|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
บิ๊กแกรมมี่ "อากู๋" เร่งแก้ปัญหาราคาหุ้นต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน-ขาดสภาพคล่อง เตรียมจ้างที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาดูแลเป็นพิเศษ หวังสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขาย ระบุอยู่ระหว่างการคัดเลือก 3-4 ราย ก่อนจะสรุปภายในสัปดาห์นี้ พร้อมหารือกับผู้ถือหุ้นใหญ่-เดินหน้าโรดโชว์ ประเดิมสิงคโปร์ เม.ย.นี้ นับเป็นครั้งแรกหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะที่ผู้บริหารเปิดทางพันธมิตรร่วมถือหุ้น
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินเข้ามาดูแลสภาพคล่องและราคาหุ้น GRAMMY เนื่องจากราคาปัจจุบันราคาหุ้น GRAMMY เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 10.70 บาทต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน จากช่วงที่ยังไม่ได้มีการปรับลดราคาตามมูลค่า (ราคาพาร์) อยู่ที่ 40 บาท
โดยขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับที่ปรึกษาทางการเงินประมาณ 3-4 ราย เพื่อคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาดูแลสภาพคล่องดังกล่าว ซึ่งอาจจะมีการว่าจ้างทั้งหมด 3-4 รายก็ได้ โดยคาดว่าในสัปดาห์นี้จะสามารถสรุปผลการคัดเลือกบริษัทที่ปรึกษาได้เรียบร้อย
ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนที่จะหารือร่วมกับผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทให้เข้ามาซื้อขายหุ้น GRAMMY เพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดี รวมถึงจะมีการหารือถึงเรื่องผลประกอบการที่ในปี 2551 นี้ โดยบริษัทคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 25 ปี จากที่ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 8,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนเข้ามาซื้อขายมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้แก่นักลงทุนมากขึ้น โดยในเดือนเมษายนนี้ บริษัทจะเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์พร้อมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการโรดโชว์ครั้งแรกของบริษัทหลังจากที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมทั้งบริษัทจะมีการหาพันธมิตรเข้ามาถือหุ้นของบริษัท เพื่อที่จะเข้ามาเพิ่มมูลค่าหุ้นให้กับบริษัท ส่วนหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมหรือการเพิ่มทุนใหม่เพื่อเสนอขายให้กับพันธมิตรดังกล่าวขณะนี้ยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้
"บริษัทมีหุ้นฟรีโฟลทประมาณ 40% แต่นักลงทุนไม่เข้ามาซื้อขาย ดังนั้นบริษัทจึงมีแผนที่จะสร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุนเข้ามาลงทุนซื้อขายหุ้น GRAMMY จากก่อนหน้าที่บริษัทไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จนถูกผู้ถือหุ้นต่อว่ามา โดยประเด็นที่จูงใจให้นักลงทุนเข้ามาซื้อขายหุ้นบริษัทจะต้องดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หารือกับผู้ถือหุ้นเดิมเข้ามาซื้อขายหุ้น การประชาสัมพันธ์ความเคลื่อนไหวของบริษัทผ่านสื่อต่างๆ มากขึ้น การไปโรดโชว์ทำให้กองทุนต่างๆสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัท และการหาพันธมิตรเข้ามาที่จะทำให้บริษัทมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น" นายไพบูลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายไพบูลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังมีมีแผนที่จะลดสัดส่วนการถือหุ้นจากปัจจุบันที่ถืออยู่ประมาณ 266.66 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 54.42% หรือ 266.66 ล้านหุ้น และนักลงทุนรายย่อยถือ 20% ที่เหลือเป็นกองทุนต่างๆ อีกกว่า 20%
"ผมจะไม่ทิ้งหุ้นบริษัทออกมาอย่างแน่นอน แม้ว่าจะมีผู้ให้ราคาสูงถึงหุ้นละ 20 บาท จากราคาบนกระดานอยู่ที่ 10.70 บาท นอกจากราคาหุ้นนั้นเป็นราคาที่น่าสนใจมาก จึงจะยอมขายออกมา แต่เป็นเพียงการขายทำกำไรเท่านั้น"
ด้านแผนการดำเนินงานนั้น บริษัทมีแผนจะขยายสู่ธุรกิจเคเบิลทีวี ซึ่งขณะนี้รอศึกษารายละเอียดการประกาศใช้พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ก่อนที่จะยื่นประมูลเพื่อทำธุรกิจเคเบิลทีวี ซึ่งบริษัทมีความพร้อมในการดำเนินการดังกล่าว เพราะมีคอนเทนต่างๆ พร้อม เช่น ละคร เพลง ฯลฯ
"ธุรกิจเคเบิลทีวีบริษัทอาจจะดำเนินงานเอง หรือหาพันธมิตรเข้ามาร่วม ซึ่งส่วนตัวผมพยายามที่จะมีการทำธุรกิจดังกล่าวภายในปีนี้ แต่อย่างไรก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการดำเนินงานของรัฐบาลด้วย" นายไพบูลย์ กล่าว
|
|
 |
|
|