Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์24 มีนาคม 2551
รับเหมาก่อสร้างรอวันเจ๊ง ยื่นรัฐคุมราคา/เปิดเสรีนำเข้าเหล็ก             
 


   
search resources

Construction




- ส.ก่อสร้างยื่นหนังสือนายกฯสมัคร ช่วยผู้รับเหมา ก่อนพังทั้งระบบ
- ยื่นรัฐบาลปรับสูตรคำนวณค่า K ขยายเวลาก่อสร้าง 6 ด. ทบทวนการประมูลแบบอีออคชั่น
- เสนอพาณิชย์คุมราคาเหล็ก และเปิดนำเข้าเหล็กเสรี

ทุกครั้งที่ประเทศตกอยู่ในภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ ธุรกิจต่าง ๆ ล้วนได้รับผลกระทบโดยถ้วนหน้า ขึ้นอยู่กับว่าใครจะปรับตัวได้ก่อนใคร

ธุรกิจรับหมาก่อสร้างเป็นอีกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตทุกครั้ง และต้องช่วยตัวเองมาตลอด เพื่อให้ฝ่าวิกฤตในแต่ละครั้งให้ได้ ไม่เช่นนั้นไม่เพียงแต่ภาคธุรกิจเท่านั้นที่จะพัง แต่จะลุกลามไปถึงภาคธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแรงงาน ก่อนที่จะลามไปถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมด้วย

ภาวะวิกฤตครั้งนี้ หลักๆเกิดจากภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกา และญี่ปุ่นที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง ทำให้ภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกดิ่งเหวตาม รวมถึงปัญหาน้ำมันที่เป็นตัวแปรฉุดให้เศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วโลก

ประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันราคาน้ำมันสูงถึงแตะระดับ 107เหรียญสหรัฐต่อบาเรล ทำให้ธุรกิจต่างๆได้รับผลกระทบตามมา โดยเฉพาะธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงตามราคาตลาดโลก

เหล็กเป็นวัสดุก่อสร้างหลักของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โดยปัจจุบันราคาขยับตัวสูงถึงตันละ 30,000 บาท หรือเพิ่มขึ้นราว 65% จากก่อนหน้านี้ที่ราคาอยู่ที่ตันละ18,000-19,000 บาท ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับผู้รับเหมาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะงานราชการที่มีการเปิดประมูลไปแล้ว ทำให้ผู้รับเหมาหลายรายที่ต้องขาดทุน เนื่องจากช่วงที่ประมูลงานราคาเหล็กยังไม่มีราคาสูงเท่าปัจจุบัน

นอกจากราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงแล้ว ปัญหา การคำนวณเงินเพิ่มลดค่างานก่อสร้างตามสัญญาแบบปรับราคาได้หรือค่า K ที่เอกชนหรือผู้รับเหมาต้องจ่ายคืนให้กับรัฐ รวมถึงวิธีการประกวดราคาด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์หรืออีออคชั่น ที่ไม่เป็นธรรมแก่ผู้เข้าประกวดราคา

ดังนั้น สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือต่อสมัคร สุนทรเวชนายกรัฐมนตรี เพื่อรับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและให้รัฐบาลเร่งหาทางออกและช่วยเหลือผู้รับเหมาก่อสร้าง ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวเคยมีการหยิบยกมาพูดในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรมาแล้ว โดยสมาคมฯต้องการให้มีการยกเลิก ค่า K แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังจนกลายเป็นปัญหาที่ผู้รับเหมาต้องแบกรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

พลพัฒ กรรณสูต นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า จากปัญหาราคาเหล็กที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคามตลาดโลกนั้น ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นอย่างมาก เนื่องจากอุตสาหกรรมก่อสร้างมีความต้องการใช้เหล็กสูงถึงปีละ 4.5 ล้านตัน โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2551 ธุรกิจก่อสร้างได้รับความเสียหายมากกว่า 4,500 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการได้เซ็นสัญญากับราชการไปแล้วหลายสัญญา โดยราคาที่ประมูลนั้น คิดจากราคาเหล็กที่ราคากิโลกรัม 20 บาท แต่ปัจจุบันราคาปรับขึ้นไปถึง 50% หรือราคากิโลกรัมละ 30 บาท

“เฉพาะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงมาก ก็ทำให้ธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างมาก ยิ่งมากเจอราคาเหล็กที่สูงขึ้น ยิ่งทำให้ธุรกิจแย่ลงไปอีก”พลพัฒกล่าว

เตือนแก้ปัญหาก่อนลุกลาม

ดังนั้น สมาคมฯจึงได้ยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาให้กับอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยก่อนที่จะเกิดผลกระทบต่อเนื่องไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆและส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในวงกว้าง ทั้งนี้ ทางสมาคมฯต้องการให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือดังนี้

1.ให้รัฐบาลปรับปรุงการคำนวณค่า Kให้มีความเป็นธรรม โดยสมาคมฯต้องการให้รัฐยกเลิกการใช้ค่าส่วนเกินบวกลบ 4 เป็นการชั่วคราว หรือประมาณ 9 เดือนนับตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย.นี้ หรือจนกว่าทางกรมบัญชีกลางจะดำเนินการศึกษาและปรับสูตรและวิธีการคำนวณที่ใช้กับสัญญาค่า Kใหม่ ทั้งนี้ ค่า Kที่มีปัญหาอยู่ขณะนี้เนื่องจากปัจจุบันหากราคากลางสูงเกิน 4 % รัฐจะต้องจ่ายคืนส่วนเกินให้กับผู้รับเหมา ในขณะที่หากราคากลางต่ำกว่า 4 % ผู้รับเหมาจะต้องจ่ายคืนส่วนเกินให้กับรัฐ

ขยายเวลาก่อสร้าง 6 ด.

2.พิจารณาขยายระยะเวลาของสัญญาโครงการก่อสร้างที่ได้เสนอราคาในสัญญาก่อสร้างหรือกำลังดำเนินการอยู่ในมีการลดหรือยืดปริมาณความต้องการเหล็กเส้นให้น้อยลงและยาวขึ้นเพื่อเป็นการตรึงราคาวัสดุก่อสร้างให้นานขึ้น โดยต้องการให้รัฐยืดเวลาของสัญญาออกไปประมาณ 6 เดือน

3. ให้พิจารณาการประมูลด้วยวิธีอีออคชั่น โดยขอให้เว้นการยึดหลักประกันซองประกวดราคาในกรณีที่ผู้รับเหมาไม่สามารถมาทันเวลาเคาะราคา รวมถึงขอลดขั้นตอนของระบบอีออคชั่นเพื่อความรวมเร็วในการดำเนินงาน และ4. ให้รัฐพิจารณาเร่งรัดพ.ร.บ.การประกอบอาชีพก่อสร้าง พ.ศ....ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนเสนอสภาต่อไปรวมถึงการมีส่วนร่วมของสมาคมฯในการเข้าไปพิจารณากฎ ระเบียบ และข้อบังคับต่างๆร่วมกับภาครัฐเพื่อความเป็นธรรมและโปร่งใส

นอกจากนี้ให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาควบคุมราคาเหล็กเส้นให้อยู่ในระดับราคาที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ เพราะปัจจุบันราคาเหล็กในตลาดสูงกว่าราคาที่กระทรวงฯกำหนดถึงตันละ 2,000-3,000 บาท รวมถึงให้มีการเปิดเสรีนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศได้ เพราะปัจจุบันประเทศไทยยังไม่เปิดกว้างการนำเข้าเหล็ก และมีขั้นตอนในการตรวจสอบคุณภาพเหล็กที่ค่อนข้างใช้เวลานาน

“หากภาครัฐไม่เข้ามาช่วยเหลือคิดว่าในอนาคตผู้รับเหมาคงหายไปจากตลาดอีกมาก เพราะจากการสำรวจในกลุ่มสมาชิกด้วยกันพบว่า 76 บริษัทที่เดือนร้อนเรื่องราคาเหล็ก และอีกกว่า 78 บริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำ เนื่องจากทิ้งงานเพราะแบกรับต้นทุนค่าก่อสร้างที่พุ่งสูงไม่ไหวและคาดว่าน่าจะเพิ่มขึ้นอีกหากรัฐยังไม่เร่งเข้ามาดูแล”พลพัฒกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us