Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์24 มีนาคม 2551
โซนี่ อัปประสบการณ์ขยายตลาดกล้อง DSLR             
 


   
www resources

โฮมเพจ โซนี่ ประเทศไทย

   
search resources

โซนี่ ไทย, บจก.
Camera




ตลาดกล้อง DSLR บูม โซนี่ รุกชิงแชร์ เพิ่มมูลค่ายอดขาย ขณะที่ฟูจิซอยเซกเมนต์สนองทุกดีมานด์ ล่าสุด ผุดกล้องสายพันธุ์ใหม่ สร้างจุดต่างเบียดตลาด DSLR ด้านแคนนอน ผู้นำตลาดกล้อง DSLR สกัดคู่แข่งด้วยการอัดกิจกรรมเจาะตลาดตั้งแต่คนรุ่นใหม่ไปถึงผู้ใช้กล้องมือโปรตามสตูดิโอ เป็นการรักษาฐานเดิม และเพิ่มฐานใหม่

โซนี่รุกตลาดกล้อง DSLR ต่อยอดประสบการณ์ผู้บริโภคที่ต้องการยกระดับขึ้นมาเล่นกล้องระดับบนที่เปลี่ยนเลนซูมได้ ด้วยการสร้างประสบการณ์ผ่านงานแสดงนิทรรศการภาพถ่ายของ นิติกร กรัยวิเชียร ช่างภาพมืออาชีพ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคหันมาใช้กล้องที่ดีขึ้น เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าให้กับตลาด หลังจากที่เซกเมนต์ของกล้องคอมแพกซึ่งเจาะตลาดระดับกลางลงล่างต้องเผชิญกับความตกต่ำของราคา ในขณะที่ผู้เล่นมีมากกว่าสิบราย ส่งผลให้การแข่งขันดุเดือดโดยกล้องระดับ New Entry ที่มีราคาต่ำกว่า 5,000 บาทมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว

ดังนั้นเพื่อเลี่ยงสงครามราคา รวมถึงความตกต่ำของราคาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้สินค้าตกรุ่นเร็วกว่าในอดีต โดยปัจจุบันค่ายผู้ผลิตกล้องต่างมีการลอนช์เทคโนโลยีใหม่โดยเฉลี่ยปีละ 2 ครั้ง จึงส่งผลให้ราคากล้องดิจิตอลตกต่ำลงเรื่อยๆ แม้แต่กล้องเปลี่ยนเลนซูมได้อย่าง DSLR ก็เริ่มมีราคาลดลง ทว่าก็ยังยืนอยู่ในหลักหมื่นบาท และมีส่วนต่างของกำไรสูงกว่ากล้องคอมแพกจึงส่งผลให้หลายค่ายเริ่มให้ความสนใจในเซกเมนต์ดังกล่าว อีกทั้งผู้บริโภคเองก็มีความต้องการใช้กล้องที่มีคุณภาพสูงขึ้น

ในการจัดกิจกรรมแสดงนิทรรศการภาพถ่าย ได้มีการจัดสัมมนาเกี่ยวกับเทคนิคการถ่ายภาพ เรียนรู้การปรับแสง และตัดต่อภาพ ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคเกิดประสบการณ์ที่ดีกับกล้อง DSLR อัลฟ่าของโซนี่

ตลาดกล้องดิจิตอลในปีที่ผ่านมามีความต้องการอยู่ที่ 950,000 เครื่อง เติบโต 13% ขณะที่มูลค่าตลาดอยู่ที่ 9,000 กว่าล้านบาท เติบโตลดลง 4% โดยสัดส่วนตลาดกว่า 95% เป็นกล้องคอมแพก ที่เหลือ 5% เป็นกล้อง DSLR ส่วนในปีนี้คาดว่าปริมาณความต้องการในตลาดจะอยู่ที่ 1,000,000 เครื่อง โดยมูลค่ายังคงใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมคือ 9,000 กว่าล้านบาท ทว่าสัดส่วนตลาดกล้อง DSLR คาดว่าจะเพิ่มเป็น 10% ขณะที่ตลาดกล้องคอมแพกจะลดลงเหลือ 90%

ปัจจุบันโซนี่เป็นผู้นำในตลาดกล้องคอมแพก และในตลาดรวมด้วยส่วนแบ่งการตลาด 23% ขณะที่แคนนอนเป็นที่ 2 ของตลาดกล้องโดยรวมด้วยส่วนแบ่งการตลาด 18% ทว่าแคนนอนเป็นผู้นำในเซกเมนต์กล้อง DSLR แต่ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคหลังจากได้ใช้กล้องไปสักระยะหนึ่งแล้วก็ต้องการกล้องที่มีคุณสมบัติที่ดีขึ้น ดังนั้นเพื่อมิให้เสียตลาดดังกล่าวให้กับคู่แข่ง โซนี่จึงรุกตลาดกล้อง DSLR โดยใช้สับแบรนด์ว่าอัลฟ่าซึ่งเริ่มทำตลาดตั้งแต่ปีที่ผ่านมาโดยมีกล้องอัลฟ่า 200 เจาะตลาดสำหรับผู้เริ่มใช้กล้อง DSLR มีราคาอยู่ที่ 26,990 บาท และอัลฟ่า 700 จับตลาดระดับบน มีราคาอยู่ที่ 49,990 บาท ส่วนในปีนี้โซนี่ลอนช์กล้องอัลฟ่า 2 รุ่น เพื่ออุดตลาดระดับกลาง โดยมีราคาอยู่ที่ 29,990-39,990 บาท ขึ้นกับแพกเกจเลนซูมที่ได้รับ

“ตลาดกล้อง DSLR ของโซนี่ในระดับโลกมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยในปี 2549 มียอดขาย 4.2 ล้านเครื่อง ส่วนปีที่ผ่านมามียอดขายเพิ่มเป็น 5.3 ล้านเครื่อง คิดเป็นการเติบโตสูงถึง 40% โดยสัดส่วนกว่า 30% เป็นการสเตปอัปมาจากลูกค้าไซเบอร์ชอตของโซนี่” ชนัญชิดา งามเงินวรรณ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์กล้อง DSLR โซนี่ ไทย กล่าว

โซนี่ใช้งบการตลาดกว่า 80 ล้านบาทในการทำตลาดกล้อง DSLR อัลฟ่า โดยชูฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่ายกว่ากล้อง DSLR ทั่วไป ขณะเดียวกันก็ให้รายละเอียดที่สูงกว่า เช่น อัลฟ่า 350 ให้ความละเอียด 14.2 ล้านพิกเซล ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับกล้อง DSLR ในระดับ New Entry ด้วยกัน นอกจากนี้ โซนี่ยังเน้นการจัดกิจกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคสนุกกับการเล่นกล้อง พร้อมกับการสร้างสังคมของคนชอบถ่ายรูป ผ่านเว็บไซต์ เนื่องจากพบว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่นักเล่นกล้องใช้หาข้อมูล แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ตลอดจนมีการจัดทริปเพื่อให้ลูกค้าของโซนี่ได้ร่วมกันถ่ายภาพนอกสถานที่ทุกๆ 2 เดือน

ทั้งนี้โซนี่ยังคงเน้นการใช้งานเชื่อมต่อกัน โดยกล้องอัลฟ่าสามารถลิงก์ข้อมูลไปสู่ โฟโต้ ทีวี เอชดี และ เอส-เฟรม (กรอบรูปดิจิตอล) และยังมีเครื่องปริ้นต์ที่รองรับภาพที่มีความละเอียดสูงซึ่งจะเปิดตัวในปีนี้

โซนี่ตั้งเป้าว่าจะสามารถติด 1 ใน 3 ของผู้นำในตลาดกล้อง DSLR ได้ในปีนี้ ซึ่งต้องมีส่วนแบ่งการตลาดไม่ต่ำกว่า 10-15% และยังต้องสร้างยอดขายเพิ่มเป็น 2-3 เท่าจากปีก่อนที่ขายได้ 3,000 เครื่อง โดยมีส่วนแบ่ง 5% ในปีที่ผ่านมา

กลยุทธ์ราคาเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้กล้องอัลฟ่าของโซนี่เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ทว่าราคาใหม่ก็มิได้ถูกกว่าคู่แข่ง เพียงแต่เป็นระดับที่สามารถแข่งขันได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโซนี่ นอกจากเป็นกลุ่มสเตปอัปจากไซเบอร์ชอตแล้ว ยังมีกลุ่มผู้เริ่มเล่นกล้อง DSLR และกลุ่มที่ใช้กล้อง DSLR อยู่แล้ว

ในขณะที่ฟูจิ สร้างความต่างด้วยการลอนช์ กล้องไฟน์พิกซ์ S100FS ราคา 24,900 บาท ซึ่งให้คุณสมบัติที่เหมือนกับกล้อง DSLR เพียงแต่ว่าไม่ได้มีเลนเปลี่ยนหลายตัวเหมือนกล้อง DSLR ทั่วไป ทั้งนี้เพื่อให้ผู้บริโภคสนุกกับการใช้งานที่ง่าย นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่กล้อง DSLR ไม่มี นั่นคือ Film Simulation Mode ซึ่งทำให้สามารถปรับโหมดให้ได้ภาพเหมือนใช้กล้องฟิล์มชนิดต่างๆ

อย่างไรก็ดีแม้จะให้ความสำคัญกับตลาดกล้อง DSLR แต่ก็ยังไม่อาจทิ้งตลาดกล้องคอมแพกได้ เนื่องจากเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาโซนี่ก็พยายามสร้างตลาดด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อให้ผู้บริโภคใช้กล้องเป็นส่วนตัว จากเดิมที่ใช้ครัวเรือนละเครื่อง ในขณะที่ฟูจิมีการซอยเซกเมนต์ตลาดออกเป็น 5 กลุ่มเพื่อนำสินค้าไปตอบสนองในแต่ละความต้องการ โดยกลุ่มนักเล่นกล้อง จะเป็นตลาด DSLR ตลาดครอบครัวยุคใหม่เดินทางท่องเที่ยวบ่อย ก็จะใช้กล้องขนาดกะทัดรัดแต่ให้รูปสวย กลุ่มคนทำงานจะเน้นกล้องที่มีดีไซน์สวย ฟังก์ชั่นการใช้งานครบ กลุ่มที่ 4 เป็น เจนวาย ต้องการฟังก์ชั่นที่มากกว่าการถ่ายภาพ โดยเฉพาะการแชร์ข้อมูล กลุ่มสุดท้ายเป็นกลุ่มผู้เริ่มต้นใช้กล้องจะเน้นที่ราคาไม่แพง มีฟังก์ชั่นการใช้งานขั้นพื้นฐานที่ครบ

ทั้งนี้การซอยเซกเมนต์จะเป็นส่วนสำคัญให้สามารถรักษาฐานลูกค้าได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะสร้างตลาดตั้งแต่กลุ่มวัยรุ่นเพื่อให้เกิดแบรนด์ลอยัลตี้ จากนั้นก็จะมีเทคโนโลยีที่มารองรับการเติบโตของลูกค้า โดยจุดเริ่มต้นจึงอยู่ที่การชิงฐานลูกค้าผู้เริ่มใช้กล้องถ่ายรูป ซึ่งที่ผ่านมาโซนี่ต้องทำการตลาดอย่างหนัก หลังจากพานาโซนิคให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมการตลาดกับเด็กๆมากขึ้น โดยสอดแทรกไปกับการสร้างความคุ้นเคยให้เด็กเรียนรู้เทคโนโลยีของพานาโซนิค เช่น โครงการฉลาดคิด ผลิตข่าว กับพานาโซนิค หรือ Kid Witness News (KWN) ตลอดจนการใช้พรีเซนเตอร์เพื่อดึงดูดความสนใจจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยในปีที่ผ่านมาพานาโซนิคทำแคมเปญ ลูมิกซ์ แบตเทิล โดยนำพรีเซ็นเตอร์ เคน-โดม มาเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดให้ผู้บริโภคร่วมกิจกรรม พร้อมกันนี้มีการใช้ภาพพรีเซ็นเตอร์ทั้ง 2 คนติดอยู่บนแพกเกจจิ้งของกล้องพานาโซนิครุ่นใหม่ ส่วนในปีนี้ยังคงใช้พรีเซนเตอร์ เคน-ธีรเดช ร่วมด้วย แอน ทองประสม และ น็อต-วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์ ภายใต้แคมเปญ Panasonic Lumix Friends ในขณะที่ผู้นำตลาดกล้อง DSLR อย่างแคนนอนก็มีการใช้ พอลล่า เทเลอร์ เป็นพรีเซนเตอร์ในปีที่ผ่านมา

ส่วนในปีนี้แคนนอนมีการทำกิจกรรมเพื่อเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ให้หันมาสนใจกล้อง DSLR มากขึ้น เช่น กิจกรรมการประกวด มิสแคนนอนยู-ลีก การประกวดภาพถ่าย และประกวดช่างภาพสมัครเล่น รวมถึงการสัมมนากับสตูดิโอถ่ายภาพแต่งงานเพื่อเจาะกลุ่มคนใช้กล้อง DSLR ให้หันมาใช้กล้องของแคนนอน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us