Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 มีนาคม 2551
BCPทุ่มหมื่นล้าน หวังต่อยอดธุรกิจ ดันEBITDAพุ่ง             
 


   
www resources

โฮมเพจ บางจากปิโตรเลียม

   
search resources

บางจากปิโตรเลียม, บมจ.
Oil and gas




บางจากปิโตรเลียม มั่นใจปีนี้ค่าการกลั่นใกล้เคียงปีที่แล้ว 3.20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ลุ้นโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการกลั่นเสร็จทันกำหนด หวังดันกำไรพุ่งอีก 10% เพร้อมร่งศึกษาโอกาสการขยายต่อยอดธุรกิจเพื่อไม่ให้โครงสร้างรายได้ของธุรกิจผันผวนไปตามราคาน้ำมันและตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA ขึ้นอีก 2,500 ล้านบาท ในปี 2553 หลังโครงการPQI เสร็จดัน EBITDA ทยาน6,000 ล้านบาท คาดจะใช้เงินลงทุนรวม 1 หมื่นล้านบาท

นายปฏิภาณ สุคนธมาน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านบัญชีและการเงิน บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าปีนี้ค่าการกลั่นไม่น่าจะแตกต่างจากปี 2550 ที่มีค่าการกลั่น (ไม่รวมกำไรจากสต็อกน้ำมัน 1,857 ล้านบาท) อยู่ที่ 3.20 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากบริษัทมีการส่งออกน้ำมันเตากำมะถันต่ำไปตลาดจีนและญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นเป็น 140-150 ล้านลิตร/เดือน จากปีก่อนส่งออกน้ำมันเตา 120 ล้านลิตร/เดือน บวกกับราคาน้ำมันเตาส่งออกขยับเพิ่มขึ้นอีก 30 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้ไปชดเชยส่วนต่างมาร์จินระหว่างน้ำมันดิบกับสำเร็จรูปที่คาดว่าจะลดลงเล็กน้อย

จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้กำไรของบางจากฯ ปีนี้ไม่ต่างจากปี 2550 ที่มีกำไรสุทธิ 1,764 ล้านบาท เว้นหากโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการกลั่น (PQI) เดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ตามกำหนดในเดือนต.ค. 2551 จะทำให้มีค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรเติบโตขึ้นประมาณ 10% และจะส่งผลให้กำไรในปีถัดไปเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการ PQI ทำให้ปริมาณน้ำมันเตาลดลงเป็นน้ำมันสำเร็จรูปมากขึ้น ซึ่งส่วนต่างระหว่างราคาดีเซลกับน้ำมันเตาห่างกันถึง 30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล โดยค่าการกลั่นของบางจากฯไม่ต่างจากโรงกลั่นน้ำมันอื่นๆ ที่มีค่าการกลั่นสูงถึง 6-7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และกำลังการกลั่นจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนบาร์เรล/วันจากปัจจุบันที่กลั่นเฉลี่ย 6.5 หมื่นบาร์เรล/วัน

"ในปีนี้ EBITDA (กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี) น่าจะใกล้เคียงปีที่แล้ว แม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นกว่าปีก่อน แต่บริษัทได้มีการทำเฮดจิ้งไว้เยอะ โดยมีการขายดอลลาร์เพื่อไม่ได้รับผลกระทบจากบาทแข็ง รวมทั้งมีการบริหารสต็อกน้ำมันไว้นาน 55-60 วัน หรือประมาณ 4 ล้านบาร์เรล ส่วนน้ำมันที่เป็นเวิร์คกิ้ง อินเวนทอรี่จะเก็บไว้น้อยที่สุดเพื่อไม่ให้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน" นายปฏิภาณกล่าว

นายปฏิภาณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บริษัทได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนเพิ่มเพื่อต่อยอดธุรกิจเพื่อให้โครงสร้างรายได้ไม่ผันผวนตามราคาน้ำมัน โดยเน้น 2 ธุรกิจหลัก คือ แผนพัฒนาธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทดแทน และแผนพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องธุรกิจอื่นๆ โดยอาศัยศักยภาพและความเชี่ยวชาญของบางจากฯในการดำเนินงาน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปีนี้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทน บริษัทฯได้ตัดสินใจลงทุนโครงการผลิตไบโอดีเซล (บี 100) กำลังการผลิต 3 แสนลิตร/วัน ใช้เงินลงทุน 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่ม EBITDA อีก 2,500 ล้านบาท เป็น 8,500 ล้านบาทในปี 2555 หลังโครงการ PQI แล้วเสร็จในต.ค.นี้ ทำให้ EBITDA ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ล้านบาท จากปีที่แล้ว EBITDA อยู่ที่ 2,100 ล้านบาท(หักกำไรจากสต็อกน้ำมันแล้ว)

สำหรับแหล่งเงินทุนจะมาจากการกู้ยืมและกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน เนื่องจากอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 0.7 เท่า ทำให้มีศักยภาพที่จะก่อหนี้ได้เพิ่มขึ้น

นายวิเชียร อุษณาโชติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจโรงกลั่น บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าอัตราการกลั่นน้ำมันเฉลี่ยไว้ใกล้เคียงจากปีที่แล้ว 6.5 หมื่นบาร์เรล/วัน แม้ว่าจะมีการหยุดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นในช่วงเดือนก.พ.และมี.ค.ที่ผ่านทำให้กำลังการผลิตหายไป 4 หมื่นบาร์เรล/วัน แต่ปัจจุบันหน่วยกลั่นได้กลับมาผลิตเป็นปกติด้วยกำลังการกลั่นที่เพิ่มขึ้นเป็น 7 หมื่นบาร์เรล/วัน

จากราคาน้ำมันที่ผันผวน ทำให้บริษัทฯประสบปัญหาการขาดทุนจากธุรกิจค้าปลีกน้ำมันที่มีค่าการตลาดติดลบลิตรละ 40 สตางค์ จากยอดขายน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 160 ล้านลิตร/เดือน หรือคิดเป็นการขาดทุนเดือนละ 80 ล้านบาท

ทั้งนี้ นับตั้งปตท.เข้ามาถือหุ้นใหญ่ในบางจากฯ ทำให้บริษัทฯลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อน้ำมัน อุปกรณ์ในโรงงาน และประกันโรงกลั่นลง ล่าสุดได้ร่วมมือกับปตท.ในโครงการโรงไฟฟ้าโครเจเนอเรชั่นที่ใช้ก๊าซฯเป็นเชื้อเพลิง โดยปตท.จะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมดแล้วขายไฟฟ้าและไอน้ำให้บางจากฯ ทำให้บางจากฯไม่ต้องใช้น้ำมันเตาในการผลิตไฟฟ้าจึงมีเหลือส่งออกได้เพิ่ม ประหยัดเงินอีก 300 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ บางจากฯเตรียมเดินทางไปโรดโชว์กับบริษัทมอร์แกนสแตนเล่ย์ร่วมกับบริษัทในกลุ่มบมจ.ปตท.ที่ลอนดอนในวันที่ 8 มี.ค.นี้ เพื่อแนะนำบริษัทให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นหลังจากที่บริษัทหลักทรัพย์ต่างชาติให้ความสนใจบริษัทฯมากขึ้น จึงเป็นลู่ทางที่ดีในการขยายฐานนักลงทุนต่างชาติ ให้เข้ามาลงทุนในหุ้นบางจากโดยตรงซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุนต่างชาติถือหุ้นบางจากอยู่ 6-7% จากเพดานกำหนดให้ต่างชาติถือหุ้นได้ 10% ส่วนใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิง (DR) ต่างชาติถืออยู่แล้ว 30%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us