|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“รัมเพลอร์” หัวเรือใหญ่คนใหม่ลอรีอัล ประกาศแผน 7 ปี เติบโต 20% ทุกปี หวังโกยแชร์เพิ่มจาก 9% เล็งบัลลังก์อันดับ 3 จากมูลค่า 4.4 หมื่นล้านบาท เร่งขยายช่องทางเทรดดิชันนัลเท ปูพรมส่งการ์นิเย่ 10 มล.นำร่องรับกำลังซื้อลดลงเจาะภูธร ระบุปีนี้ตลาดเพื่อความงามคึกคัก
นายโคล้ด รัมเพลอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯในช่วง 7 ปี วางเป้าหมายเติบโต 20% หรือคิดเป็น 3 เท่าของตลาดเพื่อความงาม โดยจะมุ่งเน้นสินค้าเพื่อความงามระดับแมส เพราะเป็นตลาดที่มีสัดส่วน 60% จากมูลค่าตลาดรวมความงาม 44,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมุ่งเน้นขยายช่องทางเทรดดิชันนัลเทรดหรือร้านค้าปลีกรายย่อยมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่องทางที่สินค้าของบริษัทฯยังไม่สามารถเข้าถึง
ทั้งนี้พบว่าช่องทางจำหน่ายสินค้าเพื่อความงามระดับแมส แบ่งเป็น โมเดิร์นเทรด 56% เทรดดิชันเทรด 35% ร้านค้าสะดวกซื้อ 10% ขณะที่สัดส่วนของบริษัทฯมาจากเทรดดิชันนัลเทรด 10-15% ส่วนโมเดิร์นเทรด 85-90% โดยแผนขยายช่องทางร้านค้าปลีกรายย่อย นำร่องเปิดตัวการ์นิเย่ชนิดซอง 10 มล. และกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาตลาด เพื่อพัฒนาสินค้าแบรนด์อื่นๆ ในชนิดซองลงตลาด เนื่องจากพบว่าซองเป็นบรรจุภัณฑ์ที่จำหน่ายดีที่สุดในช่องทางดังกล่าว
“ผมเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นดูตลาดเยอรมัน และจีน โดยเป้าหมายในไทยต้องการให้กลุ่มสินค้าเพื่อความงามระดับแมสเติบโตเพิ่มขึ้น เพื่อผลักดันส่วนแบ่งโดยรวมของบริษัท จากปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 9% ของมูลค่า 44,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับยูนิลีเวอร์ผู้นำตลาดและพีแอนด์จีอันดับ 2 ของตลาดแล้ว ถือว่าส่วนแบ่งยังห่างกันมาก โดยมองว่าตลาดในประเทศไทยยังมีช่องว่างทางการตลาดอีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มเส้นผมและผิวกาย”
สำหรับพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มความงามระดับแมส การใช้สินค้าเพียงชิ้นเดียวหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติครอบคลุม กลุ่มความงามพรีเมียมผู้บริโภคมีพฤติกรรมซับซ้อน เวชสำอางผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพและเข้าหาแพทย์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ ผู้บริโภคมีความคาดหวังต่อการเข้าซาลอน ทำให้ผู้ประกอบการพัฒนาร้านมากขึ้น
ภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อความงามทั่วโลกปีที่ผ่านมาเติบโต 7% โดยลอรีอัลเติบโต 8% ซึ่งตลาดเอเชียยกเว้นญี่ปุ่นเติบโต 17.8% สัดส่วนรายได้มาจาก 17 ประเทศ ถึง 50% ได้แก่ จีน อินเดีย รัสเซีย เม็กซิโก บราซิล 30% ส่วนอีก 20% เป็นไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฯลฯ ส่วนสภาพตลาดในไทยมูลค่า 44,000 ล้านบาท เติบโต 6% แบ่งเป็น กลุ่มความงามระดับแมสโต 9% ผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพโต 4% เวชสำอางโต 14% และกลุ่มความงามพรีเมียม 1% แต่พบว่าปีนี้เดือนม.ค.-ก.พ.ตลาดโตถึง 12%
นายรัมเพลอร์ กล่าวว่า ลอรีอัลในประเทศไทยมีรายได้ 4,000 ล้านบาท เติบโต 22% เป็นอันดับ 2 ในเอเชียรองจากจีนโต 30% โดยกลุ่มความงามระดับแมส โต 33% กลุ่มความงามพรีเมียมไม่โต กลุ่มผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพโต 11% และเวชสำอางโต 7% โดยตัวเลขในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ รายได้กลุ่มความงามระดับแมสโต 35% ความงามพรีเมียมโต 35% และผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพโต 20% และเวชสำอาง โต 18% ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี โดยยอดขาย 2 เดือนแรกของบริษัทฯเติบโต 32% และคาดว่าไตรมาสแรกโต 28%
|
|
|
|
|