|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
รับเหมาพ้อต้นทุนก่อสร้างพุ่ง ขณะที่ผู้ว่าจ้างบีบให้รับงานราคาถูก ฉุดกำไรเหลือไม่ถึง 2% ส่วนงานภาครัฐใช้ราคากลางตามต้นทุนเก่าโดยเฉพาะเมกะโปรเจคกต์ควรปรับราคากลางตามต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับใหม่ ด้านผู้ประกอบการชี้ต้นทุนพัฒนาคอนโดฯปรับขึ้นส่งผลราคาพุ่ง หนุนผู้บริโภคหันซื้อบ้านเดี่ยวเพิ่ม
นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองเลาขาธิการสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวภายในงานสัมมนาในหัวข้อ “อสังหาริมทรัพย์ในสายตาของผู้นำ” จัดโดยมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทยว่า การเข้าสู่ธุรกิจอสังหาฯในปัจจุบันไม่ง่ายเหมือนเช่นในอดีต ผู้ประกอบการจะต้องมีเงินลงทุนเพียงพอในการพัฒนา เนื่องจากการบังคับใช้ของพ.ร.บ.การจัดการดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา ทำให้ไม่สามารถนำเงินดาวน์ของลูกค้าไปใช้ได้ อีกทั้งผู้บริโภคมีความต้องการในรายละเอียดมากขึ้น
“การลงทุนจะต้องทำการวิจัยตลาดก่อน เพื่อพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย ลงทุนระบบไอที และอื่นๆ ทำให้รายเล็กเกิดได้ยาก ปีนี้ไม่ใช่ปีทอง ของอสังหาฯ แต่จะเป็นปีทองแดงก่อนและค่อยดีขึ้นเรื่อย”
นอกจากนี้ตลาดบ้านเดี่ยวยังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการลงทุนโครงการรถไฟฟ้า ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น ประกอบกับต้นทุนในการพัฒนาคอนโดฯสูงขึ้น ทั้งราคาที่ดินที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงราคาค่าก่อสร้างที่คิดเป็น 50% ของต้นทุนขาย ขณะที่บ้านเดี่ยวค่าก่อสร้างคิดเป็น 30%
ด้านนายดนุช ยนตรรักษ์ กรรมการผู้จัดการ คริสเตียนีไทย แอนด์ เนลสัน จำกัด (มหาชน) และกรรมการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการที่จะเข้าสู่ธุรกิจนี้ จะต้องคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ที่ผ่านมามีหลายโครงการมีนักเกร็งกำไรจำนวนมาก บางรายตัวแทนขายนำใบจองออกมาเร่ขายเองอีกด้วย
ส่วนโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) บางโครงการสร้างกำลังซื้อ(ดีมานด์) เทียม เพื่อนำโครงการเสนอขายให้กคช. ทำให้โครงการไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ต้องการจับเสือมือเปล่าไม่ควรเข้ามาในตลาดนี้ เมื่อต้นทุนก่อสร้างปรับขึ้น ขณะที่ขายในต้นทุนเดิม เมื่อการเงินสะดุดผู้รับเหมาต้องแบกรับต้นทุนก่อสร้างที่ลงไป
“ผู้รับเหมาถูกบีบจากผู้ประกอบการให้รับงานถูกๆ แค่ 14,000 บาท/ตนร.ม. ขณะที่เค้าไปขายในราคา 7-8 หมื่นบาท ทำให้เรามีกำไรสุทธิน้อยมากแค่ 1.5% ขณะที่กำไรขั้นต้น 8%”
สำหรับภาวะต้นทุนก่อสร้างปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาเหล็กที่ปรับสูงขึ้นกว่า 30 บาท/กิโลกรัม ซึ่งเหล็กคิดเป็น 10-20% ของค่าก่อสร้างรวม ซึ่งแนวทางที่บริษัทดำเนินการในปัจจุบันเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากต้นทุนก่อสร้างที่ผันผวนด้วยการประมูลงานในราคาต้นทุน ณ ปัจจุบัน บวกเพิ่มล่วงหน้าอีกเล็กน้อย ส่วนการรับงานจากภาครัฐ ยังคงไม่ปรับราคากลางใหม่ แต่ยังมีค่าเคเป็นตัวป้องกันความเสียงบ้างเล็กน้อย
นายดนุช กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการเมกะโปรเจคต์ที่รัฐบาลใหม่ประกาศเดินหน้าทั้ง 7 สายนั้นจะช่วยลดความกดดันให้แก่ผู้รับเหมาในการแย่งงานกันทำ ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้เหล็กเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1.1 ล้านตันหากสร้างครบทุกสาย อย่างไรก็ตามต้องการให้รัฐบาลทบทวนราคากลางของการก่อสร้างใหม่ เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีการคิดคำนวณมานานแล้ว ซึ่งเป็นต้นทุนก่อสร้างเก่าซึ่งต้นทุนในปัจจุบันปรับขึ้นไปสูงมากแล้ว
|
|
|
|
|