Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 มีนาคม 2551
BAFSวอนรัฐอุ้มหวังดันรายได้โต5%             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ, บมจ.
Oil and gas




BAFS คาดปีนี้รายได้โต 5% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.26 พันล้านบาท โดยพยายามรักษา Net Profit Margin ที่ 24% เหตุภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง บวกกับคาดการณ์ปริมาณการเติมน้ำเพิ่มขึ้น 5% ขณะที่ไตรมาสแรกโตเพียง 4.9% ระบุเป็นเรื่องยากหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในช่วงไตรมาส 2-3 ด้านผู้บริหารเชื่อการเข้ามาของ Petro China จะทำให้ปริมาณการเติมน้ำมันเพิ่มขึ้น เผยปีนี้ยังไม่ขึ้นอัตราค่าบริการเติมน้ำมันที่ 4.33% พร้อมเล็งปรับอัตราค่าบริการที่เก็บจากสายการบินต้นทุนต่ำ เหตุไม่ยุติธรรมกับลูกค้ารายใหญ่

นายฉัตรธัย พันธัย ผู้จัดการฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS กล่าวว่าบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตประมาณ 5% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,258 ล้านบาท โดยจะพยายามรักษา Net Profit Margin ให้เท่ากับปีก่อนที่ประมาณ 24% เท่ากับปีที่แล้ว หลังจากบริษัทมีภาระดอกเบี้ยลดลง เนื่องจากได้ทยอยชำระไปแล้ว และมีแผนจะชำระหนี้เพิ่มอีก 521 ล้านบาท จากมูลหนี้ทั้งหมด 3.4 พันล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ลดลงใกล้เคียง 1.2 เท่า จากปัจจุบันที่ 1.4 เท่า

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าการเติบโตของปริมาณการใช้น้ำมัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในปีนี้จะเติบโต 5% และ BAFS จะพยายามรักษาส่วนแบ่งการตลาดของการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานไว้ไม่ต่ำกว่า 85% โดยในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ปริมาณการใช้น้ำมัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเติบโต 4.9% ซึ่งใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ไตรมาส 2 และไตรมาส 3 ที่เป็นช่วง Low Season รวมถึงผลกระทบที่ทั่วโลกได้รับจากปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ซึ่งอาจส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยลดลง ดังนั้นโอกาสที่จะเห็นปริมาณการเติมน้ำมันเติบโตเท่ากับที่คาดการณ์ไว้ต้องได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลในการกระตุ้นการท่องเที่ยว

"เราคาดหวังว่าทางภาครัฐบาลจะมีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวฟื้นตัว ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีกับจำนวนเที่ยวบินที่จะเข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้น" นายฉัตรธัย กล่าว

สำหรับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน BAFS ได้ทำการปรับโครงสร้างรายได้เปลี่ยนเป็นสกุลเงินบาทจากเดิมเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยปัจจุบันรายได้ในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ประมาณ 20% ส่วนอีก 80% เป็นรายได้ในรูปเงินบาท ซึ่งหากเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่องก็จะมีส่วนกดดันรายได้ของบริษัทเช่นกัน

อย่างไรก็ดี การที่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นไม่ได้กระทบกับบริษัท เนื่องจากว่าเป็นเพียงผู้รับจ้างเติมน้ำมันให้กับสายการบินเท่านั้น เพราะราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นบริษัทน้ำมันก็จะไปจัดเก็บอัตราค่าธรรมเนียมน้ำมันเพิ่มกับสายการบิน ซึ่งสายการบินก็อาจเฉลี่ยต้นทุนตรงนี้ไปที่ราคาตั๋วโดยสาร โดยระบุในส่วนที่เป็นราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่การเข้ามาให้บริการเติมน้ำมันของ Petro China ซึ่งนับเป็นรายที่ 11 นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีในแง่ภาพลักษณ์ของประเทศ และมีส่วนเพิ่มปริมาณการเติมน้ำมัน เนื่องจากสายการบินแต่ละประเทศก็จะให้การสนับสนุนบริษัทในประเทศ โดยปัจจุบัน Petro China จ่ายค่าพรีเมียม 50% ของค่าคลังให้แก่บริษัท ซึ่งหากในอนาคต Petro China เห็นว่าการจ่ายค่าพรีเมียมดังกล่าวทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง ก็สามารถยื่นเรื่องกับบอร์ด BAFS เพื่อพิจารณาให้ Petro China เข้ามาถือหุ้นของ BAFS จำนวน 2 % เหมือนในกรณีที่บอร์ด BAFS อนุญาตให้ 3 ผู้บริการรายล่าสุดที่เข้ามาให้บริการต้องถือหุ้นของ BAFS จำนวน 2 %

โดยในปีนี้บริษัทจะยังไม่มีการขึ้นอัตราค่าบริการเติมน้ำมันที่ปัจจุบันเก็บอยู่ที่ 4.33% ส่วนการจัดเก็บค่าบริการกับสายการบินต้นทุนต่ำหรือ Low Cost นั้น ปัจจุบันบริษัทจัดเก็บเป็นลิตรในอัตราเดียวไม่ว่าจะเติมมากหรือน้อย ซึ่งไม่ยุติธรรมกับลูกค้ารายใหญ่ที่เติมเป็นจำนวนมาก ๆ ซึ่งทางบริษัทกำลังพิจารณาปรับเปลี่ยนเกณฑ์ โดยอาจจะแบ่งเป็นลำดับขั้นตามปริมาณที่เติม ขณะที่หากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) อนุมัติสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 บริษัทคาดว่าจะงบการลงทุนในการก่อสร้างเบื้องต้นในส่วนของ TARCO ประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งจำนวนเงินที่แน่นอนนั้นต้องดูระยะทางของท่ออีกครั้งหนึ่ง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us