ไรมอนแลนด์ฯ เผยปี51 ทุ่มงบลงทุนกว่า 16,000 ล้านบาท ลุยปูพรม 4 โครงการใหม่ แยกเป็นคอนโดฯ3 โครงการ วิลล่า1 โครงการ มูลค่าขายรวมกว่า 20,000 ล้านบาท เตรียมจัดงานแข่งเรือใบนานาชาติหาดพัทยา ดึงลูกค้ากระเป๋าหนักต่างชาติจองซื้อห้องชุดในพัทยา เปิดผลวิจัยชี้ชัด ความต้องการห้องพักอาศัยจ.ชลบุรี-ระยองขยายตัวต่อเนื่อง ด้านซีบีฯ ชี้ต่างชาติแห่ลงทุนในภูมิภาคเอเชีย หนีปัญหาซับไพรม์ พ่วงทางการยกเลิกกันสำรอง 30%
นายไนเจิล คอร์นิค กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน)หรือ (RAIMON) เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทจะเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ เดอะ ล็อฟท์เซาท์ชอร์ พัทยา โครงการคอนโดมิเนียมบนพื้นที่พัฒนาโครงการ 6 ไร่ อาคารชุด 2 อาคาร จำนวน 733 ยูนิต ใช้งบลงทุน 3,600 ล้านบาท มูลค่าขายรวม 4,700 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาส2 ของปี
ส่วนในไตรมาสที่ 3 จะเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ โดยจะเป็นคอนโดฯ ภายใต้ชื่อ “185 ราชดำริ” บนเนื้อที่ 4 ไร่ ในย่านถนนราชดำริ โดยจะพัฒนาเป็นอาคารชุด 1 อาคาร จำนวน 200 ยูนิต ใช้งบลงทุน 6,700 ล้านบาท มูลค่าขายรวม 9,800 ล้านบาท โครงการที่ 2 คือ โครงการวิลล่า “อมัลฟี” ในจังหวัดภูเก็ต มีพื้นที่การพัฒนาโครงการรวม 40 ไร่ จำนวน18-20ยูนิต คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 3,300 ล้านบาท และมีมูลค่าการขายรวม 4,000 ล้านบาท
และโครงการที่ 4 จะเปิดตัวในช่วงปลายปี โดยเป็นโครงการคอนโดฯในเมืองพัทยา ซึ่งจะใช้ชื่อโครงการว่า “The EDGE” มีพื้นที่ในการพัฒนาโครงการรวม 4 ไร่ จำนวน200 ยูนิต มูลค่าการลงทุน 2,900 ล้านบาท มูลค่าการขายรวม 3,700 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในส่วนของแผนการตลาดโครงการ เดอะ ล็อฟท์เซาท์ชอร์ พัทยา และโครงการนอร์ทพ้อยท์ พัทยา ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้ว 60% โดยในช่วงเดือนพ.ค.นี้ ทางบริษัทมีแผนจัดการแข่งขันเรือใบนานาชาติ ซึ่งจะช่วยดึงกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูงให้เข้ามาชมโครงการและเปิดให้จองห้องชุดในโครงการต่างๆของบริษัท
“ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จังหวัดชลบุรีและระยอง มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ จากการวิจัยตลาดในโซนตะวันออกพบว่า ในช่วงปี 6 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัวในแต่ละปีเพิ่มขึ้นกว่า 10% ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา 6.85 ล้านคนต่อปี กว่า 73% เป็นชาวต่างชาติ และที่เหลือกลุ่มคนไทย ซึ่งจากการขยายตัวของการท่องเที่ยว ส่งผลประชากรในจังหวัดชลบุรี มีอัตรารายได้ต่อหัวต่อปีขยายตัวสูงถึง 9% ประชากรในจังหวัดระยอง มีรายได้ต่อหัวต่อปีขยายตัว 18%”
นายไนเจิล กล่าวว่า สำหรับอัตราการขยายตัวของการเปิดตัวโครงการใหม่ จากปี2547 -2550 มีการเปิดโครงการใหม่สูงถึง 70% ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตร(ตร.ม.)ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ปรับสูงขึ้น 15% ปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 89,842 บาทต่อ ตร.ม. ส่วนอัตราค่าเช่าอยู่ที่500-600 ต่อ ตร.ม. หรือมีอัตราผลตอบแทนต่อปีประมาณ 6-10% เท่ากับอัตราค่าเช่าห้องชุดในย่านถนนสีลมและสาทร
“จากผลวิจัยดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการห้องชุดพักอาศัยในเมืองพัทยา และจังหวัดในโซนตะวันออก มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นับจากปี2547จนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุน และนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาลงซื้อห้องชุดพักอาศัยเพื่อการลงทุน เนื่องจากผลตอบแทนจากค่าเช่าที่มีการปรับตัวอย่างต่อเนื่องตลอด4ปี”
ทุนต่างชาติโยกลงทุนอสังหาฯไทย
นางกุลวดี สว่างศรี ผู้อำนวยการและหัวหน้าฝ่ายการลงทุนและที่ดิน บริษัท ซีบี ริชาร์ด เอลลิส กล่าวว่า อสังหาฯในประเทศเอเชียน่าจะได้รับประโยชน์จากการที่ตลาดอสังหาฯในอเมริกาและยุโรปกำลังถดถอย ซึ่งตลาดอสังหาฯขนาดใหญ่อย่างประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ และในปัจจุบัน ประเทศไทยเองก็กำลังได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น
" นักลงทุนมีความมั่นใจต่อการลงทุนในประเทศไทย หลังการยกเลิกการควบคุมเงินลงทุนที่เข้ามาภายในประเทศ และมาตรการลดหย่อนทางภาษีเพื่อช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาฯ อีกทั้งกฎหมายเอสโครว์ที่กำลังจะประกาศใช้ จะช่วยทำให้การซื้อขายอสังหาฯขนาดใหญ่มีความคล่องตัวมากขึ้น" นางกุลวดี กล่าวและว่า ธุรกิจประเภทคอนโดมิเนียมระดับหรูในกรุงเทพฯ โรงแรม และรีสอร์ทเป็นภาคธุรกิจที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุด โดยจะพบว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีนักลงทุนต่างชาติหลายราย ได้ร่วมลงทุนกับนักลงทุนชาวไทย จัดตั้งบริษัทร่วมทุน เช่น แคปปิตอล แลนด์ ของสิงคโปร์ ร่วมทุนกับทีซีซี กรุ๊ป ของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี
กลุ่มไอเอฟเอ โฮเทลส์ แอนด์ รีสอร์ท ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์คูเวต เข้าถือหุ้นในบริษัท ไรมอนด์ แลนด์ ฯ กลุ่มอิสทิธมาร์ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนจากดูไบ ได้ลงทุนในโครงการดับเบิลยู โฮเทล ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการดำเนินงานการก่อสร้างโครงการสาทร สแควร์ ของ บริษัท โกลเด้น แลนด์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
ส่วนตลาดรีสอร์ต ก็มีความเคลื่อนไหวมากในปีที่ผ่านมา โดยมีพีซีพีดีจากฮ่องกง เข้าซื้อสนามกอล์ฟท้ายเหมืองในจ.พังงา และเดสติเนชั่น พร็อพเพอร์ตี้ ก็เข้าซื้อโรงแรม 2 แห่งในภูเก็ต
" เชื่อว่า ในปีนี้นักลงทุนจะให้ความสนใจในการซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการประเภทคอนโดฯ อาคารสำนักงาน และโรงแรมในย่านใจกลางกรุงเทพฯ เนื่องจากเส้นทางของระบบขนส่งมวลชนถูกตรึงอยู่เฉพาะในย่านใจกลางธุรกิจของกรุงเทพฯ ทำให้ที่ดินเพื่อการพัฒนาโครงการอสังหาฯในย่านใจกลางธุรกิจหาได้ยากมาก และมีราคาสูง "
|