Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 กุมภาพันธ์ 2551
AMATAปี50กำไร1,055ล.โต35%ยอดขายที่ดิน-รายได้บริการเพิ่มขึ้น             
 


   
www resources

โฮมเพจ อมตะ กรุ๊ป

   
search resources

อมตะ คอร์ปอเรชั่น, บมจ.
ชวลิต ยอดมณี




พลตำรวจเอก ชวลิต ยอดมณี ประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA กล่าวว่า ในปี 2550 บริษัทมียอดกำไรสุทธิของบริษัทและบริษัทย่อยจำนวน 1,055.04ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากผลดำเนินงานเมื่อปี 2549 ซึ่งมียอดกำไรสุทธิ780.87 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 274.17 ล้านบาท

โดยสาเหตุที่ส่งผลให้ยอดกำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจาก บริษัทมีรายได้จากการขายที่ดินในปี 2550 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 3,424.80 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ารายได้จากการขายที่ดินเมื่อปี 2549 ที่มีอยู่ 2,557.56 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 34% ทั้งนี้เนื่องจากบริษัท มีการขายที่ดินให้กับลูกค้าได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก

นอกจานี้ บริษัทยังมีรายจากการให้เช่าและรายได้ค่าบริการอื่นๆ ในปี 2550 จำนวน 973.83 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนจำนวน 864.33 ล้านบาท พบว่าเพิ่มขึ้นถึง 109.50 ล้านบาท หรือ 13% เนื่องจากลูกค้าของบริษัทมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้ในส่วนนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี

ขณะเดียวกัน ในปี 2550 บริษัทฯได้เปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึก เงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมในงบการเงินเฉพาะกิจการ จากวิธีส่วนได้เสีย เป็นวิธีราคาทุน ตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 44(ปรับปรุง 2550) เรื่องงบการเงินรวมและงบการเงินเฉพาะกิจการ ซึ่งกำหนดให้เงินลงทุนในบริษัทย่อย เงินลงทุนในกิจการที่มีการควบคุมร่วมกัน และเงินลงทุนในบริษัทร่วมในงบการเงินเฉพาะกิจการต้องแสดงตามวิธีราคาทุน

ดังนั้นในการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีดังกล่าว บริษั ทฯได้ปรับย้อนหลังงบการเงิ นเฉพาะกิ จ การงวดก่อนที่นํามาแสดงเปรียบเทียบเสมือนว่าบริษัทฯได้ถือปฏิบัติเกี่ยวกับการบัน ทึก บัญชีเงินลงทุนในบริษัทย่อย และบริษัทร่วมตามวิธีราคาทุนมาโดยตลอด การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิในงบกำไรขาดทุนเฉพาะกิจการ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 และ 2549 เพิ่มขึ้นจำนวน 21 ล้านบาท (0.02 บาทต่อหุ้น)และลดลง 180 ล้านบาท (0.17 บาทต่อหุ้น) ตามลำดับ

โดยผลสะสมของการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีดังกล่าวได้แสดงไว้ในหัวข้อ "ผลสะสมจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการบันทึกเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม" ในงบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้นเฉพาะกิจการแล้ว

นักวิเคราะห์ บล.ธนชาต จำกัด กล่าวถึง AMATA ว่า แนะนำซื้อ Target Price 20 บาท โดยให้เหตุผลว่าถึงแม้ความขัดแย้งที่รุนแรงทางการเมืองได้ส่งผลกระทบทางลบต่อ AMATA แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2006 เนื่องจากยอดขายที่ดินในปี 2007 ในประเทศไทยมีแนวโน้มทีดีขึ้น โดยมรยอดการขายที่ดินเพิ่มขึ้น มากกว่า 1,700 ไร่ (680 เอเคอร์) เทียบกับทั้งปี 2006 ที่มีจำนวน 547 ไร่ แม้ว่าในปี 2007 ยอดขายอันดับ 3 มาจาก Holly ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจีนของบริษัทฯ แต่ยังคงมีการฟื้นตัวที่แข็งแกร่ง ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าหลักของ AMATA ในปีนี้คาดว่าจะยังคงเป็นลูกค้าชาวญี่ปุ่น (มีสัดส่วนเป็น 43%) และเป็นลูกค้าผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ (37%) ในวันที่ 5 มิถุนายน รัฐบาลไทยได้ตัดสินใจออกนโยบายสนับสนุนการผลิตรถอีโค-คาร์ ขึ้นในประเทศไทย โดยการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตลงจากเดิม 30% เป็น 17% (เทียบกับอัตราภาษี 30% สำหรับรถยนต์นั่งโดยสาร และ 20% สำหรับรถปิคอัพบรรทุก) และเราเห็นถึงการขยายตัวที่ได้รับการอนุมัติจาก BOI ในช่วง 4Q07 แล้ว ซึ่งจากนโยบายดังกล่าวจะส่งผลดีอย่างมากให้กับธุรกิจของ AMATA และคาดว่ายอดขายที่ดินในนิคมอุตฯ จะเพิ่มขึ้นจากลูกค้าเก่าที่ต้องการขยายกำลังการผลิต และลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่กำลังหาที่ดินเพื่อตั้งโรงงานใหม่ เนื่องจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครเป็นพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมที่ดีที่สุดในประเทศไทย

“เราปรับเพิ่มประมาณการผลการดำเนินงานของเราสำหรับ AMATA ราว 16% ในปี 2007-08 และราคาเป้าหมายของเราคำนวณโดยวิธี DCF อยู่ที่ 20 บาท/หุ้น ซึ่งหมายความถึงการซื้อขายในระดับ P/E ที่ 15.9 เท่า ในปี 2008 (3% yield) ปัจจัยผลักดัน คือ สมมติฐานยอดขายที่ดินที่ค่อนข้าง conservative สำหรับปัจจัยผลักดันอื่นที่มีต่อราคาหุ้น AMATAคือ บริษัทย่อยของ AMATA (ถือหุ้นอยู่ 61%) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของเวียดนาม AMATA เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่อันดับ 3 ในประเทศเวียดนามซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมาธุรกิจที่เวียดนามสร้างรายได้และกำไรเกือบราว 15% ของรายได้และกำไรรวมของบริษัทฯ เราปรับคำแนะนำเป็น ซื้อ จาก ถือ”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us