Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน13 มีนาคม 2551
เคทีซีชี้ต่างชาติแหยง'ซับไพรม์'ชะลอรุกธุรกิจ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

บัตรกรุงไทย, บมจ.
นิวัตต์ จิตตาลาน
Credit Card




เคทีซีชี้แนวโน้มธุรกิจบัตรเครดิตเริ่มชะลอ หลังผู้ประกอบการต่างชาติขยาดพิษซับไพรม์ พร้อมผนึกเจซีบียักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นขยายฐานสมาชิกข้ามชาติไทย-ญี่ปุ่น เปิดตัวบัตรเครดิต "เคทีซี เจซีบี" เจาะกลุ่มคนไทยหัวใจญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นในไทย หวังปีแรกมียอดสมาชิก 100,000 บัตร ด้านกสิกรไทยไม่น้อยหน้าเปิดรับบัตรเจซีบีผ่านเครือข่ายร้านค้าของธนาคาร เริ่มจากร้านค้าออนไลน์ ก่อนขยายสู่ 30,000 ร้านทั่วประเทศ

นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยถึงการแข่งขันของธุรกิจบัตรเครดิตในปีนี้ว่า มีสัญญาณการแข่งขันน้อยลงจากปีก่อน โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากธนาคารต่างประเทศมีการรุกตลาดน้อยลง เพราะมีความวิตกเกี่ยวกับปัญหาสินเชื่อที่อยู่อาศัยด้อยคุณภาพ (ซับไพร์ม) ที่ยังมีน่าเป็นห่วงอยู่ในขณะนี้ ขณะที่ในส่วนของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยก็ไม่ได้เน้นเรื่องของตลาดบัตรเครดิตมากนักแต่จะเน้นการแข่งขันในด้านเงินฝากมากกว่า

ทั้งนี้ ในส่วนของเคทีซีจะยังคงเน้นการทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและเปิดตัวบัตรเครดิตที่มุ่งตอบสนองให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละไลฟ์สไตร์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดร่วมมือกับเจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดตัวบัตรเครดิตเคทีซี เจซีบี โดยมีลูกค้าเป้าหมายเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มคนไทยที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและชื่นชอบในผลิตภัณฑ์และบริการของญี่ปุ่น รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวไทยที่หลงใหลการเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่น และกลุ่มนักธุรกิจ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ที่มีรายได้ระดับกลางถึงสูง โดยตั้งเป้าหมายในปีแรกจะมีผู้สนใจเป็นสมาชิก 100,000 บัตร จากฐานบัตรเครดิตรวมในปัจจุบันอยู่ที่เกือบ 1.5 ล้านบัตร

"สาเหตุที่เจาะกลุ่มเป้าหมายชาวญี่ปุ่นหรือคนไทยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่ใช่เพราะยอดใช้จ่ายผ่านบัตรในประเทศลดลง แต่ปีนี้เป้าหมายของเราจะรุกในส่วนของการท่องเที่ยว ซึ่งบัตรนี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้ และคาดว่ากลุ่มลูกค้าดังกล่าวจะมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ยอยู่ที่ 4,500 บาทต่อเดือน แต่หากคิดจากบัตรที่แอคทีฟจะประมาณ 12,000 บาทต่อเดือน ส่วนปีที่ผ่านมายอดยกเลิกบัตรโดยรวมอยู่ที่เป็นหลักหมื่นเนื่องจากมีการยกเลิกบัตรมินิการ์ด" นายนิวัตต์กล่าว

นายนิวัตต์ กล่าวอีกว่า การร่วมมือของเคทีซีและเจซีบีซึ่งนำมาถึงการเปิดบัตรเครดิตเคทีซี เจซีบีในครั้งนี้เกิดขึ้นจากโอกาสการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–ญี่ปุ่น ครบรอบ 120 ปี เมื่อปี 2550 และได้มีการจัดทำความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (Japan-Thailand Economic Partnership Agreement-JTEPA) ภายใต้กรอบความร่วมมือทวิภาคีสำคัญ ซึ่งหนึ่งในความตกลงนั้นคือ การเปิดประตูสู่การทำธุรกิจและการท่องเที่ยวเพื่อเอื้อประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งการเปิดตัวบัตรดังกล่าวจึงเป็นความร่วมมือระหว่างบัตรเครดิตของไทยและผู้ให้บริการเครือข่ายระบบชำระเงินชั้นนำจากญี่ปุ่น เพื่อให้คนไทยและคนญี่ปุ่นที่จำเป็นต้องเดินทางข้ามประเทศเพื่อไปทำธุรกิจและท่องเที่ยว สามารถชำระค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้สะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากการใช้บัตรเครดิตระหว่างที่ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศนั้นๆ

โดยข้อมูลขององค์การท่องเที่ยวญี่ปุ่นในปี 2550 มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 160,000 คน จาก 125,000 คนในปี 2549 ในขณะเดียวกันมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เดินทางมาไทยมากเป็นอันดับ 2 รองจากมาเลเซีย เป็นจำนวนถึงกว่า 1.2 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 10.35 ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในไทย และมีชาวไทยที่พำนักอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 50,000 คน ในขณะที่มีชาวญี่ปุ่นอาศัยอยู่ในประเทศไทยประมาณ 40,000 คน

"สมาชิกจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่หลากหลายจากบัตรเคทีซีที่มีอยู่เดิม จึงยิ่งช่วยเพิ่มคุณค่าของบัตรเครดิตเคทีซี เจซีบี ให้เหนือกว่าและมีความแตกต่างจากคู่แข่งขันรายอื่น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเคทีซีมีเป้าหมายที่จะเจาะตลาดกลุ่มใหม่ๆ มาโดยตลอด เราจึงคาดหวังว่าการเปิดบัตรภายใต้ความร่วมมือที่สำคัญครั้งนี้ จะช่วยขยายฐานสมาชิกบัตรให้เติบโตขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก และสามารถกระตุ้นความสนใจผู้ถือบัตรเจซีบีกว่า 50 ล้านคนในประเทศญี่ปุ่นให้มาเที่ยวและใช้จ่ายผ่านบัตรในประเทศไทยได้อีกด้วย

รุกจับมือKBANKขยายเครือข่าย

ด้านนายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมกับเจซีบี อินเตอร์เนชันเนล ผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นขยายการให้บริการรับบัตรเครดิตของ เจซีบีผ่านเครือข่ายร้านค้ารับบัตรเครดิตของธนาคารกสิกรไทย โดยในเดือนมีนาคมศกนี้ จะเริ่มให้บริการผู้ถือบัตรเจซีบีกับร้านค้าออนไลน์ก่อน ซึ่งช่วงแรกจะเน้นที่การให้บริการจองตั๋วเครื่องบินของสายการบินต่างๆ การจองห้องพักโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวที่ให้บริการผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาท่องเที่ยวและทำธุรกิจในประเทศไทย

หลังจากนั้นในเดือนกรกฎาคม 2551 ธนาคารจะขยายการให้บริการแก่ผู้ถือบัตรเจซีบีผ่านร้านค้าที่เป็นพันธมิตรของธนาคารทั้งหมดประมาณ 30,000 แห่ง และสามารถเบิกถอนเงินสดล่วงหน้าได้ที่เครื่องเอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยจำนวน 3,860 เครื่องทั่วประเทศ

ความร่วมมือกับเจซีบีในครั้งนี้ จะเป็นการช่วยขยายฐานการให้บริการลูกค้าผู้ถือบัตรต่างประเทศของธนาคารให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าชาวญี่ปุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เข้ามาท่องเที่ยวหรือทำธุรกิจในประเทศไทยมากกว่า 1.25 ล้านคนต่อปี ในขณะที่ร้านค้ารับบัตรเครดิตในเครือข่ายของธนาคารก็มีโอกาสที่จะเพิ่มโอกาสการขายและให้บริการแก่ผู้ถือบัตรเครดิตเจซีบีกว่า 58 ล้านใบด้วย ทั้งนี้ธนาคารคาดว่า การเป็นพันธมิตรกับเจซีบีในช่วงแรกน่าจะสามารถเพิ่มยอดการใช้จ่ายผ่านเครือข่ายร้านค้าของธนาคารได้ 10%

นายเคนจิ เซโตะ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทย ถือเป็นเป้าหมายอันดับต้นๆ ของเจซีบีในแผนการขยายธุรกิจและการให้บริการแก่ผู้ถือบัตรเจซีบี เนื่องจากชาวญี่ปุ่นนิยมมาท่องเที่ยวและดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ในขณะที่ความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยครั้งนี้ นับว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจของเจซีบีในไทย เนื่องจากเป็นธนาคารที่มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจบัตรเครดิตมายาวนาน จึงมีเครือข่ายร้านค้าจำนวนมาก และมีความก้าวหน้าในการให้บริการแก่ร้านค้าชั้นนำในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งความร่วมมือนี้น่าจะช่วยให้ผู้บัตรเจซีบีได้รับความสะดวกในการใช้จ่ายและท่องเที่ยวในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

อนึ่ง ปัจจุบันเจซีบีเป็นผู้ออกบัตรและรับบัตรเครดิตที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเริ่มขยายเครือข่ายการให้บริการรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิตไปทั่วโลกตั้งแต่ปี 2524 โดยเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับธนาคารมากกว่า 350 แห่งและสถาบันการเงินท้องถิ่นในแต่ละประเทศ ปัจจุบันมีผู้ถือบัตรเจบีซีจำนวนทั้งสิ้น 58 ล้านใบ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us