|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ฟิทช์เรทติ้งส์ให้อันดับเครดิต"เมืองไทยประกันชีวิตที่ BBB+ และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินในประเทศที่ AA(tha) ระบุสะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจและระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง รวมถึงผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง 2 แห่ง "กสิกรไทย-Fortis" มีการเอื้อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างดี
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Insurer Financial Strength (IFS)) แก่บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (MTL) ที่ ‘BBB+’ และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS) ที่ ‘AA(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นบวก อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินใช้ประเมินความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทประกันเทียบกับภาระหนี้สินต่อผู้เอาประกัน และยังสะท้อนถึงความสามารถในการจ่ายภาระหนี้สินต่อผู้เอาประกันของบริษัทประกันตรงตามระยะเวลาที่กำหนด และค่าสินไหมทดแทนที่คาดว่าจะได้รับจากบริษัทประกันของผู้ร้องเรียนค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่บริษัทประกันหยุดการจ่ายคืนเงิน หรือมีการยับยั้งการจ่ายคืนเงินให้แก่ผู้เอาประกันเกิดขึ้น
ทั้งนี้ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งของ MTL ในประเทศ ระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งของ MTL เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทประกันชีวิตอื่นทั้งในประเทศและในภูมิภาค รวมถึงการมีช่องทางการจัดจำหน่ายหลายช่องทางและมีประสิทธิภาพและผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัท อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินยังพิจารณารวมถึงความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคและการดำเนินงานจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 2 ของ MTL คือ Fortis Insurance International N.V. (Fortis) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ถือหุ้นทั้งหมดโดย Fortis Insurance N.V. (อันดับเครดิตที่ ‘AA-’ (AA ลบ) / แนวโน้มมีเสถียรภาพ)
สำหรับแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นบวกสะท้อนถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ ว่า MTL จะสามารถพัฒนาและได้รับประโยชน์จากความร่วมมือในการทำงานกับ Fortis และธนาคารกสิกรไทยซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์รายใหญ่อันดับ 4 ของประเทศไทย (อันดับเครดิตที่ ‘BBB+’ /‘AA(tha)’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ) ในการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสถานะทางการตลาดและผลประกอบการ โดยไม่กระทบกับระดับเงินกองทุนของบริษัท MTL กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาระบบการควบคุมความเสี่ยงภายในร่วมกับ Fortis ซึ่งความสามารถในการนำมาตรการการควบคุมความเสี่ยงที่เข้มงวด และมีประสิทธิภาพเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานได้นั้นน่าจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทในอนาคต
ถึงแม้ว่าการแข่งขันในธุรกิจการประกันชีวิตภายในประเทศจะสูง แต่ MTL สามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดโดยวัดจากเบี้ยประกันภัยรับรวม และสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดให้อยู่ใน 5 อันดับแรกของประเทศได้ ผลประกอบการของบริษัทแสดงถึงแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 อัตราผลตอบแทนต่อเงินทุน (ROE) และอัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 25.1% และ 3.2% ตามลำดับ จาก 18.8% และ 2.3% ในปี 2549 ผลประกอบการโดยรวมของ MTL ในปี 2551 คาดว่าจะยังสามารถรักษาอยู่ในระดับนี้ได้ ซึ่งสะท้อนถึงความได้เปรียบของบริษัทในด้านช่องทางการจัดจำหน่ายและการมีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่หลากหลาย
เงินกองทุนของ MTL อยู่ในระดับที่สูงมากเมื่อเทียบกับระดับเงินกองทุนขั้นต่ำที่ต้องดำรงตามกฎหมายภายในประเทศ และยังสูงกว่าระดับมาตรฐานสากลของยุโรปซึ่ง MTL ใช้เป็นมาตรฐานอ้างอิงภายใน ณ สิ้นปี 2550 อัตราส่วนเงินกองทุนภายในประเทศของบริษัทอยู่ที่ระดับสูงกว่า 700% ซึ่งสูงกว่าระดับ 100% ของอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำภายในประเทศที่ต้องดำรงไว้
|
|
|
|
|