|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เอสซีจี โลจิสติกส์ ประกาศจุดยืน ไม่พึ่งชื่อเสียงบริษัทแม่สร้างรายได้ ขอขยายฐานลูกค้าด้วยตัวเอง เร่งขยายตลาดอาเซียนและตะวันออกกลาง ตั้งเป้าเพิ่มลูกค้านอกเครือปูนใหญ่เป็น 40 % ดันยอดขายทะลุ 10,000 ล้านบาท
แม้ว่าสถานการณ์ธุรกิจขนส่งหรือโลจิสติกส์ในปีที่ผ่านมาจะค่อนข้างทรงตัวไม่เติบโตอย่างที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องรวมถึงอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ส่งผลให้ธุรกิจดังกล่าวไม่เติบโตอย่างที่ต้องการ
เอสซีจี โลจิสติกส์ หนึ่งในธุรกิจขนส่งของเครือซิเมนต์ไทยได้วางกลยุทธ์ เพื่อรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจในปีนี้ โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการบริหารด้านโลจิสติกส์ด้วยการเชื่อมโยงเครือข่ายและระบบขนส่งของลูกค้าทั้งในและนอกเครือซิเมนต์ไทย
ขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจจัดจำหน่าย เครือซิเมนต์ไทย (SCG Distribution) กล่าวว่า การขยายเครือข่ายเพื่อรองรับธุรกิจในเครือ SCG และลูกค้าในอาเซียนนั้น บริษัทเชื่อมั่นด้วยเทคโนโลยีและการวางระบบบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพประกอบกับเครือข่ายขนส่งในอาเซียนที่บริษัทเข้าไปวางรากฐานจะเป็นตัวช่วยส่งเสริมให้เอสซีจี โลจิสติกส์เติบโตได้ตามแผน
โดยในปี 2551 บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 10,000 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 20% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขาย 8,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯยังตั้งงบประมาณสำหรับการพัฒนาระบบโลจิสติกส์อีกประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพของระบบให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนในการขนส่งสินค้า และปัจจุบันสามารถลดต้นทุนให้กับลูกค้าได้ถึง 4-5 % นอกจากนี้ ในอีก 5 ปีข้างหน้า บริษัทฯจะต้องลดจำนวนรถเปล่าที่วิ่งขนสินค้าลงจาก 39 % ให้เหลือ 29 % เพื่อให้มีรายได้จากการขนส่งสินค้ากลับด้วย
สำหรับการขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศแถบอาเซียนนั้น ปัจจุบันบริษัทได้เริ่มวางเครือข่ายโลจิสติกส์ในประเทศกัมพูชาและเวียดนาม โดยที่กัมพูชาได้เข้าไปขยายตลาดปูนซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง มานานกว่า 20 ปี ส่วนเวียดนาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าไปสำรวจตลาดเพื่อวางระบบขนส่ง ซึ่งจะเป็นการขนส่งเม็ดพลาสติกจากโฮจิมินไปฮานอย
“อดีตบริษัทฯไปรุกตลาดในแถบยุโรป และอเมริกา แต่เนื่องจากต้นทุนในการขนส่งสูงและไกล จึงได้ยกเลิกตลาดดังกล่าว อีกทั้งเข้าไปทำตลาดในจีนได้ดีกว่า ดังนั้น เราจึงหันมารุกตลาดในแถบอาเซียนมากขึ้น เช่น ศรีลังกา บังกลาเทศ พม่า เวียดนาม เขมร กัมพูชา นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเปิดตลาดใหม่ในแถบตะวันออกกลาง เช่น ดูไบ กาตาร์ แต่ปัจจุบันก็ยังมีปัญหาเรื่องท่าเทียบเรือที่มีขนาดเล็ก ซึ่งคาดว่าปีนี้จะส่งออกสินค้าได้ประมาณ 5-6 ล้านตัน ส่วนยอดขายที่ตั้งเป้าไว้ 10,000 ล้านบาทนั้น จะมาจากอาเซียน 15% ส่วนที่เหลือจะมาจากตลาดในประเทศ ”ขจรเดชกล่าว
สำหรับลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าในเครือเอสซีจีฯ 70 % ลูกค้าทั่วไป 30 % โดยในปีนี้มีแผนที่จะปรับเปลี่ยนสัดส่วนลูกค้าใหม่ ซึ่งจะเพิ่มลูกค้าทั่วไปเป็น 40% และลดสัดส่วนลูกค้าในเครือเหลือ 60%
นอกจากบริษัทฯจะเดินหน้าการพัฒนาระบบโลจิสติกส์แล้ว บริษัทฯยังได้เน้นการสร้างแบรนด์ เพื่อให้สอดรับกับแนวทางของเอสซีจีฯ ที่มุ่งเน้นการสื่อสารและบริหารแบรนด์ของธุรกิจ และสร้างความแตกต่างให้กับบริษัทที่ไม่ยึดติดกับบริษัทแม่มากเกินไป เพราะที่ผ่านมาลูกค้าส่วนใหญ่จะมองว่าบริษัทฯจำหน่ายสินค้าพวกวัสดุก่อสร้างและส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทเข้าไปตีตลาดในแถบอาเซียนมากขึ้น จึงต้องการสร้างความจดจำให้กับลูกค้ามากขึ้น บริษัทจึงได้เปลี่ยนชื่อจาก บริษัท ซิเมนต์ไทย โลจิสติกส์ จำกัด เป็น บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ SCG Logistics และเปลี่ยนโลโก้จาก CTL เป็น SCG Logistics
|
|
|
|
|