มีเพียงแค่ต้น cedar เก่าแก่อายุ 200 ปีต้นหนึ่งและกำแพงหินที่สร้างล้อมรอบตัวเกาะทั้งเกาะเท่านั้น"

"ดิฉันจึงออกแบบให้บ้านหลังนี้ล้อมรอบต้น cedar โบราณและตั้งชื่อตามไม้ต้นนี้ ด้วย ตัวบ้านด้านนอกก็ใช้หินชนิดเดียวกับที่ใช้ในการสร้างกำแพงประวัติศาสตร์รอบตัวเกาะนั่นเอง ทำให้ Little Cedar เป็นเหมือน หนึ่งในองค์ประกอบตามธรรมชาติของเกาะ Antiparos ไปด้วย ส่วนตัวบ้านด้านในที่ฉาบด้วยปูนขาวก็ตั้งใจให้ตัดกับโทนสีฟ้าเข้มของบริเวณโดยรอบที่มีทั้งสีฟ้าของน้ำในทะเล Aegean ของสระว่ายน้ำ และท้องฟ้า"

Tala ยังตั้งข้อสังเกตตบท้ายว่า

"บ้านหลังนี้จึงมีสองโฉมหน้าไปโดยปริยาย เมื่อมองจากแผ่นดินก็จะเห็นเป็นบ้านบนดินตามปกติ แต่เมื่อมองจาก ทะเลเข้ามาก็จะเห็นเป็นบ้านริมทะเลที่สวยงามน่าอยู่"

เพราะบนเกาะนี้มีอากาศแสนสบายตลอดทั้งปี Tala จึงนำมาเป็นตัวตัดสินในการออกแบบเพื่อแบ่งพื้นที่ใช้สอยของบ้าน โดยให้มีพื้นที่ในและนอกบ้านเท่าๆ กัน และไม่ลืม ที่จะออกแบบให้มีมุมหรือพื้นที่สำหรับความเป็นส่วนตัวให้กับทุกคนด้วย"

Little Cedar เป็นบ้านรูปทรงตัว S ที่มีเรือนรับรองแขกปลูกแยกออกไปต่างหาก และตั้งอยู่บนเขาอีกลูกหนึ่งที่อยู่สูงขึ้นไปจากที่ตั้งของตัวบ้านหลังใหญ่ ส่วนบ้านหลังใหญ่ แบ่งออกเป็น 3 บล็อก บล็อกที่หนึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันตก วางตัวขนานกับทะเล ประกอบด้วยสองห้องน้ำและสองห้องนอน รวมทั้งห้องซักล้างบริเวณชั้นใต้ดิน ส่วนบล็อกที่สองหันหน้าไปทางทิศใต้ เป็นที่ตั้งของห้องครัวแบบเปิดและมุมรับประทานอาหารซึ่งอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ขณะที่บล็อกที่สามวางตัวขนานกับบล็อกที่หนึ่ง มีจำนวนห้องนอนมากกว่าและเชื่อมติดกับครัวผ่านทางประตูใหญ่

Alice เล่าอย่างภาคภูมิใจในวิมานริมทะเลของเธอว่า

"เมื่อเดินผ่านประตูใหญ่เข้ามา คุณจะไม่คาดฝันกับภาพที่ได้พบเห็นจนต้องอุทาน ออกมาอย่างลืมตัว และในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ผู้มาเยือนจะต้องตกหลุมรักในภาพที่ได้พบเห็นทันที"

บริเวณที่เป็นกลางแจ้งสร้างด้วยหินสีครีมซึ่งเป็นวัสดุในท้องถิ่น เป็นการเพิ่มเหลี่ยมมุมให้กับ Little Cedar ซึ่งสามารถสะท้อนความงามสไตล์โมเดิร์นได้อย่างน่าทึ่ง เมื่ออยู่ในบ้านและต้องการออกมาสู่พื้นที่ส่วนที่เป็นกลางแจ้งนี้สามารถทำได้ด้วยการเดินทะลุจากห้องนั่งเล่นและมุมรับประทานอาหารออกมา บริเวณที่อยู่ถัดจากลานกลางแจ้ง และส่วนของเตาย่างบาร์บีคิวที่มีหลังคาคลุมก็จะเป็นสระว่ายน้ำ

ที่น่าสังเกตคือบ้านนี้ไม่มีจุดที่เรียกว่า เป็นทางตันเลย ทุกส่วนของบ้านจะเชื่อมต่อกันแบบลื่นไหลและ พลิ้วไหวโดยปราศจาก ขอบเขตหรือเส้นแบ่งแต่อย่างใด

เห็นได้ชัดว่า การเน้นออกแบบให้เฟอร์นิเจอร์และสิ่งปลูกสร้างมีสีตามธรรมชาติสามารถช่วยทำให้ตัวบ้านหลังมหึมาแลดูกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกับบริเวณ โดยรอบมากกว่าจะกลายเป็นความแปลกแยก ที่ทำให้เกิดความรู้สึกสะดุดในสายตาและอารมณ์ยามได้พบเห็น บริเวณนี้จัดเป็นทำเลทองสำหรับการดื่มด่ำกับความงดงามแห่งทัศนียภาพของเกาะ Antiparos ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อโครงการนี้แล้วเสร็จลง สถาปนิกสาวยอมรับว่า ความสวยงามแห่งธรรมชาติบนเกาะได้สร้างรอยประทับขึ้นในจิตใจของเธอไม่รู้ลืม

"การได้มาทำงานบนเกาะ Antiparos นี้เป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตของดิฉัน การได้เห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับแปลง เพาะปลูก ผู้คน และสิ่งแวดล้อมตลอดทั้งปีตามฤดูกาลที่หมุนเวียนไป ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์จริงๆ ปกติแล้วเราต่างคุ้นเคยกับการไปเที่ยวเกาะช่วงฤดูท่องเที่ยวกัน แต่การที่ดิฉันต้องไปดูไซต์งานก่อสร้างเป็นประจำทำให้ได้ค้นพบแง่มุมอีกด้านหนึ่งของชีวิตบนเกาะชนิดที่ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้เห็น" และ

"แม้จะเป็นงานหนัก แต่ดิฉันกลับรู้สึกเหมือนตัวเองได้สิทธิพิเศษที่สามารถปลีกตัวออกมาจากกรุงเอเธนส์เป็นเวลาหลายชั่วโมง และก้าวเข้ามาอยู่ในบรรยากาศเก่าแก่ดั้งเดิมและสันโดษบนเกาะแห่งนี้"


แปลและเรียบเรียงโดย ดรุณี แซ่ลิ่ว
จากนิตยสาร Inside Out/March-April 2008   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us