Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน29 กุมภาพันธ์ 2551
อีเอ็มซีแตกพาร์เหลือ10สต.             
 


   
www resources

โฮมเพจ บมจ.อีเอ็มซี

   
search resources

Stock Exchange
อีเอ็มซี, บมจ.
ชนะชัย ลีนะบรรจง




หุ้นเก็งกำไรแห่แตกพาร์เพิ่มสภาพคล่องหวังเรียกแมงเม่า ล่าสุด "อีเอ็มซี" ประกาศแตกพาร์จากหุ้นละ 1 บาท เหลือ 0.10 บาท ดีเดย์เม.ย.นี้ แถมใจป้ำแจกวอร์แรนต์ฟรีอัตรา 3.5 หุ้นเดิม ต่อวอร์แรนต์ 1 หน่วย "ชนะชัย" เร่งฟื้นศรัทธาวอนนักลงทุนดูปัจจัยพื้นฐาน ด้านโบรกเกอร์ชี้เหตุแห่แตกพาร์ ทำให้ราคาหุ้นถูกปั่นง่าย พร้อมแฉผู้ถือหุ้นรายใหญ่รับเละ จากราคาหุ้นก่อนแตกพาร์-หลังแตกพาร์เท่าเดิม แต่ได้จำนวนหุ้นเพิ่ม 10 เท่า

นายชนะชัย ลีนะบรรจง ประธานกรรมการ บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนเมษายน 2551 นี้ บริษัทมีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ (ราคาพาร์) ของนบริษัทจากเดิมหุ้นละ 1 บาท เป็นหุ้นละ 0.10 บาท และจะออกใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) ชุดที่ 2 อายุ 3 ปีจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมฟรีในอัตรา 3.5 หุ้นเดิม ต่อวอร์แรนต์ 1 หน่วย

โดยขั้นตอนและกระบวนการต่างๆ จะใช้เวลาไม่นาน หากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนมีนาคมนี้ ขณะที่เงินที่จะได้รับจากการแปลงสภาพการใช้สิทธิของวอร์แรนต์บริษัทมีแผนเตรียมไว้เพื่อรองรับงานก่อสร้างที่มีแนวโน้มการเติบโตในอนาคตทั้งในประเทศและต่างประเทศ

"การแตกพาร์ครั้งนี้ ต้องการเพิ่มจำนวนหุ้นที่ซื้อขายให้มากขึ้นตอบรับความสนใจเข้ามาลงทุนของนักลงทุนรายย่อย ซึ่งโดยส่วนตัวในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น เนื่องจากอยากให้นักลงทุนถือลงตัวมากกว่า" นายชนะชัย กล่าว

สำหรับภาพลักษณ์ของหุ้น EMC ช่วงก่อนหน้านี้มักถูกมองว่าเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีการเก็งกำไรสูง แต่ในปัจจุบันสิ่งที่สะท้อนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นเกิดขึ้นจากผลการดำเนินงานของบริษัทที่ออกมาในทิศทางที่ดี เนื่องจากมีทีมบริหารที่มีศักยภาพและมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจค่อนข้างดี

ส่วนผลการดำเนินงานงวดปี 2550 บริษัทมีกำไรสุทธิ 146.37 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีกำไรอยู่ที่ 36.71 ล้านบาท ซึ่งเรื่องดังดล่าวเชื่อว่าช่วยลดภาพลักษณ์ในการเป็นหุ้นเก็งกำไรได้ ส่วนการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่าเป็นการเข้ามาเก็งกำไรจากข่าวการกระตุ้นการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัทที่อยู่ในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

แหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมากระแสการแตกพาร์ของหุ้นเก็งกำไรหลายบริษัทจาก 1 บาทเป็น 0.10 บาท นอกเหนือจากเหตุผลที่ต้องการให้หุ้นของบริษัทมีจำนวนมากขึ้นแล้ว การปรับลดของราคาหุ้นหลังการแตกพาร์ยังถือว่าช่วยให้โอกาสในการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนรายย่อยมีมากขึ้น

ทั้งนี้ หากราคาหุ้นไม่สูงมากการพยายามในการสร้างราคาหุ้นให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นก็สามารถทำได้ง่ายกว่าหุ้นที่มีราคาซื้อขายค่อนข้างสูงเนื่องจากจะต้องใช้เงินจำนวนมาในการกระทำการดังกล่าว โดยในเรื่องดังกล่าวคนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดน่าจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เนื่องจากหากราคาหุ้นที่ลดลงหลังการแตกพาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น สัดส่วนการปรับเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นก็จะสูงกว่าสัดส่วนราคาที่ซื้อขายก่อนหน้า

"ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นการแตกพาร์ของหุ้นเก็งกำไร เพราะผู้ถือหุ้นใหญ่ต้องการให้จำนวนหุ้นที่ซื้อขายมีมากขึ้นเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นของบริษัท และก็ช่วยทำให้การทำราคาให้ตอบรับข่าวต่างๆทำได้ง่ายขึ้น" แหล่งข่าวกล่าว

ด้านความเคลื่อนไหวของหุ้นเก็งกำไรวานนี้ (28 ก.พ.) หุ้น EMC ราคาปิดที่ 4.92 บาท ลดลง 0.13 บาท หรือ 2.57% มูลค่าการซื้อขาย 96.76 ล้านบาท , หุ้น LIVE ราคาปิดที่ 3.62 บาท เพิ่มขึ้น 0.22 บาท หรือ 6.47% มูลค่าการซื้อขาย 285.51 ล้านบาท , หุ้น BLISS ราคาปิดที่ 1.07 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 4.46% มูลค่าการซื้อขาย 213.19 ล้านบาท และหุ้น IEC ราคาปิดที่ 1.51 บาท เพิ่มขึ้น 0.11 บาท หรือ 7.86% มูลค่าการซื้อขาย 527.97 ล้านบาท

อนึ่ง ก่อนหน้านี้หุ้นเก็งกำไรที่เคยมีการประกาศเแตกพาร์จาก 1 บาทเป็น 0.10 บาท เช่น บริษัท ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ LIVE ได้อนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้น และจำนวนหุ้นของบริษัท จากเดิม มูลค่าหุ้นละ 1 บาท จำนวน 460,000,000 หุ้น เป็น มูลค่าหุ้นละ 0.10 บาท (สิบสตางค์) จำนวน 4,600,000,000 หุ้น

ทั้งนี้ หากติดตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นก่อนการแตกพาร์จากราคาในระดับ 2-3 บาทต่อหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนแตะระดับเกือบ 20 บาทต่อหุ้นซึ่งผ่านหลังการแตกพาร์ราคาหุ้นที่ซื้อขายอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนการแตกพาร์สะท้อนให้เห็นว่าผู้ถือหุ้นของบริษัทโดยเฉพาะกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ไม่ได้มีการขายหุ้นออกไปจะได้รับประโยชน์จากมูลค่าหุ้นที่ไม่ปรับตัวลดลงในขณะที่มีหุ้นที่ถือครองจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า

ขณะที่อีก 1 บริษัทที่มีการอนุมัติแตกพาร์ คือ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS ซึ่งราคาหุ้นก่อนการแตกพาร์เคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 4-5 บาทก่อนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 17.20 บาทก่อนการแตกพาร์ ขณะที่หลังการแตกพาร์ราคาหุ้นซื้อขายอยู่ในระดับ 1-2 บาทซึ่งถือราคาที่ซื้อขายต่ำกว่าราคาที่ซื้อขายก่อนข่าวการแตกพาร์ไม่มากเช่นเดียวกัน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us