เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อหลัก 2 เดือนแรก ยังคงซบเซา ตามข้อมูลของ นีลเส็น มีเดีย รีเสริช(ประเทศไทย) ที่ได้รายงานสรุปการใช้เงินของสินค้าและบริการต่าง ๆ ผ่าน 6 สื่อหลัก ในเดือนกุมภาพันธ์ของปีนี้ ปรากฏว่า ใช้ไปทั้งสิ้น 6,689 ล้านบาท ลดลงจากกุมภาพันธ์ 2550 ที่มีการใช้เงิน 6,902 ล้านบาท หรือลงลงราว 3.09%

สื่อโทรทัศน์ ยังคงถดถอยต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ มีเม็ดเงินไหลเข้า 3,876 ล้านบาท ลดลงจาก4,118 ล้านบาท ที่ใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน อยู่ 5.83% สวนทางกับสื่อวิทยุที่กลับมาเติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 กุมภาพันธ์ปีนี้ มีงบโฆษณาใช้ผ่านสื่อนี้ 515 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 14.96% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้เพียง 448 ล้านบาท ขณะที่สื่อหนังสือพิมพ์ มียอดการใช้ 1,114 ล้านบาท ใกล้เคียงกับกุมภาพันธ์ปีก่อน ที่มีงบเข้ามา 1,125 ล้านบาท

ขณะที่เจ้าของสินค้าที่ใช้งบโฆษณาสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ อันดับ 1 เปลี่ยนมือจากผลิตภัณฑ์สกินแคร์ พอนด์ส ที่ยืนอยู่ตำแหน่งมายาวนาน เป็นเครื่องดื่ม M150 จากค่ายโอสถสภา โดยมีการใช้งบโฆษณามากขึ้นกว่ากุมภาพันธ์ปี 2550 กว่า 50% ด้วยเงิน 88.15 ล้านบาท ตามด้วยรถยนต์นั่งโตโยต้า ที่เปิดตัวโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ใหม่ ที่ได้พระเอกอังกฤษ ออร์แลนโด้ บลูม มาเป็นพรีเซนเตอร์ของแคมเปญในเดือนนี้ พร้อม ๆ กับโฆษณาดีไซน์เบาะใหม่ในโตโยต้า ยาริส และแคมเปญพลังงาน E20 ที่ปิดท้ายส่งให้ยอดการใช้งบโฆษณาของโตโยต้าขึ้นสูงถึง 74.23 ล้านบาท ส่วนแชมป์เก่า พอนด์ส ส่งแคมเปญใหญ่ พิสูจน์รักแท้ใน 7 วัน ไปให้กิจกรรมบีโลว์เดอะไลน์ ทำให้ยอดการใช้งบผ่านสื่อหลักตกเป็นอันดับ 3 ในเดือนนี้ ด้วยงบ 70.03 ล้านบาท

นายกฯ โฆษณา ชี้ธุรกิจยังไม่เข้าที่ มั่นใจสิ้นปี เติบโตไม่ต่ำกว่า 5%

วิทวัส ชัยปาณี นายกสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมโฆษณาไทยในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ตกลง 7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 2 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เพราะปัจจัยการเมืองที่ไม่มีความชัดเจน แม้จะได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาบริหารประเทศแล้ว แต่หากมองแนวโน้มของอุตสาหกรรมตลอดทั้งปีคาดว่าภาพรวมจะยังมีแนวโน้มเติบโตไม่ต่ำกว่า 5 % เนื่องจากภาครัฐฯได้มีการเตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่จะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ รวมถึงการออกมาตรการลดหย่อนภาษี ซึ่งจะส่งผลให้ผู้บริโภคกล้าที่จะจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น สร้างความมั่นใจให้เจ้าของสินค้า-บริการ เทงบโฆษณาเพื่อสนับสนุนการขายอย่างเต็มที่ ประกอบกับเจ้าของสินค้าได้เตรียมที่จะทำการตลาดในช่วงหน้าร้อนอาทิ ครีมกันแดด ,เครื่องปรับอากาศ , กลุ่มสินค้าเครื่องดื่ม ส่งผลให้ภาพรวมของทั้งปีน่าจะกลับมาคึกคักเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตามในส่วนของกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจโฆษณาได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือ ในกรณีที่สภาพเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปรับตัวเพื่อให้รับกับสภาพ ด้วยการมุ่งนำเสนองานที่แตกต่าง และ โดดเด่นแม้จะได้รับงบประมาณในจำนวนที่จำกัด

สำหรับภาพรวมธุรกิจโฆษณาปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตเพียง 3 % หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 90,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยปัจจัยหลักที่ทำให้การเติบโตลดลงเนื่องมาจากการเมือง เศรษฐกิจ และราคาน้ำมัน ส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความไม่มั่นใจและชะลอกำลังซื้อ ขณะที่กลุ่มเจ้าของสินค้าไม่กล้าหว่านเม็ดเงินลงมาในโฆษณามากนัก แต่หันไปใช้เงินในส่วนของธุรกิจบีโลว์เดอะไลน์ และเจาะกลุ่มเป้าหมายแบบตรงตัวมากยิ่งขึ้น