เกธ อาร์. พาราออน - เป็นผู้ดำเนินการธนาคารที่ก่อเรื่องฉาวโฉ่ในระดับโลกแห่งนี้
โดยเริ่มจากอาณาจักรใหญ่โตในริชมอนด์ฮิลล์ รัฐจอร์เจีย ซึ่งบีซีซีไอเป็นผู้ออกทุน
ปัจจุบันทรัพย์สินในสหรัฐฯ ทั้งหมดของพาราออนถูกธนาคารกลางสหรัฐฯ ยึดไว้
อกา ฮาซัน อเบดี - ผู้ก่อตั้งบีซีซีไอเมื่อปี 1972 ด้วยทุนแรกเริ่มเพียง
2.5 ล้านดอลลาร์ และต่อมาก็ทำให้ธนาคารแห่งนี้ ก้าวขึ้นเป็นธนาคารพาณิชย์ยักษ์ใหญ่อันดับที่
5 ของโลก ด้วยยอดสินทรัพย์ 20,000 ล้านดอลลาร์ ทุกวันนี้ อเบดียังคิดจะเปิดธนาคารแห่งใหม่ที่ปากีสถาน
บ้านเกิดของเขาเอง และยืนยันว่าตนไม่เคยทำอะไรผิดพลาด
ครอบครัวตระกูลไซโกล - เจ้าของธุรกิจสิ่งทอจากปัญจาบ เป็นผู้จัดหาเงินทุนให้แก่อเบดีเพื่อเปิดธนาคารแห่งแรก
"ยูบีแอล" ในลาโฮร์
ชี้ค ซาเยด บิน ซุลต่าน อัล-นาฮายัน - ผู้ปกครองแต่เพียงผู้เดียวของอบู
ดาบี ดินแดนที่ร่ำรวยน้ำมันอย่างมหาศาลและเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในบีซีซีไอ
โดยเข้าไปควบคุมธนาคาร เมื่ออเบดีถูกบังคับให้ลาออกเมื่อปี 1990 ทว่าเขาปฏิเสธที่จะรับผิดชอบต่อความล่มสลายของธนาคาร
แต่ก็ได้จัดตั้งกองทุนชดเชยเพื่อช่วยเหลือบรรดาลูกค้ารายย่อย
ชี้ค คามาล อดัม - บุตรชายของกษัตริย์ซาอุดีอาระเบีย และมีชื่อลับที่รู้กันหมู่ซีไอเอว่า
"ทัมเบิลวีด" และด้วยความร่วมมือจากเขา ทำให้บีซีซีไอสามารถขยายอาณาจักรเข้าไปในสหรัฐฯได้
ทารีค อาลี - นักข่าวคนแรกที่ขุดคุ้ยเรื่องของพาราออนและอดัมว่าเป็นบุคคลออกหน้าของบีซีซีไอเมื่อ
10 ปีที่แล้ว ทว่าถูกอเบดีฟ้องร้อง และคำตักเตือนของเขาก็ไร้ผล
ที. เบอร์แทรม แลนซ์ - นายธนาคารจอร์เจียที่ถูกบังคับให้ลาออกจากคณะรัฐบาลของทำเนียบขาวในสมัยจิมมี่
คาร์เตอร์ เป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนสำคัญในการเข้าซื้อหุ้นของเฟิร์สต์ อเมริกันของบีซีซีไอ
คลาร์ก เอ็ม. คลิฟฟอร์ด - ทนายความในวอชิงตันและที่ปรึกษาประธานาธิบดี เป็นตัวแทนของกลุ่มที่เรียกว่า
"นักลง-ทุนตะวันออกกลาง" ซึ่งเข้าเทคโอเวอร์เฟิร์สต์ อเมริกันให้แก่บีซีซีไอ
อาจกล่าวได้ว่าเขาถูกอเบดีต้มเสียจนสุก
โรเบิร์ต เอ. อัลท์แมน - คู่ค้าด้านกฎหมายที่ค่อนข้างบ้าบิ่นและผู้อยู่ในความอุปถัมภ์ของคลิฟฟอร์ด
ขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานเฟิร์สต์ อเมริกันนั้น เขาโกยเงินได้หลายล้านดอลลาร์จากการหุ้นธนาคารให้แก่บีซีซีไอ
ทว่าปฏิเสธไม่รับรู้ว่าบีซีซีไอแอบถือหุ้นลับในเฟิร์ส อเมริกัน
จิมมี่ คาเตอร์ - อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่สนิทสนมกับอเบดี และยอมรับเงินบริจาคเพื่อการกุศลจากบีซีซีไอ
เป็นมูลค่าถึง 8 ล้านดอลลาร์ เรียกได้ว่าเขาเป็นคนถูก "ใช้เป็นครื่องมือ"