Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน28 กุมภาพันธ์ 2551
TUF คาดรายได้ดอลล์พุ่ง12% บาทแข็งฉุดการโต             
 


   
www resources

โฮมเพจ ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์

   
search resources

ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์, บมจ.
ธีรพงศ์ จันศิริ
Frozen food




ทียูเอฟตั้งเป้ายอดขายในรูปดอลลาร์โต 12%อยู่ที่ 1.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ยอดขายในรูปเงินบาทโตแค่ 6% ประเมินราคาปลาทูน่ายังสูงอยู่ที่1พันดอลลาร์/ตัน หวั่นบาทแข็งค่าแตะ 32บาท โอกาสยอดขายรูปเงินบาทไม่โตแน่ เตรียมเพิ่มเรือในกองเรืออีก 2-3 ลำ และดูลู่ทางการลงทุนเพิ่มเติมในต่างประเทศทั้งสหรัฐฯและอินเดีย

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) (ทียูเอฟ) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายยอดขายในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 1,802 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 12%จากปีที่แล้วมียอดขายรวม 1,612 ล้านเหรียญสหรัฐ และยอดขายในรูปเงินบาทอยู่ที่ 58,860 ล้านบาท(อัตราแลกเปลี่ยน 32.5บาท/ดอลลาร์) โตขึ้น 6%จากปีที่แล้วมียอดขายอยู่ที่ 55,507 ล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มสถานการณ์ต่างๆในปีนี้เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยราคาปลาทูน่าเริ่มมีแนวโน้มอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 1,400 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากปีที่แล้วราคาดีดขึ้นไปทำสถิติสูงสุด 1,650 เหรียญสหรัฐ/ตัน ค่าเงินบาทไม่แข็งค่ามากกว่านี้ และราคาน้ำมันก็น่าจะอยู่ที่ระดับ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ส่วนกำไรสุทธิปี 2551 คาดว่าจะสูงกว่าปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 1,823 ล้านบาท โดยตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้อยู่ที่ระดับ 14-16% สูงกว่า 13.7%ในปี 2550 อย่างไรก็ตาม หากค่าเงินบาทแข็งค่าที่ระดับ 32 บาท/ดอลลาร์ ย่อมส่งผลให้ยอดขายในรูปเงินบาทและกำไรสุทธิไม่เติบโตเช่นเดียวกับ 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากรายได้ของบริษัทฯอยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ถึง 90 ซึ่งแนวโน้มค่าเงินบาทมีโอกาสสูงมากที่จะแข็งค่าแตะ 32บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

นายธีรพงศ์ กล่าวว่า กลยุทธ์การทำธุรกิจในปีนี้ยังเน้นการขยายตลาด การสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยปีที่แล้วบริษัทได้มีการขยายธุรกิจอาหารทะเลบรรจุกระป๋อง 100 ตัน/วันในเวียดนาม ซึ่งขณะนี้ผลิตอยู่ 50 ตัน/วัน คาดว่าในเร็วๆนี้จะเดินเครื่องจักรเต็มกำลังการผลิต การตั้งโรงงานปลาทูน่าในเวียดนามทำให้มีความยืดหยุ่นดีขึ้น รวมทั้งการเข้าไปลงทุนกองเรือเพื่อจับปลาที่มหาสมุทรอินเดีย ทำให้ได้ประโยชน์จากเจเทปาและสหภาพยุโรป รวมทั้งได้ข้อมูลด้านวัตถุดิบดีขึ้น ในอีก 2-3ปีข้างหน้าบริษัทมีแผนจะเพิ่มจำนวนเรือให้ได้ตามมาตรฐานกองเรือทั่วไปที่จะมีเรืออยู่ 6-7 ลำจากปัจจุบันที่อยู่ 4 ลำ ใช้เงินลงทุนเรือลำละ 12-15 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับประเทศที่เหมาะเป็นฐานการผลิต ได้แก่ อินโดนีเซีย เวียดนามและอินเดีย ซึ่งบริษัทคงดูลู่ทางโอกาสในการลงทุนเพิ่มเติมในลักษณะเข้าไปซื้อกิจการที่มีอยู่แล้วแทนการตั้งโรงงานใหม่เหมือนที่ลงทุนในเวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมเพราะค่าเงินบาทที่แข็งค่านี้ทำให้บริษัทฯลงทุนในต่างประเทศใช้เงินน้อยลง

กรณีที่เศรษฐกิจสหรัฐถดถอยนั้น คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อสินค้าของบริษัท เนื่องจากทูน่าเป็นสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน และมีราคาถูก ซึ่งปัญหาซับไพร์มทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงน่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจบริษัทฯในสหรัฐฯ ทำให้ต้นทุนทางการเงินต่ำลง โดยปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายในสหรัฐฯอยู่ที่ 800 ล้านเหรียญ จากปีที่แล้ว 750 ล้านเหรียญ คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1,000 ล้านเหรียญในอีก 3-5ปีข้างหน้า

ส่วนแผนการลงทุนในปีนี้ บริษัทฯจะใช้เงินประมาณ 1,000-1,200 ล้านบาท ไม่รวมโครงการใหม่ๆที่อาจจะเกิดขึ้น โดยบริษัทฯมีฐานะการเงินแข็งแกร่งโดยมีเงินลงทุนได้ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่ต้องเพิ่มทุนหรือก่อหนี้เพิ่ม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us