บริษัทอสังหาฯพาเหรดเปิดโครงการ "พฤกษา" เร่งเปิดโครงกาคอนโดฯแบรนด์"เดอะซี้ด" 3 ทำเล มูลค่าโครงการ 1,118 ล้านบาท เจ้าตลาดคอนโดฯ แอล.พี.เอ็น. ซื้อที่ดินย่านพระราม 8 ผุดโครงการคอนโดฯแบรนด์ "ลุมพินี วิลล์" มูลค่า 2,200 ล้านบาท ด้านมั่นคงเคหะการฯยึดทำเลเดิม เปิด 4 โครงการแนวราบ มูลค่า 1,500 ล้านบาท
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) (PS) เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่อย่างเป็นทางการ 3 โครงการ ภายใต้แบรนด์ “เดอะซี้ด (The Seed)” ในทำเลย่านรัชดา-ห้วยขวาง สาทร-ตากสิน และ แจ้งวัฒนะ ทุกโครงการอยู่ใกล้ระบบรถไฟฟ้า
สำหรับรายละเอียดของโครงการ“เดอะซี้ด รัชดา-ห้วยขวาง” พื้นที่โครงการ 2 ไร่กว่า จำนวน 308 ยูนิต 1 ห้องนอน เริ่ม 1 ล้านบาท โครงการ“เดอะซี้ด สาทร-ตากสิน” พื้นที่โครงการ 2 ไร่กว่า จำนวน 219 ยูนิต 1 ห้องนอน เริ่ม 1.9 ล้านบาท ทั้งสองโครงการเริ่มก่อสร้างประมาณเดือนพ.ค.51 และ“เดอะซี้ด แจ้งวัฒนะ” พื้นที่โครงการกว่า 2 ไร่ จำนวน 210 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.3 ล้านบาท จะเริ่มก่อสร้างส.ค.51
นอกจากนี้ ทางบริษัทได้จัดแคมเปญในช่วงพิเศษเปิดเดอะซี้ด 3 โครงการ ระหว่างวันที่ 8-9 มี.ค. นี้ ลูกค้าที่จองจะได้รับฟรี! เฟอร์นิเจอร์มูลค่า 1 แสนบาท จาก Habitat และสำหรับลูกค้าที่จองและทำสัญญาในวันงาน จะได้รับแอร์คอนดิชั่นสำหรับทุกห้องนอน พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆอีกมากมาย
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กล่าวว่า บริษัทได้ซื้อที่ดินย่านพระราม 8 ประมาณ 12 ไร่ มูลค่า 355 ล้านบาท เตรียมพัฒนาคอนโดฯเพิ่มอีก ภายใต้แบรนด์ "ลุมพินี วิลล์ พระราม 8" ปลายเดือนมี.ค.นี้ เป็นอาคารชุดพักอาศัยสูง 13 ชั้น 3 อาคาร ประมาณ 1,300 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 2,200 ล้านบาท คาดจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ และรับรู้รายได้ประมาณเดือนส.ค.52 อัตราผลตอบแทนสุทธิก่อนภาษีเงินได้ประมาณ 20% อนึ่ง ในอนาคต ทำเลโซนปิ่นเกล้าอยู่ในแผนที่จะมีการลงทุนก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าMRT
นางสาวชุติมา ตั้งมติธรรม กรรมการบริษัทมั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK กล่าวว่า ในปีนี้เตรียมเปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท โดยยังคงเน้นทำเลที่บริษัทได้พัฒนาและมีโครงการอยู่ เพราะลูกค้ายังมีความต้องการในระดับที่ดี อย่างไรก็ตามในปีนี้ ยังไม่มีแผนพัฒนาโครงการคอนโดฯ เพราะยังหาทำเลที่ดีไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทมั่นใจในปีนี้ จะมีรายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2,500 ล้านบาท เนื่องจากในปัจจุบัน บริษัทมี17 โครงการเก่าที่เตรียมจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ขณะที่วางเป้ายอดขายไว้ที่ 2,700 ล้านบาท
" แม้ว่าต้นทุนการดำเนินงานจะปรับเพิ่มขึ้น ทั้งจากราคาเหล็ก และค่าขนส่ง แต่บริษัทยังไม่มีแผนปรับเพิ่มราคาจำหน่ายที่อยู่อาศัย เพราะกระทบต้นทุนการดำเนินงานไม่ถึง 1% ไม่มาก และทางบริษัทสามารถแบกรับต้นทุนดังกล่าวได้ "
|