|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โจนส์ แลงฯระบุอสังหาฯไทยแม้จะเจอปัญหาลบ แต่ด้วยพื้นฐานตลาดที่ดีช่วยพยุงตลาด ด้านกองทุนญี่ปุ่น "เอเชียพาร์ทเนอร์ชิพ ฟันด์ กรุ๊ป"ประกาศเข้าฮุบกิจการรีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาว บนเกาะพีพี "ซีโวลา รีสอร์"จากกลุ่มซิโน-ไทยและกลุ่มน้ำตาลบ้านโป่ง จับตาจิ๊กซอว์ ตั้งบลจ.ยูไนเต็ดฯ สยายปีกรุกธุรกิจการเงิน
ตามรายงานจากบริษัทบริการและบริหารการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ โจนส์ แลง ลาซาลล์ ระบุว่า ตลาดอสังหาฯของเอเชียแปซิฟิกยังคงสามารถรอดพ้นจากความผันผวนของตลาดเงินที่เกิดขึ้นทั่วโลก ความต้องการในตลาดยังเติบโตต่อเนื่อง โดยรวมแล้ว ทั้งค่าเช่าและราคาในตลาดอสังหาฯของภูมิภาคในปีที่ผ่านมา มีการปรับตัวขึ้นในระดับที่แข็งแกร่ง
นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯของกรุงเทพฯ ค่อนข้างสวนทางกับเมืองอื่นๆ ส่วนใหญ่ของเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากกิจกรรมในตลาดไม่คึกคักมากนัก ทั้งนี้เกิดจากปัจจัยลบหลายประการ โดยหลักๆมาจากการผันผวนทางการเมืองในปีที่ผ่านมา และความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมัน ค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการแข็งค่าของเงินบาท
" การที่ปัจจัยพื้นฐานในตลาดที่มีความแข็งแกร่งเป็นทุนเดิม ทำให้ตลาดพยุงตัวอยู่ได้ โดยเห็นได้จากการที่ค่าเช่ามีระดับที่ค่อนข้างทรงตัวและยังคงมีการพัฒนาโครงการอสังหาฯเกิดขึ้นต่อเนื่อง"
ด้านนางเจน เมอร์เรย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โจนส์ แลงฯ กล่าวว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในเอเชียแปซิฟิกเอง ก็คือ มีการเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ การขยายตัวของเมือง และการพัฒนาการด้านความโปร่งใสในตลาด จะช่วยเพิ่มโอกาสอย่างมหาศาลให้แก่ภาคธุรกิจอสังหาฯในภูมิภาคนี้
ล่าสุดกองทุนญี่ปุ่น เอเชียพาร์ทเนอร์ชิพ ฟันด์ กรุ๊ป (APF Group) นำโดยนายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการบริหารกองทุนฯ ประกาศเข้าซื้อกิจการรีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาว บนเกาะพีพี ภายใต้ชื่อ "โรงแรมซีโวลา เกาะพีพี "(Zeavola Resort) จากกลุ่มซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และกลุ่มน้ำตาลบ้านโป่ง โดยมีจุดมุ่งหมายในการรุกธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และท่องเที่ยวไทยอย่างเต็มรูปแบบ
อนึ่ง ตามข้อมูลในงบการเงินของSTEC ระบุว่า บริษัทพี.พี.คอรัล รีสอร์ท จำกัด (โรงแรมซีโวลา เกาะพีพี) ดูแลโครงการดังกล่าว ใช้งบก่อสร้างไปก่อนหน้า 500 ล้านบาท เน้นให้บริการกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงทั้งกลุ่มเศรษฐี นักธุรกิจรุ่นใหญ่อายุ 35-45 ปี และกลุ่มดาราฮอลลีวูด และมีแผนลงทุนเฟส 2 เป็นวิลลาหรูเพิ่มจาก 40 หลังเป็น 52 หลัง คาดใช้เงินลงทุน 10-20 ล้านบาท ขณะที่บริษัท พี.พี.คอรัล รีสอร์ทฯยังมีแผนพัฒนาที่ดินที่แม่ฮ่องสอน รวมถึงมีที่ดินบนเกาะฝั่งอันดามัน ทั้งนี้ ในงบการเงินระบุว่า ณ 31 ธ.ค.50 บริษัทฯมีทุนเรียกชำระ 148 ล้านบาท มีทรัพย์สิน 392 ล้านบาท หนี้สิน 476 ล้านบาท รายได้ 48 ล้านบาท ขาดทุนลดลงมาอยู่ที่ 53 ล้านบาท (ปี 49 ขาดทุนประมาณ 90 ล้านบาท) มียอดคงเหลือเงินให้กู้ยืมแก่กิจการประมาณ 76 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ทางกองทุนญี่ปุ่นอยู่ระหว่างการจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูไนเต็ด จำกัด ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ประเภทการจัดการกองทุนส่วนบุคคลกับกระทรวงการคลัง คาดจะสามารถเห็นความชัดเจนภายในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.นี้
|
|
|
|
|