Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2535








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2535
"ซีพีเลือกซอฟต์แวร์ของไนเน็กซ์"             
 


   
search resources

เทเลคอมเอเซีย, บมจ.
ไนเน็กซ์ เนทเวิร์ค ซีสเต็ม
Telephone
Software




ในที่สุดการคัดเลือกผู้ร่วมดำเนินงานโครงการโทรศัพท์ 2 ล้านเลขหมายของเทเลคอมเอเซียได้เสร็จสิ้นลงในเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่ใช้เวลาในการพิจารณาอยู่นานถึง 6 เดือนเต็ม และบริษัทแรกที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อเจรจาทำสัญญาเป็นผู้ร่วมดำเนินการครั้งนี้คือบริษัท ไนเน็กซ์ เนทเวิร์คซีสเต็มจากสหรัฐอเมริกา จากจำนวนผู้เสนอตัวเข้ามาทั้งหมด 5 รายคือเอทีแอนด์ที, เอ็นทีที (NIPPON TELEGRAPH&TELEPHONE OF JAPAN), ฟรานซ์ เทเลคอม, ไนเน็กซ์และเบลล์ แคนาดา

ทั้งนี้ทองฉัตร หงส์ลดารมย์ในฐานะประธานกรรมการบริหารและผู้บริหารสูงสุดของเทเลคอมเอเชียได้กล่าวว่าหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ ใช้ในการพิจารณาคัดเลือกผู้ร่วมดำเนินการได้พิจารณาจากประสบการณ์ด้านเทคนิค การจัดการด้านการเงิน ด้านพาณิชย์และข้อเสนออื่น ๆ ที่ให้แก่บริษัท อย่างเช่นกรณีของราคาหุ้นที่ไนเน็กซ์เสนอเข้าร่วมทุนก็เป็นราคาที่บวกค่าพรีเมียมให้ด้วย

ไนเน็กซ์ เนทเวิร์ค ซีสเต็มเป็นบริษัทในกลุ่มที่มีประสบการณ์ในการติดตั้ง และบำรุงรักษาโครงข่ายโทรศัพท์ในเมืองที่มีประชากรหนาแน่นและมีระบบโทรคมนาคมที่ซับซ้อนมาแล้วมากมาย อย่างเช่นในเมืองนิวยอร์ก บอสตัน ประเทศอังกฤษ รวมทั้งเป็นผู้ดำเนินงานขยายโครงข่ายโทรศัพท์ในประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ด้วย

ในสัญญาของความร่วมมือกันระหว่างเทเลคอมเอเซียกับไนเน็กซ์มีประเด็นสำคัญด้วยกัน 4 เรื่องคือ

ประเด็นแรกเทเลคอมเอเซียได้เสนอให้ไนเน็กซ์เข้ามาร่วมทุน 10 % ของจำนวนหุ้นทั้งหมด เพื่อให้ไนเน็กซ์ได้เข้ามามีส่วนร่วมได้เสียในการดำเนินงานในโครงการครั้งนี้

ประเด็นที่สองเป็นข้อตกลงในการที่ไนเน็กซ์จะส่งเจ้าหน้าที่ระดับบริหาร และช่างเทคนิคที่มีความรู้ประสบการณ์เข้ามาช่วยเทเลคอมเอเซียในการดำเนินโครงการโทรศัพท์ 2 ล้านเลขหมายโดยระยะแรกจะส่งคนมาช่วยบริหารเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน ทั้งนี้เพื่อช่วยแก้ปัญหาบุคลากรที่ขาดประสบการณ์

ประเด็นที่สามเป็นข้อตกลงที่ไนเน็กซ์จะต้องฝึกอบรมบุคลากรของเทเลคอมเอเซียให้บริหารโครงการโทรศัพท์ 2 ล้านเลขหมายได้ ซึ่งข้อตกลงนี้จะมีการตั้งศูนย์ฝึกอบรมขึ้นโดยไนเน็กซ์จะเป็นผู้สนับสนุนด้านอุปกรณ์และบุคลากรในศูนย์ฝึกอบรมแห่งนี้

ประเด็นสุดท้ายเป็นข้อตกลงที่ไนเน็กซ์จะนำซอฟต์แวร์ระบบ CSS (CUSTOMER SERVICE SYSTEM) ซึ่งเป็นระบบคอมพิวเตอร์เนตเวิร์กขนาดใหญ่มาใช้ในการบริหารงานทั้งหมดในโครงการโทรศัพท์ 2 ล้านเลขหมาย

ทองฉัตรอธิบายเพิ่มเติมว่า "เราเชื่อว่าไนเน็กซ์มีความสามารถมีกำลัง ประสบการณ์ที่เหมาะสมและคล้ายคลึงกับกรุงเทพฯ รวมถึงเงื่อนไขของไนเน็กซ์เป็นเงื่อนไขที่รับได้ ในระยะ 5 ปีแรกเราขาดบุคลากรระดับสูงมาก เพราะเราเป็นบริษัทใหม่ เราหาไม่ได้ เราจึงต้องหาผู้ร่วมดำเนินการ ใน 5 ปีเราอาจมีคนจากไนเน็กซ์มาร่วมประมาณปีละ 60-100 คน ในระหว่าง 5 ปีนี้เราจะพัฒนาคนขึ้นมาบริหาร และปฏิบัติการจากศูนย์ฝึกอบรมที่เราร่วมกับสถาบันการศึกษาในประเทศ หลังจาก 5 ปีไปแล้วเราสามารถดำเนินการเองได้ ซึ่งจำนวนพนักงานทั้งหมดที่เราตั้งไว้จะมีประมาณ 5,000 คน"

สิ่งแรกที่ไนเน็กซ์ให้ความช่วยเหลือแก่เทเลคอมเอเซียในขณะนี้ คือการช่วยดูถึงความต้องการในรายละเอียดของระบบ และในเรื่องการวางแผนการดำเนินการ ซึ่งนั่นหมายรวมถึงการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการพิจารณาตัวฮาร์ดแวร์ที่เทเลคอมเอเซีย จะนำเข้ามาใช้งานกับระบบซอฟต์แวร์ของไนเน็กซ์ด้วย

ส่วนที่เป็นฮาร์ดแวร์คือตัวเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นปัจจุบันมีผู้เสนอเข้ามา 4 ราคา คือ AMDAHL, IBM, HITASHI และ FUJITSU แต่เทเลคอมเอเซียยังไม่ได้มีการตัดสินใจว่าจะใช้ของใครในขณะนี้

อย่างไรก็ตามวัลลภ วิมลวณิชย์ กรรมการและรองประธานกรรมการบริหารของเทเลคอมเอเซียได้เปิดเผยถึงมูลค่าการลงทุนในส่วนของ SUPPORTING SYSTEM ที่จะนำมาใช้เพื่อให้การดำเนินงานในการบริหารโครงข่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดจะต้องใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 4,000 ล้านบาทโดยรวมตัวฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนครึ่งต่อครึ่ง และระบบทั้งหมดนี้จะติดตั้งเสร็จครบเมื่อเทเลคอมเอเซียดำเนินการไปแล้ว 3 ปี

ทองฉัตรกล่าวถึงแผนงานที่วางไว้ว่า "เราเชื่อว่าเทเลคอมเอเซีย สามารถให้บริการเลขหมายแรกได้ในเดือนกันยายนปีนี้ และจนถึงสิ้นปีนี้จะสามารถให้บริการได้ประมาณ 100,000 เลขหมาย จนถึงเดือนพฤษภาคม 2536 ซึ่งเป็นปีสิ้นสุดโครงการเร่งด่วนปีแรกเราจะให้บริการได้ 500,000 เลขหมายโดยจะทำการติดตั้งในพื้นที่ 40 แห่งทั่วกรุงเทพฯและใช้เงินลงทุนในปีแรกนี้ทั้งหมดประมาณ 10,000 ล้านบาท"

เทเลคอมเอเซียมีแผนที่จะเพิ่มทุนจดทะเบียนภายในปีนี้จากปัจจุบัน 3,000 ล้านบาทเป็น 20,000 ล้านบาทพร้อมกับการเปิดโอกาสให้ผู้สนใจรายอื่น นอกเหนือจากไนเน็กซ์เข้ามาร่วมทุนโดยกำหนดสัดส่วนที่จะกระจายให้กับผู้ถือหุ้นรายใหม่รวมทั้งหมดไม่เกิน 15% ซึ่งปัจจุบันมีธนาคาร สถาบันการเงินบริษัทประกันภัยและบริษัทขนาดใหญ่หลายรายติดต่อเข้ามาแต่ยังไม่ได้มีการพิจารณาในขณะนี้

สำหรับการนำบริษัทฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์นั้นทองฉัตรกล่าวว่า "เราไม่จำเป็นต้องรอผลการดำเนินงานครบ 3 ปีอย่างบริษัทอื่น เพราะเราเป็นบริษัทฯ ที่ได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอจึงเป็นเงื่อนไขที่ยกเว้น ดังนั้นเมื่อเราเพิ่มทุนและกระจายหุ้นให้ภาคเอกชนเรียบร้อยแล้ว เราจะนำเข้าตลาดภายในปีนี้"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us