Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน3 มีนาคม 2551
เอ็น.ซี.ฯปรับพอร์ตการลงทุน เพิ่มบ้านสั่งสร้างรับมือวัสดุแพง             
 


   
www resources

โฮมเพจ เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง

   
search resources

เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง, บมจ.
สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม
Real Estate




NC ขยับสัดส่วนบ้านสั่งสร้างขึ้น 50% รับมือต้นทุนวัสดุขึ้นราคา พร้อมเพิ่มสัดส่วนบ้านเดี่ยวราคาไม่เกิน 4 ล้านบาทเป็น 68% เน้นเจาะตลาดระดับกลาง ตั้งเป้ายอดขายปี 51 กว่า 1,900 ล้านบาท พร้อมยอมรับยอดขายปี 50 พลาดเป้าเป็นเหตุขาดทุน 61 ล้านบาท เดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่และโครงการต่อเนื่องไตรมาสแรกมูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท

นายสมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีที่ผ่าน มาตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมือง เงินเฟ้อ การขาดความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้ตลาดชะลอตัว ทำให้ในปี50 บริษัทขาดทุนกว่า 61.6 ล้านบาท เนื่องจากทำยอดขายได้ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ นอกจากนี้ต้นทุนปรับตัวสูงขึ้นจึงมีผลต่อกำไรของบริษัท

อย่างไรก็ตามในปี 51นี้ สถานการณ์ต่างๆ เริ่มชัดเจนมากขึ้นทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และการลงทุน เนื่องจากมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ส่งผลให้นักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ มีความเชื่อมั่นมากขึ้น และกล้าตัดสินใจลงทุนพัฒนาโครงการใหม่เพิ่ม

“แม้ว่าในปีนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นแต่ปัจจัยลบที่เป็นตัวฉุดความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเรื่องปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าด้านอุปโภคที่ยังทรงตัวสูง แต่บริษัท ยังมีความมั่นใจว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วและกำลังจะส่งผลดีขึ้นในไตรมาส 2 นี้ โดย เอ็น.ซี.ฯมีแผนการดำเนินธุรกิจที่เชี่ยวชาญ โดยจะเน้นกลยุทธ์ด้าน Product เน้นตอบสนองความต้องการลูกค้าบ้านราคาไม่เกิน 4 ล้านบาท”

ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจึงมีแผนจะปรับสัดส่วนการก่อสร้างบ้านใหม่ โดยเพิ่มสัดส่วนบ้านสั่งสร้างเป็น 47-50% จาเดิม 30% ส่วนบ้านตกแต่งพร้อมอยู่จะมีสัดส่วน 30% จากเดิม 40-50% ส่วนที่เหลือเป็นบ้าน และอีก 20% เป็นบ้านสร้างก่อนขาย ซึ่งการปรับสัดส่วนการผลิตดังกล่าว ส่วนหนึ่งเพื่อควบคุมต้นทุนการก่อสร้าง

นอกจากนี้ ยังเน้นการขายสินค้าบ้านเดี่ยวให้เพิ่มขึ้น 68% บ้านแฝด 15% และทาวเฮาส์ 17% โดยมุ่งขยายฐานสู่ผู้บริโภคที่ต้องการบ้านในระดับราคาที่ต่ำกว่า 4 ล้านบาทมากขึ้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 65% เนื่องจากเป็นตลาดที่มี Demand สูงและสอดคล้องกับความต้องการกลุ่มผู้ซื้อบ้าน

นายสมเชาว์กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 3 - 4 โครงการ โดยในช่วงไตรมาสแรกนี้ บริษัทจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ที่ผสมผสานทั้ง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ จำนวน 390 ยูนิต มูลค่า 760 ล้านบาท และเปิดในโซนต่อเนื่อง คือ บ้านฟ้าปิยรมย์ เลคแอนด์พาร์ค2 จำนวน 66 ยูนิต เป็นสินค้าบ้านเดี่ยวล้วน มูลค่ารวม 250 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีโครงการที่อยู่ในระหว่างเปิดดำเนินการขาย รวม 10 โครงการ มูลค่ารวม 5,600 ล้านบาท

สำหรับในปี 51 เอ็น.ซี.ฯตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวม 1,900 ล้านบาท หรือมียอดรับรู้รวม 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้สาเหตุที่บริษัทมั่นใจว่าจะมียอดรับรู้รายได้สูงถึง 1,000 ล้านบาทนั้นเนื่องบริษัทมีสต็อกยอดขายที่จะโอนมารับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 800 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 500 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ 60 ล้านบาท ที่เหลือเป็นบ้านแฝด ส่วนในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายแล้ว 300 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us