ชาร์ป ทวงบัลลังก์แอลซีดีทีวี หวังขึ้น TOP 3 จับมือ ชิน บรอดแบนด์ โคโปรโมชั่นร่วมกัน หวังสร้างประสบการณ์ในการรับชมรายการที่ให้สัญญาณระดับ Full HD ผ่าน IPSTAR นอกจากนี้ ยังสร้างโซลูชั่นใหม่ด้วยเครื่องเสียงที่ใช้คู่แอลซีดีทีวีของชาร์ป พร้อม CRM โปรแกรม เอาใจลูกค้าเก่า สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของชาร์ป

แอลซีดีทีวีถือเป็นตลาดดาวรุ่งของวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยมีอัตราการเติบโตที่สูงถึง 300 กว่าเปอร์เซ็นต์ในปีที่ผ่านมา ทว่า 60% ของปริมาณความต้องการในตลาด 2.5 แสนเครื่อง เป็นแอลซีดีทีวีขนาด 32 นิ้ว ซึ่งเป็นรุ่นที่มีการทำสงครามราคาสูงที่สุด ทำให้มาร์จิ้นสินค้าลดลง โดยราคาแอลซีดีทีวีในปีที่ผ่านมาลดลงถึง 30%

สำหรับในปีนี้คาดว่าปริมาณความต้องการแอลซีดีทีวีจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 แสนเครื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาที่ลดลงทำให้ลูกค้าซีอาร์ทีทีวี 29 นิ้ว สวิตชิ่งมาซื้อแอลซีดีทีวี 32 นิ้วแทน อีกส่วนหนึ่งเกิดจากเซกเมนต์ใหม่ๆที่เกิดขึ้นในตลาดเช่นแอลซีดีทีวี 19 นิ้ว ราคาหมื่นบาทต้นๆ ซึ่งจะมีส่วนทำให้แต่ละครัวเรือนมีแอลซีดีทีวีเพิ่มขึ้น โดยแต่ละคนจะมีแอลซีดีเครื่องเล็กในห้องส่วนตัว และมีเครื่องใหญ่สำหรับดูทั้งครอบครัว

อย่างไรก็ดี แนวโน้มการแข่งขันในตลาดยังคงเน้นจอขนาดใหญ่มากขึ้น และเพื่อมิให้สินค้าต้องตกอยู่ภายใต้สงครามราคา หลายๆแบรนด์จึงพยายามสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าของตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมาโซนี่ได้วางคอนเซ็ปต์ HD World ในการทำตลาดสินค้ากลุ่มภาพและเสียง ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์ของโซนี่ไม่ว่าจะเป็นกล้องไซเบอร์ช็อต กล้องวิดีโอแฮนดี้แคม เครื่องเล่นบลูเรย์ดิสก์ เกมเพลย์สเตชั่น 3 ล้วนแต่ให้สัญญาณภาพที่มีความละเอียดระดับ Full HD โดยมีแอลซีดีทีวีบราเวีย เป็นตัวรับสัญญาณ Full HD พร้อมกับมีการทำโปรโมชั่นสินค้า Full HD ร่วมกัน เช่นงานโซนี่เดย์ 2008 มีการจัดแพกเกจขายสินค้า Full HD เป็นแพกเกจคู่กันในราคาประหยัดเพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคซื้อแต่สินค้าของโซนี่ เช่น ซื้อแอลซีดีทีวีบราเวียรุ่นที่กำหนด พ่วงกับกล้องวิดีโอแฮนดี้แคม และเครื่องเล่นบลูเรย์ดิสก์ ก็จะได้รับส่วนลด 15,000 บาท พร้อมรับสิทธิ์ซื้อเครื่องบันทีก DVD DV ในราคาพิเศษ 5,000 บาท จากปรกติ 9,900 บาท หรือซื้อแอลซีดีทีวี บราเวีย ฟูลเอชดี รุ่นที่กำหนดก็จะได้รับชุดเครื่องเสียงโฮมเธียเตอร์

นอกจากนี้โซนี่ยังร่วมกับ ทรูวิชั่นส์ ในการทำโปรโมชั่นเพื่อให้ลูกค้าทรูวิชั่นส์ซื้อแอลซีดีทีวีบราเวียของโซนี่ในราคาพิเศษเพื่อรองรับการถ่ายทอดสัญญาณซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีการทดลองออกอากาศด้วยสัญญาณ Full HD เช่น การถ่ายทอดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษคู่สำคัญๆ ล่าสุด ทรูวิชั่นส์ มีแผนที่จะพัฒนาช่องรายการให้เป็นช่อง Full HD อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ตลาดแอลซีดีทีวี เติบโตมากขึ้น โดยสังเกตจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดทีวีในประเทศที่พัฒนาระบบการส่งสัญญาณไปสู่ระบบ Full HD จะทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้ทีวีที่รองรับสัญญาณระดับ Full HD มากขึ้น โดยปัจจุบัน ทรูวิชั่นส์ มีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 7 แสนราย ซึ่งหากเปลี่ยนมาใช้ Full HD TV ก็เชื่อว่าจะผลักดันให้ตลาดแอลซีดีทีวีเติบโตขึ้นมาก

อย่างไรก็ดี แม้โซนี่จะปูพรมสำหรับตลาด Full HD มาก่อนใคร โดยสามารถชิงบัลลังก์ผู้นำตลาดแอลซีดีจากชาร์ปแต่ก็ไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ หลังจากซัมซุงโหมตลาด ลอนช์ ทีวีกว่า 80 รุ่น รุกทุกไลน์อัปตั้งแต่รุ่น 32 นิ้วราคาถูก รุ่น 26 นิ้วที่มีราคาหมื่นกว่าบาท ไปจนถึงรุ่นไฮเอนด์อย่างบอร์โดซ์ พลัส ที่เน้นดีไซน์ และแอลซีดีทีวี Full HD 100 เฮิร์ตซ์ ที่ลบจุดด้อยของแอลซีดีทีวีที่มักให้สัญญาณภาพเบลอเมื่อภาพเคลื่อนไหวเร็ว เช่นกีฬา หรือภาพยนตร์แอ็กชั่น ที่ภาพเคลื่อนไหวเร็วๆ ความคมชัดจะลดลง ซึ่งการรุกอย่างหนักของซัมซุงได้ส่งผลให้ซัมซุงมีส่วนแบ่งการตลาดแซงหน้าโซนี่ ซึ่งซัมซุงระบุถึงส่วนแบ่งการตลาดของตัวเองว่าสูงถึง 38% ขณะที่เบอร์ 2 อย่างโซนี่มีส่วนแบ่งการตลาด 20 กว่าเปอร์เซ็นต์

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้โซนี่เสียแชมป์ให้กับซัมซุงคือที่ผ่านมาโซนี่โฟกัสไปที่ช่องทางจำหน่ายที่เป็นดีลเลอร์มากกว่า ในขณะที่ซัมซุงมีทุกไลน์อัป สินค้าราคาถูกก็เข้าดิสเคานต์สโตร์ ซึ่งเป็นช่องทางที่มีการขยายตัวอย่างมากและผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับช่องทางดังกล่าวมากขึ้น ส่งผลให้ซัมซุงเข้าถึงผู้บริโภคมากกว่าโซนี่ ดังนั้นโซนี่จึงมีการปรับนโยบายด้านช่องทางจำหน่ายเสียใหม่ โดยให้ความสำคัญกับโมเดิร์นเทรดมากขึ้นเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งจุดแข็งในช่องทางร้านค้าดีลเลอร์ที่มีสัมพันธ์ที่ดีต่อแบรนด์โซนี่

ในขณะที่ชาร์ปซึ่งเคยเป็นผู้นำตลาดแอลซีดีทีวีในยุคที่พลาสม่าทีวีกำลังได้รับความนิยมสูงสุด ทว่าปัจจุบันชาร์ปมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 8% อยู่อันดับที่ 5 โดยชาร์ปประกาศกลับมารุกตลาดอีกครั้งหลังจากต้องสูญเสียบัลลังก์แชมป์ไป เนื่องจากชาร์ปใช้เทคโนโลยีการผลิตทั้งหมดจากประเทศญี่ปุ่น ทว่าในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ปริมาณความต้องการแอลซีดีทีวีในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้ชาร์ปตั้งหันไปให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศญี่ปุ่นก่อน โดยมีการเพิ่มกำลังการผลิตแอลซีดีทีวีที่โรงงานคาเมยาม่า ซึ่งล่าสุดกำลังพัฒนาแอลซีดีทีวี 108 นิ้ว ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก โดยก่อนหน้านี้แอลซีดีทีวี 65 นิ้วของชาร์ปราคา 7 แสนบาท เคยเป็นแอลซีดีทีวีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ในการกลับมารุกตลาดของชาร์ปอย่างจริงจัง ชาร์ป มองเป้าเพียงการติด 1 ใน 3 ของผู้นำตลาด โดยมองตัวเลขกำไรทางธุรกิจมากกว่าการโฟกัสไปที่ตัวเลขส่วนแบ่งการตลาด

แคมเปญล่าสุดของชาร์ปคือการร่วมมือกับชินบรอดแบนในการทำโปรโมชั่นร่วมกัน เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ Full HD อย่างแท้จริง เนื่องจากที่ผ่านมาลูกค้าซื้อแอลซีดีทีวีไปดูรายการปรกติก็จะไม่ได้อรรถรสในการรับชมเพราะสัญญาณที่ถ่ายทอดจากสถานีโทรทัศน์ยังเป็นแบบเดิม แม้จะใช้ทีวีดี ภาพก็ไม่คมชัดขึ้น ดังนั้นเพื่อให้ผู้บริโภคได้เห็นความสำคัญของ Full HD TV ชาร์ปจึงจัดทำแคมเปญดังกล่าวขึ้น โดยลูกค้าที่ซื้อแอลซีดีทีวีของชาร์ปรุ่นที่กำหนดจะได้รับสิทธิรับชมรายการจาก IPSTAR ของบริษัทชินบรอดแบนด์ ซึ่งเป็นวิดีโอออนดีมานด์ ฟรี สูงสุด 9 เดือน ขึ้นกับรุ่นที่ซื้อ ซึ่งถ้าเป็นลูกค้าทั่วไปต้องเสียค่าติดตั้ง จานรับสัญญาณและ Set Top Box 7,000 บาท และค่าธรรมเนียมรายเดือนอีก 1,500-2,000 บาท

ทั้งนี้ชาร์ปเชื่อว่าแคมเปญดังกล่าวจะผลักดันให้ยอดขายแอลซีดีทีวีเติบโต 30% หรือคิดเป็นยอดขาย 3,000 เครื่องต่อเดือน โดยแคมเปญดังกล่าวเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ไปจบเดือนเมษายนนี้

“ที่ผ่านมาคู่แข่งจะเน้นเรื่องสงครามราคา มีการแจกของแถม แคมเปญเงินผ่อน 0% ซึ่งเราไม่ลงไปเล่นตลาดแมส เราวางภาพลักษณ์ ชาร์ป อะควอร์ส ให้เป็นสินค้าพรีเมียม เป็นเทคโนโลยีที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งผู้บริโภคเชื่อมั่นคุณภาพ โพสิชันนิ่งของชาร์ปไม่ใช่สินค้าราคาถูก แต่เราจะเป็นสินค้าที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า การร่วมกับชินบรอดแบนด์เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เรายังมีแคมเปญอื่นๆที่จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทั้งลูกค้าใหม่ และลูกค้าเก่าที่เคยซื้อสินค้าของเราไปใช้” สุทธิชัย เกียรตินานุสนธิ์ ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์ คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ ชาร์ป ไทย กล่าว

นอกจากนี้ ชาร์ปยังมีการสร้างโซลูชั่นด้วยการพ่วงกับระบบเครื่องเสียงรุ่น RACK System และ TYMPHANY Subwoofer ซึ่งออกแบบโทนสีดำเพื่อให้สอดคล้องกับดีไซน์แบล็กเปียโนของชาร์ป อะควอร์ส แอลซีดีทีวี ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sharp Aquos Cluster Product โดยมีการจัดดิสเพลย์ตามร้านค้าซึ่งมีกว่า 300 แห่ง แต่จะมีเพียง 50 แห่งที่มีการดิสเพลย์ครบไลน์อัปของสินค้า

พร้อมกันนี้ยังมีการสื่อสารไปสู่ผู้บริโภคให้คำนึงถึงคุณภาพและการบริการหลังการขายมากกว่าจะเน้นเรื่องของราคา เนื่องจากแอลซีดีทีวีของชาร์ปมีราคาสูงกว่าคู่แข่ง 10-20% ดังนั้นจึงต้องชูจุดขายในเรื่องของมูลค่าเพิ่มที่ลูกค้าจะได้รับจากการซื้อทีวีของชาร์ป เช่นแคมเปญที่ร่วมกับชินบรอดแบนด์ นอกจากนี้ยังมี CRM โปรแกรมที่จะสร้างแวลูให้กับลูกค้าเก่าที่เคยซื้อแอลซีดีทีวีของชาร์ปไปใช้ ซึ่งแคมเปญดังกล่าวจะลอนช์ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า