Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2534








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2534
เบื้องหลังเกิดเยลโล่เบิร์ดส สายการบินใหม่ภายในประเทศ             

 


   
search resources

ทรอปิคอล ซีแอร์
ทม มีศิริ
Aviation




เครื่องบินสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นเล็กชื่อ yellowbirds "เยลโล่เบิร์ด ได้ทะยานสู่ฟ้า เป็นครั้งแรก เมื่อ 24 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยมีจุดมุ่งหมายทาง

ระยะแรกอยู่สองจุด คือกรุงเทพถึงพัทยา และจากกรุงเทพถึงหัวหิน( ชะอำ)

" ทุกจุดที่เครื่อเงราจะลงเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลหมด ต่อไปตามเขื่อนเกาะแก่งหรือแม่น้ำเล็ก ๆ เราจะทำด้วย เรากล้าพูดได้ว่า ของเราเป็นแห่งแรกในเอเซีย และเป็นแห่งที่สามของโลกที่เปิดการบินสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก" ทม มีศิริ ประธานและผู้จัดการใหญ่ บริษัททรอปิคอล ซีแอร์เล่าให้ฟัง

ด้วยวัย 45 ปี ทมมีประสบการณ์ในวงการบินมาตั้งแต่ครั้งเขาเรียนจบจากศูนย์ฝึกการบินพลเรือน แห่งประเทศไทย โดยเป็นวิศวกรทางด้านการบินควบคู่การทำงานส่วนตัว ด้านการค้าอาวุธด้วย พื้นฐานครอบครัวของทมมีบิดา ร.ต.ต. สันติ มีศริริ ซึ่งเคยเป็นหัวหน้านักบินอยู่ที่เรือบินเกษตรด้วย

โครงการเยลโลเบิร์ดนี้ ทมไม่ได้เป็นผู้ริเริ่มแต่แรก เป็นอีกผู้หนึ่ง

เฮนรี่ ลิโอรี แฮน คอด (HENRY LEORY HANCOCK)เจ้าของธุกริจด้านการบิน และท่องเที่ยวอเมริกัน พร้อมกับ " กมลวรรณ แฮนคอด" ภรรยาชาวไทย เป็นผู้ก่อนตั้งบริษัทนี้ ขึ้นมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยเดิมบริษัทชื่อว่า บริษัทสยามซีเพลน เซอร์วิส ( siam seaplane service) มีทุนจดทะเบียนเพียงล้านบาท ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท " ทรอปิคอล ซีแอร์)

ในปี 2532 แอนคอด ได้เพิ่มทุนเป็น 30 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการรับจ้างถ่ายภาพทางอากาศแผนที่ทางอากาศ สำรวจธรณีวิทยาทางอากาศ ถ่ายภาพโฤษณา ขายตั๋วเครื่องบิน ฝึกบินเพื่อกีฬาและนำเที่ยว

" เดิมทีที่เริ่มมีความคิดนี้เป็นช่วงปีการท่องเที่ยวไทย ปี 2530 ตลาดท่องเที่ยวโตเร็วมาก จึงคิดว่าเมืองไทยมีความต้องการด้าน transportation ในลักษณะแบบนี้ แต่ธุกริจนี้ ค่อนข้างเสี่ยง ต้องเป็นคนมีใจรักและเห็นความเป็นไปได้ ตอนนั้น คุณทมเริ่มโครงการดาวเทียม เรามองเห็นว่าเขาเป็นคนรุ่นหใม่ที่มีความคิดค่อนข้างแปลกและ unque ก็เลยตกลงร่วมทำด้วยกัน กมลวรรณ แฮนคอด สาวสวยวัย 30 ปี เล่าให้ฟังถึงการเข้ามาซื้อหุ้นของทม มีศิริ ปัจจุบันเธอดูแลกิจการตำแหน่งกรมการและผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของเยลโลเบิร์ดส์

เราร่วมลงทุนกัน ภายหลังจากที่ได้รับในอนุญาตในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2533 นี้ เพราะก่อนหน้านั้นต้องใช้เวลานานกับการหาข้อมูลให้ภาคราชการ เพราะของนี้ใหม่สำหรับเมืองไทย ทำให้ต้องทำงานศึกษาหนักเพื่อให้ทางการยอมรับว่าดครงการนี้เป้นไปได้ กมลวรรณ เล่าให้ฟัง

เบื้องหลังการติดต่อ รู้จักกันนี้ได้ผ่าน match maker สำคัญคนหนึ่ง คือ ดร. เชียรชาญ กัลยาณมิตร ที่ปรึกษาธุรกิจใหญ่ที่ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการพร้อมกับหาจอยน์เวนอเจอร์ให้กลับกลุ่มแฮนคอด เพราะตามข้อกำหนดของบีโอไอ กับกระทรวงคมนาคม จะต้องมีหุ้นส่วนคนไทยอย่างต่ำที่สุด 59%

"ผม matchโครงการนี้ เพราะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมาก ผมได้คุยกับ รมต. กร ทัพพะรังสี ว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวบ้านเราขาดมากเรื่อง transportaion ชาวต่างชาติตกเครื่องบินเป็นแถว ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่มาก และรัฐมนตรีกร ท่านก็ชอบมาก เพราะการรลงทุนของเราไม่ต้องสร้างสนามบิน มันประหยัดและรวดเร็วสำหรับอุกตสาหกรรมท่องเที่ยวของชาติเลย" ดร. เชียรช่วง เล่าให้ฟัง

ในที่สุด ทางบริษัท ทรอปิคอล ซีแอร์ ก็ได้รับสัมปทานที่รัฐให้มาทั้งหมด 15 สายหลักๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่นิยมชายทะเล โดยตรงจากกรุงเทพสู่หัวเมืองและเกาะแก่งสำคัญๆ ดังนี้คือ หัวหิน พัทยา อู่ตะเภา เกาะเสม็ด ภูเก็ต หาดป่าตอง หมู่เกาะพีพี เกาะสมุย กระบี่ หมู่เกาะสิมะลัน และเกาะสุรินทร์

" เราได้เอ๊กซ์คลูซีพ เส้นทางบินจากพัทยาถึงเากะสมุย เป็นเจ้าเดียว เพราะฉะนั้น นักท่องเที่ยว ที่มาจะไม่เข้ากรุงเทพแล้ว" ดร.เชียรช่วง เล่าใให้ฟัง และอีกหน่อยเราสามารถขึ้นเครื่องบินได้ที่แม่น้ำเจ้าพระยา แล้วไปลงที่แถวรอยัลคลิฟ พัทยาได้สบาย ๆ

ต้นทุนการทำบริการการบิน " เยลโล่บริดสฺ์" นี้ ดร. เชียรช่วง วิเคราะห์ให้ฟังว่าเป็นธุรกิจที่มี operation cost ไม่สูงมาก เพราะไม่ต้องลงทุนสร้างสนามบิน เนื่องจาก " เยลโล่บริดส์" เป็นเครื่องบินลำเล็กที่สามารถเลือกจอดลงที่ผืนน้ำหรือสนามบินะรรมดาได้สบาย ประกอบเครื่องบินหลายแบบตั้งแต่จำนวน 10 ที่นั่งสำหรับชาร์เตอร์ไฟล์ท และ 15,28 ที่นั่ง สำหรับเที่ยวบินประจำ ทำให้มีสภาพคววามปลอดภัยด้วยระดับ การบินต่ำเพียง 3,000-4,000 ฟิต

" มูลค่าเครื่องบินบางลำ 30 กว่าล้านบาทก็มี บางลำราคาเป็นร้อยล้าน ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดที่กำลังสร้างอยู่ขณะนี้ 12 ที่นั่ง เป็นของเยอรมันยี่หุ้อ seatar ตัวนี้เราสั่งเข้ามาหลังสุด ซึ่งเข้ามาสิ้นปี 2533 นี้" ทม มีศิริ ประธานบริษัทหนุ่มใหญ่ คุยถึงมูลค่าที่ลงทุนไป นอกเหนือจากทุนจดทะเบียนบริษัทที่ลงไป เต็ม 90 ลำ โดยมีผู้ถือหุ้นสามกลุ่มใหญ่ ๆ โดยกลุ่มสยามแซท ซึ่งมีทม มีศิริ และณรงค์ฤทธิ์ ปลื้มปวารรณ์ ถือหุ้นใหญ่ 46% กลุ่มไทยรุ่งเรือง คือชนิดา อัษฏาะร และกลุ่มแฮนคอด คือ เฮนรี่ และกมลวรรณ โดยมีพลเรือเอกบัณฑิต ชุณหะวัณ เป็นประธานกรรมการที่ปรึกษา

การบริหารงานของบริษัท มีคีย?์แมน คนสำคัญ คนหนึ่งชื่ andreas c. Hansen หรือเรียกสั้นๆ ว่า " อังเดียร" เป็นผู้บริหารชาวดัทซ์ ที่รับผิดชอบฝ่ายการตลาดทั้งหมดในตำแหน่ง com mercial director และ assitant manager รองจาก ทม มีศิริ

" ความหมายของเยลโล่ เบิร์ด เป็นความคิดของอังเดีรย เพราะแกมีความคิดอยากจะให้เป็นแบบท่องเที่ยวมากว่า รวมทั้งเยลโล่เบิร์ด เป็นสัญยลักษณ์ที่มีจุดเด่นเวลาบินขึ้นฟ้า คนจะเห็นสีเหลืองแล้วถามว่า นั่นอะไร? ก็จะมีคนตอบว่าเป็นเครื่องบินเยลโล่เบิร์ด ซึ่งมีสีสันเตะตาชาวบ้าน ทำให้เราลดต้นทุนโฆษณาได้ด้อวย" ทม เล่าที่มาขอชื่ " เยลโล่เบิร์ดส์"

ความแตกต่างที่เป็นขุดขายของเยลโลเบิร์ด ก็คือ เส้นทางการบินแถบชายทะเล ในระยะแรกมีเครื่องบินลำเล็กจะมีเพียง 4 ลำที่เปิดบริการบินไป-กลับทั้งหมด 32 เที่ยว โดยบินไปกลับ ระหว่างกรุงเทพฯ -พัทยา 28 เที่ยว บิน และบินไป-กลับ กรุงเทพฯ -หัวหิน อีก 4 เที่ยว โดยเริ่มออกจากท่าอากาศสยานกรุงเทพ ตั้งแต่เที่ยวบินแรก 6 โมงเช้า จนถึงเที่ยวสุดท้าย 4 โมงเย็น ใช้เวลาไปพัทยาเพียง ครึ่งชั่วโมง ส่วนเที่ยวบินไปหัวหิน ส่วนเที่ยวบินไปหัวหิน ออกจากกรุงเทพวันละสองเที่ยว คือ 8.30-9.10 น. และ 16.00-16.40 น. โดยใช้เวลาสั้น ๆ เพียง 40 นาที

เครือข่ายการ ตลาดของเยลโลเบิร์ด ส่วนใหญ่จะอยู่ในเยอรมันนี อเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งจะส่งลูกค้าเข้ามาตามโควตาแต่ละเดือน

" การบริหารตลาดของเราจะผ่านบริษัท GSA ซึ่งเป็นตัวแทนการขายจากต่างประเทศที่จะส่งลูกค้าเข้ามา จาการสำรวจศึกษาของเรานั้น ฐานลูกค้าที่เป็นเป้าหมายใหญ้คือนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ร้อยเปอร์เซนต์เลย แต่พอถึงเวลาจริง ๆ ลูกค้าในประเทศ ผู้ที่ทำงานในโครงการอีสเทริ์นซีบอร์ด หรือบริษัทธุรกิจแถว ๆ นั้นก็ต้องมาใช้บริการของเรา เพราะมันดีที่ช่วยทุ่นเวลาและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้มาก" ดร. เชียรช่วง เล่าให้ฟังถึงกลุ่มเป้าหมาย

ค่าบริการของเยลโล่เบริ์ดส ที่คิดกับลูกค้านั้น ทม กล่าวว่า เป็นอัตราที่พออยุ่ได้ และขึ้นอยู่กับกรมการบินพาณิชย์ แล้วว่า จะเก้บค่าโดยสารไปพัท ยา คนละ 850 บาท และถ้าไปหัวหิน จะต้องเก้บเงินคนละ 950 บาท ถ้าหากมีการเช่าเหมาทั้งลำ ( ชาร์เตอร์ไล์ท) อัตราการบริการจะคิดเป็นชั่วโมง โดยมีหลายอัตราตามระยะเวลาสั้นหรือยาว ของการเช่า แต่โดยประมาณค่าเหมาลำ จะตกเฉลี่ยชั่วโมงละ 7,000 กว่าบาท

" เยลโลเบิร์ด จะสามารถถึงจุดคุ้มทุนได้เราต้องดูเป็นเฟส ๆ ไป ถ้าหากไม่เพิ่มเครื่องบินเราจะ breakevent ภายใน 2 ปีครึ่งถึง 3 ปี ช่วงแรกเราจะใช้เครื่องบิน 5 ลำ แต่ถ้าตลาดท่องเที่ยวไปได้ดีมาก เราอาจจะเพิ่มเครื่องบินได้เร็วขึ้น ซึ่งถ้าเพิ่มเร็วก็คืนทุนได้เร็ว" ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินเล่าให้ฟัง

ดร.เชียรช่วง ได้กล่าวถึงดครงการ " เยลโล่เบริ์ด" ไว้ว่า ถ้าเดินหน้าไปตามแผยการที่วางไว้เต็มที่ บริษัทจะต้องมีเครื่องบินประมาณ 10-12 ลำ

อย่างไรก็ตามท ช่วงออกตัว ของ " เยลดล่เบิร์ดส" ได้เกิดขึ้นมาท่ามกลางวิกฤตการณ์ราคาน้ำมันแพงขึ้น หรือภาวะเงินตึง อัตราดอกเบี้ยก็สูงขึ้น ซึ่งผลกระทบนี้ ดร. เชียรช่วง กล่าวในฐานะผู้ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการว่า ได้คาดการณ์ไว้ลวงหน้าในแผนการร์การดำเนินงานแล้ว เกี่ยวกับน้ำมันขึ้นราคา ก็มีผลกระทบได้มากเท่าไหร่

" ผลกระทบทางด้านดอกเบี้ยสูงนั้นเราแทบจะมีน้อยมาก เพราะเราไม่ได้กู้ใครเลย เป็นเงินสดจาก กลุ่มถือหุ้นทั้งหมด แต่ในระยะยาวถ้าหากเรามีการซื้อเครื่องบินเพิ่มขึ้นเรือย ๆ เราก็อาจจะเพิ่มทุนจาก 90 ล้าน เป็น 140 ล้าน และถ้ากิจการไปได้ดีเราก็เตรียมแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย" ดร. เชียรช่วง เอ่ยถึงแผนการในอนาคต

ในอนาคต นอกจากแผนด้านการเงิน ที่วางไว้แล้ว ทม มีศิริ ประะานบริษัทยังได้เอ่ยถึงตลาดสำคัญที่จะขยายไปก็คือตลาดคาร์โก้" มันเป็นผลประโยชน์อย่างหนึ่งที่ทำให้เราอยู่ได้แบบถาวร ซึ่งเราก็มีเป้าหมายเหมือนกัน"

นอกจากนี้ การขยายตลาดในโอกาสต่อไป ทม เล่า ให้ฟังว่า มีเป้าหมายที่จะทำต่อไปข้างหน้าคือ ชาร์เตอร์ไฟล์ท โดยบินจากรุงเทพฯไปมาเลเซีย สิงคโปร์ หรือประเทสต่าง ๆ แถบใกล้เคียง

โครงการ" เยลโล่เบิร์ดส" มูลค่า นับค่านับหลายร้อยล้านบาทนี้ จะสามารถทะยานไปได้ไกลเท่าที่ใจผู้บริหารคาดหวังไว้หรือไม่? คงต้องใช้เวลาไม่นานเกินรอเพียงปีเดียวก็พิสูจน์ได้แล้วว่า คอนเซ้ปต์แบบเบิร์ด ๆ นี้จะสร้างกำไรหรือขาดทุนในเชิงธุกริจได้มากหรือน้อย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us