Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 กุมภาพันธ์ 2551
ปริญสิริฯถอยฉากผุดคอนโดฯใหม่ลุ้นรัฐบาล'สมัคร1'บริหารประเทศครบปี!!             
 


   
www resources

โฮมเพจ ปริญสิริ

   
search resources

ปริญสิริ, บมจ.
Real Estate
ชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย




"ปริญสิริ"แตาะเบรกชะลอพัฒนาโครงการคอนโดฯใหม่ หลังไม่มั่นใจในเสถียภาพของรัฐบาล"สมัคร 1" จะบริหารประเทศครบปีหรือไม่ พร้อมเร่งการขายโครงการคอนโดฯที่ลงทุนไปแล้ว 3 โครงการ กระโจนสู่เมืองท่องเที่ยว กระจายความเสี่ยงสู่รูปแบบการพัฒนาโครงการรีสอร์ทในพัทยา-ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 3,000 ล้านบาท ด้านเจ้าของจักรยานLA ยอมรับช่วงปี 50 ยอดขายโครงการบ้านเดี่ยวชะลอลง 50% ยัน"อิมเมจ เพลส"ปี 51 ปิดการขายโครงการ เล็ง4-5 แปลงใหม่โซนพุทธมณฑล ผุดโครงการบ้านเดี่ยวต่อ

นายชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2551 มีแผนพัฒนาโครงการใหม่ 6-8 โครงการ โดยมีสัดส่วนพัฒนาโครงการแนวราบ 50% และที่เหลือจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียม แต่ด้วยปัญหาด้านทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและรวมถึงตัวผู้ประกอบการเอง ทำให้บริษัทฯจำเป็นต้องชะลอการพัฒนาโครงการคอนโดฯ เพื่อรอประเมินสถานการณ์ตลาดอีกครั้ง ซึ่งอาจจะชะลอการก่อสร้างออกไปจนถึงปี 2552 ยกเว้นโครงการคอนโดฯที่ได้ลงทุนและพัฒนาไปแล้ว ยังคงเดินหน้าต่อ ทำให้ในปี 51 อาจจะไม่มีโครงการแนวสูงเกิดขึ้นใหม่ เนื่องจากไม่มั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาลชุดปัจจุบัน จะมีอายุการบริหารประเทศครบปีหรือไม่ หากเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นจริง จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในการลงทุนโครงการใหม่ และทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย

สำหรับโครงการคอนโดฯ ที่คาดว่าจะมีการเปิดขายในไตรมาสแรกของปี 51 ซึ่งได้พัฒนาไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ โครงการเดอะคอม พลีท นราธิวาสและ คอม พลีท ราชปราภ และโครงการสมาร์ท คอนโดฯ พระราม 2 เป็นโครงการตกแต่งพร้อมอยู่ ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบการก่อสร้างโครงการคอนโดฯ อีก 2 โครงการ คือ ในบริเวณถนนตากสินติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสและในโซนปิ่นเกล้า ซึ่งมีพื้นที่ 13 ไร่ โดยจะพัฒนาเป็นคอนโดฯจำนวน 2,000 ยูนิต ขณะเดียวกัน มีแผนพัฒนาโครงการคอนโดฯในเมืองพัทยา สาย 2 นาเกลือ 1 โครงการ และอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการรีสอร์ทในเมืองพัทยา มูลค่า 1,000 ล้านบาท และรีสอร์ทในปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยจะมีเชนโรงแรมจากต่างประเทศเข้ามาบริหาร และในอนาคต บริษัทจะมีรายได้จากการพัฒนาและค่าบริการจากโครงการรีสอร์ทเสริมรายได้รวมของบริษัทฯ

นายชัยวัฒน์ กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปี 50 มียอดขายรวม 6,800 ล้านบาท เติบโต 200% เมื่อเทียบกับปี 49 ที่มียอดขาย2,000-3,000 ล้านบาท โดยในปี 50 มียอดรับรู้รายได้ 2,500 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 300 ล้านบาท เนื่องจากติดปัญหาการก่อสร้างโครงการที่ล่าช้า ขณะที่มีความจำเป็นต้องใช้งบการตลาดที่สูงกว่าเป้า จาก 90 ล้านบาท เป็น 120 ล้านบาท ทั้งนี้ ยอดรับรู้รายได้มาจากโครงการแนวราบทั้งหมด แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 57.28% ทาวน์เฮาส์ 42.82% คิดเป็นยูนิตรวมที่ขาย 710 ยูนิต

ในส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 51 คาดว่าจะมียอดขาย 6,500 ล้านบาท มียอดรับรู้รายได้ 4,300 ล้านบาท จากยอดขายที่รอบันทึกเป็นรายได้ทั้งหมด 5,000 ล้านบาท

เจ้าของจักรยานLAเล็งผุดโครงการใหม่

นายสุรสิทธิ์ ติยะวัชรพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิมเมจ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เจ้าของธุรกิจส่งทอและจักรยานLA กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ ระดับราคา 3.99-8 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ "อิมเมจ เพลส" ว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดรับรู้รายได้รวมจากโครงการ อิมเมจ เพลส จำนวน 1,200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 207 ยูนิต จากทั้งหมด 327 ยูนิต ส่วนในปี 51 คาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้อีก 500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 120 ยูนิต โดยยอมรับว่า ในช่วงปี 49 โครงการมียอดขายบ้านเดี่ยวค่อนข้างดี สูงถึง 100 ยูนิต เนื่องจากภาพรวมของตลาดและการเมืองยังไม่มีปัญหา ทำให้ผู้ที่คิดจะซื้อบ้านกล้าตัดสินใจเร็วขึ้น ต่างกับปี 50 ที่ยอดขายโครงการลดลงกว่า 50% ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาการเมือง เศรษฐกิจชะลอตัวลง ผู้บริโภคระมัดระวังในการซื้อที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 51 จะสามารถปิดการขายโครงการได้

นอกจากนี้ ทางบริษัทฯอยู่ระหว่างการจัดหาที่ดินแปลงใหม่มาพัฒนาโครงการแนวราบเพิ่ม ซึ่งพิจารณาอยู่ 4-5 ในแปลงในบริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 4 ขนาดของที่ดินประมาณ 40-50 ไร่ ทั้งนี้ การขยายโครงการใหม่ จะนำคอนเซ็ปต์คอมูนิตีมอลล์เข้ามาเสริมในทุกๆโครงการใหม่   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us