|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หลังจากบุกตลาดคอนโดระดับทอปมาตลอด ในที่สุด เจริญ สิริวัฒนภักดี และบริษัทอสังหาฯ ร่วมทุนกับสิงคโปร์ของเขา อย่าง ที.ซี.ซี. แคปปิตอล แลนด์ ก็เริ่มรุกตลาดคอนโดระดับกลาง
"หลังจากการสำรวจความต้องการและพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนบริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างชัดเจนมากขึ้น โดยใช้เกณฑ์ในการเลือกซื้อจากความเป็นส่วนตัว เดินทางสะดวกสบาย ลักษณะที่อยู่อาศัยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสามารถตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างสมบูรณ์แบบ" เฉิน เหลียนปัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสแอนด์เอส เรสซิเดนเชียล จำกัด กล่าว
บริษัทได้เกิดแนวความคิดที่จะขยายกลุ่มการดำเนินธุรกิจใหม่ขึ้น ภายใต้แบรนด์ใหม่ "บริษัท เอสแอนด์เอส เรสซิเดนเชียล จำกัด (S&S Residential Limited)" โดยร่วมทุน ระหว่าง บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด กับ บริษัท แคปปิตอล แลนด์ จำกัด
ที่มาของแบรนด์ S&S นั้นมาจากคำว่า Sustainability - ความยั่งยืน และ Sufficiency - ความพอเพียง
บริษัทจึงมุ่งเน้นการสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียมในระดับแมสที่มีคุณภาพและความคิดสร้างสรรค์ในทุกมุมมอง ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่แปลกใหม่ "Eco living"
กล่าวคือเน้นการสร้างสรรค์ศิลปะในการดำรงชีวิตแบบค้ำจุนสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืนและพอเพียง พร้อมเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างการออกแบบดีไซน์และมุมมองในการประหยัดพลังงานต่างๆ ทั้งไฟฟ้า น้ำ และการรีไซเคิลทั้งโครงการ
"หลักสำคัญที่ เอสแอนด์เอส ยึดและมุ่งสร้างในทุกๆโครงการ คือ "คุณภาพและคุณค่า" เราจึงทุ่มเทอย่างสุดความสามารถในทุกด้าน ทั้งทีมงานที่มีประสิทธิภาพ คุณภาพของวัสดุก่อสร้าง และแนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เพราะเราได้กำหนดหน้าที่ภายใต้แบรนด์ เอสแอนด์เอส เรสซิเดนเชียล คือ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ที่มีคุณภาพ และความสุขในเมืองใหญ่ พร้อมกับรักษาสภาพแวดล้อมให้สมบูรณ์ยั่งยืนถึงอนาคต"
แนวคิด"S&S Living Concept" จะประกอบด้วย 6 แนวคิดสำคัญ คือ
Quality Lifestyle (การใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ พร้อมด้วยความสะดวกสบาย สงบ เรียบง่ายและสมดุล) Energy Saving (โครงการที่คำนึงถึงการประหยัดพลังงาน)
Reduce Reuse Recycle (การคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ)
Designed to be Eco-friendly (การออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่สอดคล้องกับธรรมชาติ)
Eco-friendly Quality Materials (การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ คงทน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม)
Living with Real Nature (การพัฒนาโครงการที่คำนึงถึงพื้นที่สีเขียว และการสันทนาการ)
บริษัทจะประเดิมโครงการแรกคือ โครงการเอสแอนด์เอส สุขุมวิท ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 101/1 ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า 600 เมตร ประกอบด้วยคอนโดมิเนียม 2 อาคาร รูปแบบตัว I สูง 22 ชั้น และตัว L สูง 18 ชั้น ที่วางสอดประสานกันอย่างลงตัว บนพื้นที่เกือบ 7 ไร่ โดยพัฒนาห้องพักอาศัยรวม 810 ยูนิต มีขนาดห้องพักตั้งแต่ 29-69 ตารางเมตร และมีแบบห้องพักให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบสตูดิโอ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน
กำหนดเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้ลูกค้าผู้สนใจได้จับจองในราคาสุดพิเศษตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ เอสแอนด์เอส ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (S&S Customer Club) ในบริเวณโครงการ แอทธินี เรสซิเดนซ์ ฝั่งซอยถนนร่วมฤดี และเพื่อเป็นการฉลองการเปิดบริษัทใหม่ ทางบริษัทได้มอบส่วนลดเงินสดสูงสุดถึง 150,000 บาท สำหรับลูกค้าที่จองภายในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ถึง 2 มีนาคม ด้วยราคาขายเริ่มต้นที่ 1.28 ล้านบาท
การลงสู่ตลาดคอนโดระดับกลางของเจริญในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงอะไร?
จะสะเทือนตลาดหรือไม่?
จะประสบความสำเร็จหรือเปล่า?
บทวิเคราะห์
เจริญเป็นคนทำอะไรแล้วทำเล็กไม่เป็น แม้ในยามที่เขายังเล็ก เขาก็คิดการใหญ่แล้ว ไม่เช่นนั้นเขาจะก้าวข้ามจากลูกชายคนขายหอยทอดราชวงศ์มาเป็นหนึ่งในไทคูนที่ประสบความสำเร็จสูงที่สุดได้อย่างไร
เมื่อเจริญก้าวเข้าสู่ธุรกิจเหล้าใหม่ๆ นั้น กลุ่มเตชะไพบูลย์ยังครองความเป็นเจ้ายุทธจักรที่ดูเหมือนไร้ผู้เทียมทาน ทว่าด้วยกลยุทธ์อันไร้เทียมทานของเจริญ ก็ทำให้เจริญสามารถโค่นคู่แข่งและก้าวขึ้นเป็นที่หนึ่งของยุทธจักรได้
วงการเบียร์ก็เช่นกัน กลุ่มบุญรอดครองแชมป์มานาน ไม่มีคู่แข่งเลยเสียด้วยซ้ำ ยังนึกไม่ออกเหมือนกันว่าใครจะกล้าขึ้นมาท้าทาย เพราะสิงห์แบรนด์เดียวครองตลาดครบวงจร เหลือเพียงตลาดพรีเมียมราวๆ 10% เท่านั้นที่ปล่อยให้ไฮเนเก้นครองตลาดไปเท่านั้น
ดังนั้นเมื่อเจริญรุกเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้น ก็เปรียบเสมือนช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมืองนั่นเอง เจริญเป็นคนที่มีแลนด์แบงก์มากที่สุดในประเทศไทย
ที่ดินถือว่าเป็นปัจจัยความสำเร็จประการหนึ่งของการทำอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่เงินนั้นไม่ต้องพูดถึง ปรกติเขาก็เป็นคนที่มีเงินมหาศาลอยู่แล้ว นี่ยังได้เงินมาจากสิงคโปร์อีก
ใครที่เป็นคู่แข่ง ย่อมต้องกลัวเป็นธรรมดา
กล่าวเฉพาะธุรกิจคอนโดนั้น กลุ่มที.ซี.ซี.จับตลาดบนหรือค่อนไปทางบนเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้สนใจตลาดกลาง-ต้น หรือคอนโดที่เริ่มต้นราคาล้านเศษๆ ทั้งๆ ที่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด แต่ก็อีกนั่นแหละ ตลาดใหญ่ก็มีคู่แข่งขันเยอะ และตลาดนี้ทำไม่ง่าย เนื่องจากต้องหั่นราคาให้น่าสนใจ และยังต้องทำให้มีคุณภาพอีกต่างหาก
นอกจากนี้ยังมีเจ้าตลาดใหญ่อีกหนึ่งก็คือแอลพีเอ็นที่เป็นใหญ่ สร้างเร็ว สร้างดี มีคุณภาพ(สมราคา) คุ้มค่าเงิน นอกจากนี้ก็ยังมีคู่แข่งใหม่กระโจนเข้าสู่ตลาดไม่เว้นแต่ละวัน
Ideo เป็นแบรนด์ของหนุ่มหน้าหยก ชานนท์ เรืองกฤตยา ที่หอบเงินจากต่างประเทศมาลงทุนถึง 156 ล้านยูโร ทำเอาตลาดปั่นป่วนไม่ใช่น้อย
AP ของอนุพงษ์ อัศวโภคิน ก็จับตลาดบนและตลาดกลางด้วย โดยเฉพาะหลังเอนจอยกับแบรนด์ไลฟ์ จนลืมแบรนด์อื่นไปเลยทีเดียวเชียว
นี่ยังไม่รวมถึงแบรนด์อื่นๆ จากบริษัทใหญ่ที่ทำตลาดบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์มาก่อนที่จำเป็นต้องเข้าตลาดคอนโด เพราะบ้านขายไม่ดีอย่างเก่าแล้ว
อย่างไรก็ตาม เจริญก็ไม่ได้หวั่นแต่อย่างใด หากดูธุรกิจที่เขาประสบความสำเร็จนั้นส่วนใหญ่ก็เน้นตลาดรากหญ้าด้วยกันทั้งสิ้น การเข้าตลาดคอนโดระดับกลางของกลุ่มเจริญนั้นสะท้อนให้เห็นว่าเขาจะเข้าทุกตลาดที่มีศักยภาพ
ตลาดคอนโดล้านต้นๆ เป็นตลาดใหญ่ที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง แม้ราคาที่ดินใกล้รถไฟฟ้าจะสูงก็ตาม แต่ทว่าส่วนต่อรถไฟฟ้าก็มากขึ้น คอนโดไม่จำเป็นต้องอยู่กลางเมืองเสมอไป ขอเพียงแต่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้ามากเกินไปเท่านั้น
ความน่าสนใจอยู่ที่แบรนด์ SS เพราะไม่ได้ตั้งชื่อเพื่อเก๋ไก๋ ทว่าเป็นแบรนด์ที่มีคอนเซ็ปต์ชัดเจน นั่นคือพอเพียงอย่างยั่งยืน ซึ่งฉีกไปจากคอนโดอื่นๆ ที่มักจะเน้นว่าโครงการของตนดูดีและหรูหรา ทั้งๆ ที่เมื่อสร้างออกมาจริงๆ แล้วไม่ได้เรื่องเลย
SS Condo อินเทรนด์กับภาวะโลกร้อน ช่วยให้โลกเขียว อยู่ในเครือเจริญทำให้มั่นใจในคุณภาพ อีกทั้งทำเลดี ราคาเพียงตารางเมตรละสี่หมื่นเศษๆ
ด้วยคุณสมบัติทั้งปวงสามารถฟันธงไปได้ว่าจะสร้างความสั่นสะเทือนให้เซกเมนต์ล้านต้นๆ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแอลพีเอ็นที่ดูเหมือนจะอยู่ใน Strategic Group เดียวกัน แต่ SS Condo อาจทำได้ดีกว่า เพราะมีคอนเซ็ปต์ชัดเจนและดีไซน์งามกว่า ทำเลก็ดีกว่าเพียงแต่อาจจะสร้างช้ากว่าเท่านั้น
|
|
|
|
|