การตกต่ำของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในเมืองไทย หลังจากการขึ้นเพดานดอกเบี้ยเงินกู้ เป็น 19% และความเข้มงวดในการอำนวยสินเชื่อขอ

ตลาดการเงินต่อธุรกิจพัฒนาที่ดิน มีผลให้บริษัทหลายแห่งต้องปรับเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนนนกันเป็นพัลวัน

ถ้าไม่ขายทิ้งไปเลยก็ต้องหาทางปรับตัวโครงการซึ่งมีหลายวิธี บางบริษัทใช้วิธีลดขนาดโครงการให้เล็กลงเช่น โครงการสร้างอาคาร พาณิชย์ขนาด 3 ชั้น ครึ่งบนเนื้อที่ 5 ไร่ บนถนนศรีนครินทร์ ของกลุ่มบริษัทพรีเมียร์ ลดขนาดเเหลือ 2 ชั้นครึ่ง โครงการคอนโดมีเนียม ราคาถูก เนื่อที่ 14 ไร่ บนนถนนศรีนครินทร์ ของอูฟูเฉียง แห่งไต้หวัน ได้ตัดสินใจขายโครงการทิ้งเนื่องจากได้ผลกระทบจากมาตรการเข้มงวดสินเชื่อของธนาคารทำให้

ไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารได้

ดูไปแล้ว ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ไทยเมื่อเทียบกับ 2 ปี ที่ผ่านมา มีอาการตกต่ำลงแทบทุกประเภท ไม่เว้นแม้กระทั่ง สวนเกษตร ซึ่งนิยมกันมากไม่แพ้การลงทุนสร้างสนามกอล์ฟ

แม้ตลาดจะตกต่ำสำหรับนักพัฒนาที่ดินอย่างนรฤทธิ์ โชติกเสถียร ในโครงการสวนเกษตร มีการปรับที่น่าสนใจมาก แม้จะเพิ่งเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้นี้ได้ 2 ปีเท่านั้น หลังจาก ขายหุ้นอาคเนย์ประกันภัย ทิ้งให้ เจริญ วิริวัฒนภักดี เมื่อปี 2531 " ตอนนี้ผมทำโครงการสวนเกษตรริมจันทร์ไปขายที่สอลเอลเจลลิส เป็นการเจาะตลาดอีกตลาดหนึ่งในยามที่ตลาดภายในของเราชะลอตัว ลง " นรฤทธฺ์ เล่าถึงการปรับตัวด้านการตลาด

นรฤทธิ์ เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มีอายุใกล้ 40 เท่านั้น แต่บทบาททางธุรกิจในอดีต ที่ผ่านมา นับเป็นการยอมรับในความรู้ความสามารถวงการธุรกิจประกันชีวิตว่าเป็นคนมือสะอาด

หลังจากขายหุ้นอาคเนย์ ทิ้งเมื่อปี 2531 เขาก็ออกมาทำธุรกิจพัฒนาที่ดินในรูปสวนเกษตร " ผมเลือกสวนเกษตร เพราะว่าผมมีความพร้อมด้านคนทำงานที่คุ้นเคยกับงานเกษตร เพราะว่าผมมีความพร้อมด้านคนทำงานที่คุ้นเคยกับงานเกษตรเช่น อาจารย์ปราโมทย์ ร่วมสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร นรฤทธิ์ พูดถึงเหตุผลที่เขาเลือกลงทุนสวนเกษตรแทนที่จะเป็นคอนโดฯ เหมือนคนอื่น

นรฤทธิ์ ร่วมลงทุนกับบริษัทบีเอสโอ ในสัดส่วน 40:60 ก่อตั้งบริษัทฟรุ้ตแลนด์ เพื่อทำโครงการสวนเกษตร ลำไยที่ลำพูนขนาด 300 ไร่ เป็นโครงการแรกหลังออกจากอาคเนย์

เขาใช้เวลา เพียง 2 ปี พลิกผืนนาเป็นสวนลำไย ที่มีผู้จับจองหมดทุกแปลง " เราสำเร็จลงได้อย่างสวยงาม นอกเหนือจากการจัดระบบการผลิตที่ทันสมัยถูกต้อง ตามมาตรฐานวิชาการ แล้ว ผมว่าเราโชคดี ทีได้พาร์ตเนร์ ท้องถิ่นคือ อวรรณ ลิทองกุล ที่ขายเก่งและเอาจริง" เขาให้เหตุผลเบื้องหลังความสำเร็จจากการใช้เน็ทเวิร์ค

วรรณี เป็นเจ้าของกิจการผลิตดอกไม้ประดิษฐ์ในลำพูน รู้จักกับบำรุง ผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง ในกลุ่มบีเอสโอ ตอนเข้ามาเป็นเซลเน็ทเวอร์ค ให้นรฤทธิ์ มีการแลกเปลี่ยนให้เชิงผลประโยชน์ทางธุรกิจระหว่างกันกล่าวคือ นรฤทธิ์ กว้างขวางพอสมควรในการบุกตลาดต่างประเทศ จึงรับที่จะร่วมลงทุนบางส่วนในธุรกิจดอกไม้ประดิษฐ์ของวรรณี เพื่อหาทางนำดอกไม้ประดิษฐ์สู่ตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในแอลเอ ขณะเดียวกันกับที่วรรณี ไม่ชำนาญในตลาดต่างประเทศแต่ชำนาญตลาดท้องถิ่น จึงเข้ามาร่วมโครงการสวนเกษตรเป็นการแลกเปลี่ยนกัน ความลงตัวจึงเกิดขึ้น

ความสำเร็จจากโครงการสวนเกษตรลำไย ที่ลำพูน ทำให้นรฤทธิ์ เห็นช่อง

ทางการลงทุน ในธุรกิจชัดเจนมากขึ้น ด้านหนึ่งเขาเปลี่ยนสถานภาพของบริษัทฟรุ้คแลนดด์ จากบริษัทลงทุนเป็นรับจ้างบริหารโครงการสวนเกษตร อีกด้านหนึ่งเขาตั้งบริษัทนนท์เสถียร ขึ้นโดยร่วม ลงทุนกับชลินทร์ ปิณฑานนท์ สัดส่วน 50:50 เพื่อการลงทุนทำโครงการเกษตรทุเรียนที่จันทบุรี ขนาด 400 ไร่ โดยให้บริษัทฟรุ้ตแลนด์ เป็นผู้บริหารโครงการตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการจำหน่าย " โครงการนี้เราได้จักรชัย นินภักดี มาเป็นผู้จัดการบริหาร จักรชัย เคยมีประสบการณ์เป็นผู้จัดการสาขาราชบุรี จากไทยพาณิชย์ มาก่อน นอกจากนี้ชลินทร์ เองก็มีเพื่อนฝูง ในวงการธุกริจบันเทิงมากพอสมควร เขาก็ใช้เน็ทเวิร์คตรงนี้ดึงลูกค้าที่มีชื่อเสียงเช่นเรวัคติ วุฒินันท์ ธงชัย แมคอินไตย์ และไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม แห่งบริษัทแกรมมี่" เขาถูดถึงเคล็ดลับการบริหารโครงการที่ประสบความสำเร็จ

เมื่อสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ เขาปรับตลาดทันทีมุ่งต่งประเทศที่ลอสแองเจลลิส หรือแอลเอ ที่คนไทย ไปอาศัยทำมาหากินกันมากที่สุดเกือบ 3 แสนคน " ผมเชื่อโดยพื้นฐานว่าคนไทยที่นั่น ต้องการมีที่ดินสักพื้นในเมืองไทย อย่างน้อยในยามแก่เมื่อต้องการกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดก็ทำได้ อีกประการหนึ่งราคาที่ดินที่เสนอขายก็อยู่ในระดับที่สามารถซื้อได้อย่างสบาย" นรฤท

ธิ์ เล่าถึงความต้องการของตลาดในแอลเอ นรฤทธิ์ ได้นำที่ดินในโครงการสวนริมจันทร์คันทรีคลับไปขายในแอลเอราคาถูก กว่าที่ขายในเมืองไทยเล็กน้อย เนื่องจากการส่งเสริมการขายที่สร้างสิ่งจูงใจ 2 อย่างคือ

หนึ่ง- ผู้ซื้อสามารถแนะนำลูกค้าใหม่มาได้ จะได้รับส่วนลดในราคาที่ดินของตนเองจับจอง

สอง- วันโอนโฉนดที่กระทำที่เมืองไทย ผู้ซื้อจะได้รับบริการฟรีการเดินทางทั้งไปและกลับกรุงเทพ-ลอสแองเจลลิส

การเจาะตลาดที่แอลเอ เขาแต่งตั้ง ธีระ ศภพิพฒน์วงศ์ เจ้าของกิจการธุกริจบริการฆ่ามดปลวกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในมอนทาเร่ย์พาร์ค เมืองบริวารเล็ก ๆ ของแอลเอ เป็นผู้ประสานงานขายประจำตลาดแอลเอ

ธีระเป็นคนไทืย ที่ไปตั้งรกรากทำมาหากินที่แอลเอมานานจนประสบความสำเร็จ ในธุรกิจเป็นที่เชื่อถือในหมู่คนไทยที่นั่น และความเชื่อถือก็เป็นจุดขายที่สำคัญเนื่องจากคนไทยที่แอลเอมีปลายประเภท การลงทุนซื้อที่ดินที่เมืองไทยต้องอาศัยความเชื่อถือของผู้ขายเป็นเหลักเพราะว่าผู้ซื้อไม่มีโอกาสได้เห็นแปลงที่ดิน

การบุกเจาะตลาดแอลเอ ของนรฤทธิ์ จึงเป็นการพลิกตัวโต้กระแสตลาดที่ดินตกต่ำของบ้านเราที่ทันเวลา ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป