13 กุมภาพันธ์ - โดมิเนียน บอนด์ เรทติ้ง เอเจนซี่ แห่งโตรอนโต ลดอันดับความน่าเชื่อถือในตราสารแห่งหนี้ของโอแอนด์วาย
ทำให้เกิดความหวั่นวิตกทั่วไปในตลาดตราสารการพาณิชย์ และยิ่งทำให้โอแอนด์วายรีไฟแนนซ์เครื่องมือหนี้ระยะสั่งได้ยากขึ้น
12 มีนาคม - ศาลอังกฤษสั่งให้โอแอนด์วายต้องจ่ายเงิน 100 ล้านปอนด์ (180
ล้านดอลลาร์) ให้แก่มอร์แกน สแตนเลย์ กรุ๊พ ในทันที แต่การตัดสินใจดังกล่าวต้องรอการอนุมัติจากศาลสูงก่อนโอแอนด์วายกล่าวว่า
ตนจะจ่ายภายในวันที่ 30 มิถุนายน
22 มีนาคม - โอแอนด์วายยอมรับเป็นครั้งแรกว่า ตนกำลังเผชิญ "ภาวะวิกฤตสภาพคล่อง"
25 มีนาคม - โอแอนด์วายแต่งตั้งโทมัส จอห์นสัน อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่แมนูแฟคเจอเรอร์
แฮโนเวอร์ ขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัท ส่วนพอล รีชมานน์ ลงจากตำแหน่งดังกล่าว
กลางและปลายเดือนมีนาคม - โอแอนด์วายไม่สามารถทำตามสัญญาที่ว่าจะชำระหนี้ตราสารการพาณิชย์
ที่ใช้ "เอ็กแชนจ์ทาวเวอร์" ในโตรอนโตเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันได้
30 มีนาคม - โอแอนด์วายถอนตัวออกจากตลาดตราสารหนี้เชิงพาณิชย์ ซึ่งบริษัทเคยใช้เพื่อกู้ยืมเงินเป็นจำนวน
1,400 ล้านดอลลาร์แคนนาดา (1,180 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงปีที่แล้ว
31 มีนาคม - โอแอนด์วายไม่สามารถหาเงินจำนวน 40 ล้านปอนด์ (72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
เพื่อขยายเส้นทางใต้ดินที่จะเป็นตัวเชื่อมโครงการคานารี วอร์ฟเข้ากับระบบรถไฟใต้ดินของลอนดอนได้
1 เมษายน - โอแอนด์วายไม่สามารถชำระหนี้หุ้นกู้จำนองมูลค่า 450 ล้านดอลลาร์
(380 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ของสคอเทีย พลาซ่าทาวเวอร์ในโตรอนโตได้
13 เมษายน - โอแอนด์วายเปิดเผยยอดบัญชีเป็นครั้งแรก และเผยแผนการปฏิรูปหนี้ต่อบรรดาเจ้าหนี้เกือบ
100 รายจากทั่วโลกในโตรอนโต เจอรัลด์ กรีนวัลด์ ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่แทนจอห์นสัน
-โอแอนด์วายขอกู้เงินจากบรรดาเจ้าหนี้อีก 100 ล้านปอนด์ (179 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
สำหรับโครงการคานารี วอร์ฟและอีก 100 ล้านดอลลาร์แคนาดา (84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
สำหรับกิจการอื่นๆ ในแคนาดา
14 เมษายน -โอแอนด์วายไม่สามารถชำระดอกเบี้ยจำนวน 62 ล้านดอลลาร์ของยูโรบอนด์จำนวน
800 ล้านดอลลาร์ได้ ทั้งนี้หนี้ดังกล่าวใช้ "เวิร์ลด์ ไฟแนนเชี่ยล เซ็นเตอร์"
ในแมนฮัตตันเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
29 เมษายน - โรเบิร์ท แคมเปา นักธุรกิจชื่อดังที่บริษัทแคมเปาคอร์ปของเขาถูกหนี้สินรุมเร้าอย่างหนัก
ยื่นฟ้องโอแอนด์วาย, พี่น้องรีชมานน์ และเนชั่นแนล แบงก์ ออฟ แคนาดา เรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน
1,250 ล้านดอลลาร์แคนาดา (1,050 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในข้อหาที่จำเลยให้สัญญาว่าจะจ่ายชำระหนี้ให้บริษัทก่อนล่มสลาย
1 พฤษภาคม - โอแอนด์วายไม่สามารถชำระหนี้งวดแรกจำนวน 155 ล้านดอลลาร์ของหุ้นกู้จำนองที่เอา
"เอทน่า เซ็นเตอร์" อาคารสูง 45 ชั้นในโตรอนโตเป็นตัวค้ำประกัน
พรูเดนเชียล เรียลตี้กรุ๊ปเจ้าหนี้หุ้นกู้จำนองดังกล่าวตกลงว่าจะไม่เอาผิดกับโอแอนด์วาย
4 พฤษภาคม - โอแอนด์วายไม่สามารถชำระหนี้จำนวน 17 ล้านดอลลาร์แคนนาดา (14
ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ของ "เฟิร์ส แคนาเดียน เพลซ" อาคารสำนักงานใหญ่สูง
72 ชั้นในโตรอนโตได้
-กระทรวงการคลังแคนาดาและรัฐบาลออนดาริโอกล่าวว่า พวกเขาจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในข้อตกลงเรื่องการปรับโครงสร้างใด
ๆ ของโอแอนด์วาย
7 พฤษภาคม - โอแอนด์วายเสนอขายหุ้นในตลาดเพื่อจะไม่ต้องกู้หนี้ใหม่ไปชำระหนี้เก่า
นอกจากนี้ บริษัทยังขอให้มีการชะลอการชำระหนี้จำนวน 12,000 ล้านดอลลาร์ไว้ก่อนและเสนอหุ้นทุนในบริษัทเอกชนรายใหญ่จำนวน
20% ให้แก่เจ้าหนี้
8 พฤษภาคม - โอแอนด์วายได้รับเงินอัดฉีดเพิ่มโครงการคานารีวอร์ฟจากบรรดาธนาคารเจ้าหนี้
ซึ่งตกอนุมัติเงินดังกล่าวเพื่อยืดอายุโครงการไปอีก 1 เดือน
12 พฤษภาคม - รัฐบาลอังกฤษยืนยันจะขอเช่าสำนักงานในดอคแลนด์เพื่อเป็นที่ตั้งศูนย์บริการพลเรือน
และทำให้โครงการคานารีวอร์ฟได้รับการสนับสนุน
- คำอุทธรณ์ต่อศาลของโอแอนด์วายที่มีต่อมอร์แกนสแตนเลย์ เริ่มเข้าสู่การพิจารณาของศาลสูงอังกฤษ
13 พฤษภาคม - เจ. พี. มอร์แกนทำสัญญาสวอปหนี้ที่ค้างชำระของโอแอนด์วาย และลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ชั้นนำฉบับหนึ่งเพื่อประมูลขายหนี้ที่สวอปดังกล่าว
ในวันที่ 22 พฤษภาคม
14 พฤษภาคม-โอแอนด์วายถูกศาลสูงอังกฤษตัดสินให้แพ้คดีมอร์แกน สแตนเลย์ และต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นเงิน
240 ล้านดอลลาร์
-โอแอนด์วายยื่นขอล้มละลายต่อศาลแคนาดา และอาจจะรวมถึงศาลสหรัฐฯ ด้วยในวันที่
15 พฤษภาคมเงินดอลลาร์แคนาดาอ่อนตัวลงอย่างมาก
15 พฤษภาคม - นักวิเคราะห์คาดมหาเศรษฐีลี กา-ชิงแห่งฮ่องกงอาจเข้าประมูลซื้อกิจการโอแอนด์วาย
ขณะที่กลุ่มบริษัทสัญชาติแองโกล-อเมริกันก็แสดงความสนใจเข้าซื้อโครงการคานารี
วอร์ฟด้วย
5 มิถุนายน-กลุ่มธนาคารเจ้าหนี้ของโอแอนด์วายตกลงให้เงินฉุกเฉิน 87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เพื่อให้ดำเนินโครงการคานารีวอร์ฟต่อไปได้ และจะจัดตั้งกองทุนให้โอแอนด์วายถอนไปใช้ได้เมื่อจำเป็น
อีกทั้งมีข่าวว่าโอแอนด์วายอาจจะเลือก เจ. พี. มอร์แกนเป็นผู้ปฏิรูปโครงสร้างหนี้สินให้
6 มิถุนายน-พอล รีชมานน์ เตรียมนำโครงการคานารี วอร์ฟ ออกประมูลขาย เพื่อรักษาสิทธิในการควบคุมโครงการดังกล่าวไว้
ขณะที่เอิร์น แอนด์ ยังก์ก็ว่ามีผู้สนใจจะเข้ากอบกู้โครงการคานารี วอร์ฟถึงราว
6-10 ราย
8 มิถุนายน - เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์เผยยอดที่บริษัทปล่อยกู้ให้โอแอนด์วายว่าสูงถึง
787 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินกู้ส่วนที่มียอดถึง 750 ล้านดอลลาร์นั้น เนื่องมาจากการที่บริษัทเข้าไปมีส่วนร่วมในสินเชื่อแบบซินดิเคทจำนวน
2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปล่อยให้แก่โอลิมเปีย แอนด์ ยอร์ค รีซอร์ส เครดิตคอร์ป