Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กรกฎาคม 2535








 
นิตยสารผู้จัดการ กรกฎาคม 2535
"เหตุวิกฤตครั้งหนึ่งในชีวิต ถาวร พรประภา"             
 


   
search resources

สยามกลการ, บจก.
ถาวร พรประภา
Vehicle




ถาวร พรประภาเป็นตัวอย่างของพ่อค้าในยุคสงครามโลกครั้งที่สองที่บุกเบิกกิจการค้ารถยนต์จนสร้างอาณาจักรอุตสาหกรรมในนามของ "สยามกลการ" ได้สำเร็จเพราะส่วนผสมระหว่างสายสัมพันธ์ธุรกิจกับการะสมทุนให้แข็งแกร่ง

ยามวิกฤต ถาวรได้พิสูจน์ว่าคอนเนกชันที่มีอยู่กับผู้ยิ่งใหญ่ของบ้านเมืองนี้ สามารถช่วยให้กิจการของครอบครัวตัวเองรอดพ้นการล่มสลายได้

จาก "บันทึกความทรงจำ" ที่ถาวรได้เขียนขึ้นในวาระครบรอบ 60 ปี ถาวรได้เล่าให้ฟังว่า หลังจากที่ตนเองได้แยกตัวออกจาก "ตั้งท่งฮวด" กิจการเก่าของพ่อแม่มาตั้งบริษัทสยามกลการต่อมาตั้งท่งฮวดประสบวิกฤตการณ์อย่างหนักเพราะเกิดคอร์รัปชันครั้งใหญ่ ทำให้ตั้งท่งฮวดเกือบจะล้มละลาย !

ยิ่งกว่านั้น ถาวรได้เล่าว่า ลูกน้องตั้งท่งฮวดที่ทุจริตก็ยังกลั่นแกล้งพี่ชายของตนและตั้งท่งฮวดนานาประการใส่ร้ายทำเรื่องถูกให้กลายเป็นผิด

"เหมือนพระช่วยดลบันดาล ทำให้ข้าพเจ้าเลื่อนการเดินทางไปอีก 3 วัน พอวันรุ่งขึ้นก็เกิดเรื่อง ถ้าข้าพเจ้าไปเยอรมันตอนนั้นแล้ว เรื่องคงผันแปรไปหมด และจะวิ่งไปขอให้ท่านผู้ใหญ่ช่วยก็คงไม่ทัน" ถาวรบันทึกถึงจังหวะชีวิตเลวร้ายช่วงนี้ไว้

ผู้ใหญ่ที่ช่วยเหลือถาวรในตอนนั้นมี สัญญา ยมสมิต สหัส มหาคุณ และจงกลณี จันทรสาขาซึ่งเป็นน้องท่านผู้หญิงวิจิตรา ธนะรัชต์ เป็นผู้พาถาวรไปพบจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

"ตอนนั้น ท่านจอมพลเป็นประธานของธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของตั้งท่งฮวดเมื่อข้าพเจ้าไปเรียนเรื่องราวให้ท่านทราบ และขอความช่วยเหลือจากท่านแล้ว ท่านพูดว่าท่านจะช่วย แต่ต้องให้ข้าพเจ้ารับรองว่าข้าพเจ้าจะต้องไปช่วยควบคุมด้วย ข้าพเจ้าก็รับปาก และท่านถามว่าจะทำกันต่อไปไหวหรือ ข้าพเจ้าก็ตอบว่า ไปไหว แต่อยู่ที่ท่านคนเดียวเท่านั้นที่จะให้รอดหรือไม่รอด เพราะท่านเปรียบเสมือนหมอ ถ้าหมอช่วยก็ไปรอดแล้วท่านก็รับปากว่าจะดูให้" ถาวรเล่าให้ฟังถึงการแก้ไขสถานการณ์

จากการแก้ไขปัญหาทีละเปลาะ ถาวรได้วิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ที่มีอำนาจ ในคดีความที่สินธุ์ พรประภาพี่ชายของตนและกิจการตั้งท่งฮวดถูกใส่ร้าย โดยปรึกษากับเฉลิม เชี่ยวสกุล ซึ่งคบหาสนิทกันมานาน

"คุณเฉลิมพาไปหาท่าน ประมาณ อดิเรกสารที่บ้านข้าพเจ้าจำได้ว่า ตอนที่ข้าพเจ้าไปท่านประมาณนั้น ท่านกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนในบ้าน ข้าพเจ้าไปเล่าเรื่องที่เป็นจริงให้ฟังและพูดว่า "พรุ่งนี้ ผมจะปิดบริษัทหมด เพราะแผ่นดินนี้มืดเสียแล้ว" เพราะคนที่โกงเขาแล้วยังไปแจ้งตำรวจ ท่านประมาณจึงพาไปหาพลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ ซึ่งขณะนั้นท่านเป็นอธิบดีกรมตำรวจ ตอนแรกคุณเผ่าก็ต่อว่าข้าพเจ้าโดยท่านเข้าใจว่าข้าพเจ้าเป็นคนทำให้เสียหาย แต่หลังจากได้เรียนชี้แจงให้ท่านเข้าใจเรื่องที่เป็นจริงแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้รับความกรุณาช่วยเหลือจากท่าน"

ผู้มีพระคุณที่ถาวรจะลืมไม่ลงอีกคนหนึ่งก็คือ เจ้าสัวอื้อจือเหลียง มหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งในยุคนั้น ในยามวิกฤตครั้งที่สองที่ถาวรต้องเผชิญปัญหาข่าวลือสะพัดในวงการค้าว่าบริษัทในเมืองไทย 6 บริษัทจะล้มละลายในจำนวนนี้มีบริษัทสยามกลการอยู่ด้วย

นอกจากนี้ถาวรยังถูกกลวิธีปล่อยข่าวแกล้งด้วยว่าถาวรหนีไปอยู่เวียงจันทร์ ประเทศลาวแล้ว ปิยะ ภิกยาธร พนักงานชั้นผู้ใหญ่ของธนาคารกรุงเทพได้โทรศัพท์มาเล่าให้ถาวรฟังแล้วถามว่ารู้ไหม เขาพูดกันอย่างนี้ ถาวรก็ตอบว่า

"ข้าพเจ้ารู้แล้ว และคนที่ปล่อยข่าวแกล้งพวกข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็พอทราบว่าเป็นพวกทำงานธนาคาร นายธนาคารบางท่านได้บอกกับข้าพเจ้าว่า เรื่องที่เขาลือกันนี้ได้ท้าพนันไปแล้ว 1 ต่อ 100 ถ้าเป็นจริงจะให้ 1 ล้านบาท ข่าวนี้เป็นการทำความปั่นป่วนในวงการธุรกิจเป็นอย่างมาก เจ้าสัวอื้อจือเหลียงนี้ข้าพเจ้าเคารพท่านมาก และท่านก็เมตตากับข้าพเจ้า หลังจากที่มีข่าวแพร่ออกไปแล้ว วันหนึ่งท่านได้มาหาข้าพเจ้าที่บริษัทและบอกข้าพเจ้าว่า "ถาวร อั๊วกำลังจะไปปีนัง แต่อั๊วสั่งอุเทนไว้แล้วว่าถ้าต้องการใช้เงิน 30-40 ล้านบาท ก็ให้ไปเอา" ข้าพเจ้าขอบพระคุณท่านบอกท่านว่าตอนนี้ยังไม่เป็นไรถาวรบันทึกบุญคุณครั้งนี้ไว้

การที่ถาวรมีผู้ใหญ่ที่มีอำนาจและอิทธิพลทั้งด้านการเมืองเศรษฐกิจและสังคมเป็นเกราะป้องกันภัยคุกคามกิจการสยามกลการ ทำให้ถาวรดำเนินนโยบายแต่งตั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ปลดเกษียณแล้วมาเป็นที่ปรึกษาบริษัทในหลายยุคสมัยติดต่อกัน ถาวรได้ให้เหตุผลแห่งการกระทำนี้ว่า

"วิธีที่ข้าพเจ้าเชิญผู้มีอายุมาก ซึ่งเคยรับราชการในตำแหน่งชั้นผู้ใหญ่ของรัฐบาล หรือเคยเป็นพนักงานชั้นผู้ใหญ่ในวงการธุรกิจการค้ามาแล้วมาเป็นที่ปรึกษา จึงเป็นเรื่องที่ข้าพเจ้าคิดว่าถูกต้อง บริษัทในต่างประเทศก็ตั้งพวกที่ปลดเกษียณอายุแล้วมาเป็นที่ปรึกษาเช่นกัน ข้าพเจ้านึกถึงเรื่องสามก๊ก การให้แม่ทัพแบบลิโป้ หรือเตียวหุย ซึ่งมีแต่กำลังแต่ไม่มีปัญญาไปรบนั้นจะสู้ให้คนที่มีกำลังและปัญญาเช่นจูล่งไปรบไม่ได้" ถาวรเล่าให้ฟัง

ผลการสนับสนุนและเป็นผู้หนึ่งที่ริเริ่มสมาคมอุตสาหกรรมไทย ก็ทำให้ถาวรมีโอกาสใกล้ชิดกับวรการเศรษฐกิจทั้งภายในภาคเอกชนและภาครัฐบาลเสมอมา บทบาทของ "สยามกรุ๊ป" ในปัจจุบันจึงมีอยู่สูงมากในสาขากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และคอนเนกชั่นที่ถาวรได้สานไว้ก็สืบต่อมาถึงคนรุ่นหลัง

นอกจากเหตุวิกฤตที่เกิดกับกิจการงานแล้ว ในชีวิตส่วนตัวของถาวร พรประภาที่ต้องประสบรุนแรงก็มี คราวหนึ่งหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ถาวรได้นั่งเครื่องบินจากไคโรไปอิตาลีเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องบิน ประกาศห้ามมิให้ผู้โดยสารแตะต้องสวิตช์ไฟฟ้าทุกอัน ถ้าแตะต้องเครื่องบินจะระเบิดทันที ทุกคนตกใจมาก สวดมนต์ไหว้พระกันหมด ฝรั่งก็ไหว้พระด้วย จนกระทั่งเครื่องบินย้อนกลับมาลงไคโรโดยปลอดภัย

อีกครั้งหนึ่ง ถาวรได้เล่าให้ฟังว่า ไปชมโรงงานทอผ้าในญี่ปุ่นกับประมาณ อดิเรกสาร ขณะที่เดินอยู่ในโรงงาน เกิดอุบัติเหตุ กระสวยทองเหลืองแหลมยาวประมาณ 12 นิ้วหลุดจากเครื่องทอผ้ามาชนหน้าอกตนเอง

"เดชะบุญในขณะนั้นอะไรไม่ทราบ ทำให้ข้าพเจ้าเอี้ยวตัวไปข้าง ๆ เล็กน้อย ดังนั้นกระสวยที่วิ่งมาชนจึงชนหน้าอกข้าพเจ้าไม่ตรงนัก ประกอบกับตรงที่หน้านั้นเป็นกระเป๋าเสื้อที่ข้าพเจ้าใส่หนังสือเดินทางไว้ กระสวยเจาะตรงตราครุฑของหนังสือเดินทางพอดี จะพูดว่าครุฑช่วยข้าพเจ้าไว้ก็ไม่ผิด" นับว่าเป็นความโชคดีของถาวร

ถาวรเคยประสบอุบัติเหตุรถยนต์ถึงสามครั้งสามคราแต่ก็รอดตายได้อย่างหวุดหวิด ครั้งหนึ่งที่ถาวรได้บันทึกไว้ตอนที่ไปซื้อรถยนต์สหประชาชาติที่สิงคโปร์ได้นั่งรถไป 2 คนกับเพื่อนชื่อลิ่มกีตง ซึ่งต่อมาเป็นญาติกับปริญญาน้องชายถาวร ขณะนั้นฝนตกหนัก ถนนลื่นทำให้ เกิดอุบัติเหตุรถหมุน รถเกือบตกหน้าผาที่ยะโฮบารู มาเลเซีย จุดที่ล้อรถหยุดห่างจากขอบหน้าผาสูงไม่กี่นิ้ว

"ครั้งที่สอง รถโกดังวิ่งมาชนรถข้าพเจ้าที่สี่แยกบางนาตราด จุดที่ชนอยู่ตรงกลางตัวรถที่ข้าพเจ้านั่ง ผู้ที่เห็นเหตุการณ์นึกว่าข้าพเจ้าคงแย่แล้ว เดชะบุญรอดไปได้อีกถ้านั่งผิดที่ไปอีก 5 นิ้ว ทางข้างหน้าหรือข้างหลังก็ต้องโดยเหล็กทิ่มลำตัวข้าพเจ้าไปทำบาดแผลเล็กน้อยที่โรงพยาบาลเท่านั้น" ถาวรเล่าให้ฟังถึงอุบัติเหตุ

และรถนิสสัน PRESIDENT คันที่ถาวรนั่งไปในวันนั้นถาวรก็ได้นำมาซ่อมแล้วเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วย ถึงกระนั้นก็ตามอุบัติเหตุครั้งที่สามก็เกิดขึ้นอีก

"ครั้งนี้เกิดขณะที่นั่งรถยนต์ไปพัทยา มีคุณอุษาและพรทิพย์ ลูกสาวนั่งไปด้วย มีรถวิ่งมาชนรถที่นั่งอยู่ ทำให้รถหมุนไป 3 รอบ เดชะบุญรถไม่คว่ำ เลยไม่มีใครเป็นอันตรายในเรื่องอุบัติเหตุนี้ หมอดูหลายคนบอกว่าข้าพเจ้าน่าจะตายไปแล้ว"

ณ วันนี้ ถาวรอายุ 76 ปี แลเห็นความเปลี่ยนแปลงอันไม่แน่นอนของชะตาชีวิตและเหตุการณ์เศรษฐกิจบ้านเมือง ที่ตนเองไม่อาจจะลงมือกระทำได้ แต่ได้มอบภารกิจนี้แก่ทายาทรุ่นหลังต่อมาที่เปลี่ยนแปลงโฉมสยามกลการที่มีอายุ 40 ปีภายใต้ชื่อเรียกใหม่ของกลุ่มว่า "สยามกรุ๊ป"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us