|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไอเอ็นจีระบุการสรรหาเอ็มดีใหม่นั่งเก้าอี้แบงก์ทหารไทยได้ข้อสรุปเมษายนนี้ พร้อมเดินหน้าเพิ่มยอดขายโปรดักท์ผ่านแบงก์แอสชัวรันได้กลางปีนี้ เล็งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ Investment Link รองรับลูกค้าที่ต้องการผลตอบแทนสูง วาดฝันปีนี้ขึ้นแท่นขายผ่านตัวขึ้นแท่นเป็นอันดับ 3 ด้วยเป้าเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 2,100 ล้านบาท พัฒนาธุรกิจประกันชีวิต บริหารสินทรัพย์และธนาคารอย่างต่อเนื่อง
นายราเจช เสฐฐี กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเอ็นจีประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการสรรหาบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารใหม่หลังจากที่กลุ่มบริษัทไอเอ็นจีได้เข้าไปถือหุ้นในใหญ่ในธนาคารทหารไทยจำกัด(มหาชน) ประมาณ 30% ว่า ทางคณะกรรมการธนาคารทหารไทยจะมีการเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมขึ้นมาให้ทางกลุ่มไอเอ็นจีมีส่วนร่วมตัดสินใจด้วย ส่วนนายสุภัค ศิวะรักษ์จะดำรงตำแหน่งนี้ต่อหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการธนาคารจะเป็นผู้เสนอชื่อมา อย่างไรก็ตามเรื่องนี้คาดว่าจะได้ข้อสรุปในการประชุมหารือของผู้ถือหุ้นครั้งต่อไปในช่วงเดือนเมษายนนี้
“การสรรหาเอ็มดีใหม่มานั่งในธนาคารทหารไทยนั้นมีการวางแผนงานไว้หมดแล้ว และเชื่อว่าทุกอย่างจะดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้ เพราะผู้บริหารทั้ง 2 ฝ่ายได้ทำข้อตกลงเรียบร้อยแล้ว โดยจะให้เอ็มดีคนใหม่จะเป็นคนเดียวที่ควบสองตำแหน่ง คือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่เช่นเดียวกับในปัจจุบัน และหลังจากนั้นทางไอเอ็นจีจะมุ่งช่องทางการการขายประกันผ่านสาขาธนาคาร (Bancassurance) ซึ่งคาดว่าในช่วงกลางปีนี้จะสามารถดำเนินการได้”
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมแผนจะออกผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ที่เรียกว่า Investment Link และขั้นตอนกำลังขออนุญาตสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) ซึ่งคาดว่าในช่วงปลายปีนี้จะได้ข้อสรุปรูปแบบที่ชัดเจน โดยทั่วไปบริษัทประกันชีวิตในทั่วโลกจะมีสัดส่วนการลงทุนในลักษณะนี้ประมาณ 50-60% เพราะมองว่าปัจจุบันคนตัดสินใจซื้อประกันชีวิตน้อยลงเกิดจากได้รับผลตอบแทนน้อย แม้จะได้รับความคุ้มครองก็ตาม จึงมีประชาชนสนใจผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทมีผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 4-5%
“ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ไม่ใช่ Unit Link แต่เป็นแค่ส่วนหนึ่ง โดยไม่กำหนดอายุการลงทุน ขึ้นอยู่กับลูกค้าจะตัดสินใจ แต่โดยทั่วไปจะมีการลงทุนการลงทุนประมาณ 20 หรือ 25 ปี ซึ่งจะรับเงินคืนพอดีกับช่วงวัยเกษียณอายุงานของผู้ซื้อผลิตภัณฑ์นี้พอดี ถือเป็นการลงทุนที่ดีให้ผลตอบแทนสูง ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทมีผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 4-5%”
สำหรับในปีนี้ธนาคารได้มีแผนดำเนินธุรกิจมุ่ง 3 เรื่องหลัก โดยประเด็นแรก คือ แผนการลงทุนในไทย ซึ่งปัจจุบันกลุ่มบริษัทไอเอ็นจีได้ให้บริการ 3 กลุ่มธุรกิจหลักทั้งประกันชีวิต บริหารสินทรัพย์ และล่าสุดการเข้าไปลงทุนในธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ถือว่ามีการดำเนินธุรกิจที่ครอบคลุมแล้วและต่อไปจะมีการพัฒนาธุรกิจดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจประกันชีวิตในปีนี้จะมีแผนจะยกระดับบริการต่างๆ ซึ่งขณะนี้บริษัทมีลูกค้าทั้งสิ้น 2 แสนราย พร้อมทั้งลงทุนเม็ดเงินจำนวน 50 ล้านบาทในการพัฒนาระบบ Call Centre ให้มีคุณภาพมากขึ้น
ประเด็นที่สอง คือ ตั้งเป้าจะพัฒนาช่องทางการขายผ่านตัวแทนขึ้นเป็นอันดับ 3 ด้วยเป้าเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 2,100 ล้านบาท จากปัจจุบันที่สมาคมประกันชีวิตประกาศผลการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทประกันชีวิตในระบบอยู่อันดับ 4 ด้วยเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1.4 ล้านบาท เนื่องจากหากพิจารณาดำเนินงานในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขสำคัญในหลายด้านเติบโตดีขึ้นในทุกๆ ไตรมาส โดยเฉพาะการขายประกันผ่านตัวแทน ซึ่งในอนาคตบริษัทจะมีการพัฒนาความรู้ของตัวแทนขาย พร้อมทั้งคัดเลือกตัวแทนที่ดีในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่อไป ขณะที่ช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านโทรศัพท์(Tele Marketing) ตั้งเป้าจะติดอันดับ 1 ใน 5 ของอุตสาหกรรมนี้เช่นกัน
และประเด็นสุดท้ายบริษัทวางแผนจะดำเนินธุรกิจในไทยในระยะยาว และจะนำผลิตภัณฑ์แบบประกันชีวิตใหม่ๆ มาตอบสนองความต้องการลูกค้าคนไทยให้มากขึ้น
ด้าน นายสมโพชน์ เกียรติไกรวัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไอเอ็นจีประกันชีวิต จำกัด กล่าวว่า แม้ไตรมาสแรกของปีนี้ยอมรับว่าการดำเนินธุรกิจจะมีปัจจัยหลายด้านที่มีความท้าท้ายพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องการแข่งขันดำเนินธุรกิจ แต่เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ประกอบกับมีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์อีกช่องทางหนึ่งจะช่วยส่งเสริมธุรกิจอีก
นอกจากนี้ บริษัทยังมีตัวแทนขายที่คุณภาพอยู่ในสโมสรล้านเหรียญโต๊ะกลม(MDRT) ซึ่งเป็นคุณวุฒิที่ให้แก่ตัวแทนขายที่มียอดขายกรมธรรม์สูง โดยปัจจุบันบริษัทมีตัวแทนที่ได้รับคุณวุฒินี้ทั้งสิ้น 116 คน จากตัวแทนขายทั้งสิ้น 7,000 คน และคาดว่าในอนาคตจะมีเพิ่มขึ้นอีก รวมทั้งบริษัทจะสร้างภาพลักษณ์ตัวแทนขายให้แข่งแกร่งตามนโยบายของสำนักงานภูมิภาคในกลุ่มไอเอ็นจีด้วย
|
|
|
|
|